(16 ธ.ค. 62) น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ ฝากถามถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้ความรู้อะไรตัดสินให้ ผ้าอนามัยเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2562 โดยสามารถเรียกเก็บภาษีได้มากถึง 40% โดยไม่ควบคุมราคา นายกควรจะให้ความสำคัญของประชากรสตรีที่มีค่าใช้จ่ายที่สูงพออยู่แล้ว ควรทำให้ผ้าอนามัยเป็นสินค้าปลอดภาษี หรือแจกฟรีในสถานศึกษาทั่วไป เพราะเป็นสิ่งของที่สตรีหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยมีการระบุถึงข้อมูลการใช้จ่ายสำหรับสตรีด้วยว่า
"ผ้าอนามัย 1 ห่อ ประมาณ 40-60 บาท แบบสอดประมาณ 80 บาท ตอนกลางวันบางคนมามากต้องใช้แบบตอนกลางคืน (ซึ่งการมามากมาน้อยขึ้นอยู่กับบุคคล) แต่ผ้าอนามัยควรเปลี่ยนทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อสุขอนามัยที่ดี เฉลี่ยใช้วันละ 7 แผ่น เมนส์มาประมาณ 4-7 วันแล้วแต่คน เฉลี่ยแล้วเมนส์มา 1 ครั้งใช้ผ้าอนามัยประมาณ 30 กว่าแผ่น ก็ประมาณ 400 บาทต่อเดือน” ถ้าผู้หญิงหนึ่งคนมีช่วงที่มีประจำเดือนสัก 30 ปี ก็จะเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 140,000 บาท"
ทั้งนี้ น.ส.เกศปรียา ยังกล่าวต่ออีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจโดยไม่คิดถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของสตรี ต้องการให้ประชาชนสตรีออกไป ‘วิ่งไล่ลุง’ใช่หรือไม่?”