นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวกรณี ส.ส.พรรคภูมิใจไทย วอล์คเอ้าท์ออกจากห้องประชุมในการโหวตวาระ 3 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหา ยังสามารถทำงานร่วมกันได้ เพราะเรื่องนี้ต้องแยกส่วนกัน ที่เป็นเรื่องของสภา ไม่เกี่ยวกับฝ่ายบริหาร

แต่กรณีที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิไทย พูดอาจจะมีอารมณ์ เนื่องจากพิจารณามากัน 2 วาระแล้ว นายชาดา คงจะมองว่าเหตุใดไม่ดันให้ครบถ้วนกระบวนความให้จบ ซึ่งหลังจากเมื่อคืนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ยืนยัน นายชาดา และลูกพรรค เดินออกจากห้องประชุม ไม่ได้เป็นการวอล์คเอ้าท์ แต่เนื่องจากในช่วงนี้นายชาดา มีอารมณ์และถือว่าอาวุโสที่สุดในขณะนั้น ทาง ส.ส.จึงได้เดินออกมา เป็นการเดินตามเท่านั้น นายอนุทินยังเปิดเผยด้วยว่า การไม่อยู่ลงมติในวาระ 3 เพราะภูมิใจไทยได้แสดงเจตนารมย์กับประชาชนไว้ และได้ร่วมแก้รัฐธรรมนูญผ่านมา 2 วาระแล้ว แต่เมื่อมาถึงวาระที่ 3 ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัย ก็ต้องทำตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ที่ต้องให้ไปทำประชามติ เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจในฐานะเจ้าของประเทศ เนื่องจากคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันธ์ทุกองค์กร พรรคภูมิใจไทย จึงยืดคำสั่งศาล มากกว่าความคิดเห็นของนักกฏหมาย เพราะถ้าทำผิด ก็เสี่ยงที่จะถูกยุบพรรคได้ ไม่อยากตีความกันเอง เพราะถ้าตีความผิดก็จะวุ่นวาย เมื่อมีคนไปร้อง จะถูกข้อหายุบพรรคอีก

เมื่อถามย้ำว่า ที่พรรคภูมิใจไทยวอล์คเอ้าท์ ออกมาห้องประชุมเป็นการเชฟตัวเองหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นการเดินออกตามนายชาดาเท่านั้น แต่ภูมิใจไทยมีมติที่ชัดเจนว่าจะไม่ลงมติในวาระ 3 เพราะจะเป็นการขัดต่อคำสั่งของศาล

ส่วนเรื่องการแก้รัฐธรรนูญจะนำไปสู่การยุบสภาหรือไม่นั้น นายอนุทิน ได้ชี้ไปที่ตึกไทยคู่ฟ้า และบอกว่าให้ไปถามคนที่ตึกโน้น จะมาถามตนเองได้อย่างไร เพราะไม่มีอำนาจในการยุบสภา ยืนยัน พรรคภูมิใจไทย จะไม่มีการถอนตัวในการร่วมรัฐบาล เพราะเรื่องนั้นเป็นเรื่องของสภา และเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.

ส่วนหลังจากนี้ พรรคภูมิใจไทยจะมีการเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราหรือไม่ นายอนุทิน ย้ำว่า ให้ยืดความคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้ทำประชามติก่อน จะร่างใหม่ทั้งฉบับ หรือรายมาตรา ต้องถามประชาชนก่อน ให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ ยืนยัน จะไม่แตะหมวดพระมหากษัตริย์ และต้องดูว่าแก้อย่างไรไม่เหนื่อย ไม่แก้ผิดกฏหมาย และไม่ต้องมาลุ้นว่าจะถูกยุบพรรคหรือไม่ ซึ่งวันนี้คนที่ลงมติวาระ 3 ถูกยื่นร้องตรวจสอบแล้ว

ส่วนกรณีนายรังสิมัน โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาต่อว่าพรรคภูมิไทยใจ ไม่ทำตามที่หาเสียงกับประชาชน เรื่องนี้นายอนุทิน ย้อนกลับว่า อย่ามาก้าวกายองค์กร แต่วิจารณ์บุคคลได้ ไม่ใช่หน้าที่ ยืนยัน ไม่ได้หลอกลวงประชาชนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และพรรคภูมิใจไทย ยินดีที่จะเดินตามกระบวนการ ให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ พร้อมย้ำว่า ต้องทำตามศาลรัฐธรรมนูญ เพราะศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่ศาลไคฟง ให้ทำตามระเบียบทำตามกฏหมาย

ส่วนในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายอนุทินระบุว่าพรรคภูมิใจไทยก็จะแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราที่เห็นว่าควรมีการแก้ไข แต่ยืนยันว่าจะไม่แตะต้องในหมวดพระมหากษัตริย์ เช่นเดียวกับมาตราที่เกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่น มองว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีโทษเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นที่รุนแรงอยู่แล้ว ถ้าจะแก้ก็คงจะเป็นลักษณะของการเพิ่มบทลงโทษ และความรวดเร็วในการดำเนินคดีกับผู้ที่ทำผิดมากกว่า

อย่างไรก็ตามนายอนุทิน ระบุ ว่าส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับกรณี สว. 250 คน แต่ทั้งนี้มองว่าเป็นเรื่องที่ต้องอดทนไปก่อน เพราะมาตรานี้เป็นบทเฉพาะการมีระยะเวลาเพียง 5 ปีเท่านั้น ซึ่งมองว่าไม่ได้เป็นปัญหา พร้อมกล่าวทิ้งท้ายในประเด็นนี้ว่ามันไม่ใช่ปัญหาแล้วเราจะชักใบให้เรือเสียทำไม ไดโนเสาร์มันก็ไปเองไม่มีใครไปทำลายเค้าได้ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าไดโนเสาร์ที่พูดถึงนั้นคือใคร นายอนุทินปฏิเสธที่จะตอบกล่าวเพียงสั้นๆว่าไม่รู้ พร้อมกับพูดกับผู้สื่อข่าวว่าตนเองมีนัดประชุมกับนายกรัฐมนตรีก่อนที่จะเดินจากตึกบัญชาการไปยังตึกไทยคู่ฟ้าทันที