กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเทศบาลนครเชียงใหม่ จัดพิธีลงนามส่งมอบและรับมอบภารกิจด้านการบริการบริหารสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 3 (อาเขต 2) อย่างเป็นทางการ ได้พ่อเมืองฯ เป็นสักขีพยาน สองฝ่ายร่วมใจยืนยันชัดจะร่วมกันบริหารพื้นที่เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน พร้อมเปิดปฐมฤกษ์เฉลิมฉลองและเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตั้งแต่ 4 พ.ย.2554 เป็นต้นไป ซึ่งจะเป็นการรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวในงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ครั้งที่ 2 รวมทั้งงานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่
เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 25 ต.ค.54 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคารห้องประชุมเวียงพิงค์อาเขต อาคารสถานีผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่แห่งที่ 3 (อาเขต 2) ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีขนส่งอาเขตเดิม ได้มีการจัดพิธีลงนามส่งมอบและรับมอบภารกิจด้านการบริหารสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 3 (อาเขต 2) โดยนายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ นำเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายเข้าร่วม มี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเป็นสักขีพยานนายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 และแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรส่วนท้องถิ่น ได้กำหนดให้กรมการขนส่งทางบกต้องถ่ายโอนสถานีขนส่งผู้โดยสารให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ใน 15 ภารกิจถ่ายโอน ได้แก่ 1.การบริหารช่องจอดรถรับ – ส่งของรถโดยสารประจำทาง 2.การบริหารพื้นที่ลานจอดรถ 3.การจัดจำหน่ายตั๋วพื้นที่โดยสาร 4.จัดระบบการจราจรภายในสถานี 5.การรักษาความสะอาดภายในสถานี 6.การรักษาความปลอดภัย 7.การประชุมสัมพันธ์และบริการข้อมูลการเดินทาง 8.การควบคุม ดูแล การติดตั้งป้ายโฆษณาในบริเวณสถานี 9.การจัดให้มีบริการห้องสุขา 10.การจัดให้มีการบริการจำหน่ายสินค้า เบ็ดเตล็ด และเครื่องดื่ม 11.การจัดให้มีบริการฝากของ 12.การจัดให้มีบริการรถรับจ้าง 13.การจัดให้มีบริการรถเข็นสัมภาระ 14.การเก็บเงินค่าบริการสถานีขนส่ง 15.การจัดหา ดูแล ซ่อมแซม บำรุงรักษาอาคาร สถานที่ และวัสดุอุปกรณ์สำหรับสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กรมการขนส่งทางบก มีหน้าที่รับผิดชอบ 6 ภารกิจได้แก่ 1.กำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเอกชน ผู้ดำเนินกิจการสถานีขนส่ง 2.ตรวจสอบการปฏิบัติตามระเบียบเกี่ยวกับสถานีขนส่ง 3.การตรวจสอบรถโดยสารที่เข้าใช้สถานีขนส่ง 4.การตรวจสอบผู้ประจำรถ 5.ตรวจสอบการปฏิบัติตามเงื่อนไขใบอนุญาติประกอบการขนส่ง 6.การจัดทำรายงานปกติทั้งนี้ นายสถานีขนส่งจะเป็นผู้กำกับดูแลดำเนินการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในภารกิจทั้ง 15 ภารกิจ ให้มีการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด และปฏิบัติตามระเบียบที่เกี่ยวข้องดังนั้น เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2551 กรมการขนส่งทางบก โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ทำการถ่ายโอนภารกิจสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่แห่งที่ 1 (ช้างเผือก) และสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่แห่งที่ 2 (อาเขต) ให้แก่เทศบาลนครเชียงใหม่ไปบริหารงานใน 15 ภารกิจ ข้างต้นต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2552 กรมการขนส่งทางบกได้รับงบประมาณภายใต้โครงการแผนฟื้นฟูเสรษฐกิจ ระยะที่ 2 (งบประมาณไทยเข้มแข็ง) จำนวน 182,186,280 บาท แบ่งเป็นค่าจัดซื้อที่ดินเนื้อที่ 11 ไร่ 2 งาน 56 ตารางวา เป็นเงิน 131,797,392 บาท และค่าก่อสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่แห่งที่ 3 อีกจำนวน 50,388,888 บาทโดยมีบริษัท ลิ้งค์อินโนวาพร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.2553 เป็นต้นมาและแล้วเสร็จส่งมอบให้สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2554 ดดยอาคารสถานีแห่งนี้ได้ออกแบบให้มีความทันสมัยมากขึ้น เช่น มีการติดตั้งบันไดเลื่อนอัตโนมัติขึ้นลงอาคาร มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศทั้งชั้นบนและชั้นล่างของอาคาร มีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV จำนวน 32 ตัว มีการติดตั้งจอภาพแอลซีดีแสดงเที่ยวรถเข้าและออกที่ชานชลาประจำทางของบริษัทเส้นทางต่างๆ จำนวน 7 เครื่อง รวมทั้งมีช่องจอดรถรับส่งผู้โดยสารจำนวน 21 ชานชลานายชาญชัยฯ เปิดเผยต่อไปว่า ในส่วนของการจัดแบ่งรถโดยสารประจำทางเพื่อเข้าใช้สถานีขนส่งแห่งใหม่นี้สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ได้นำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกประจำจังหวัดเชียงใหม่และได้รับความเห็นชอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยรถที่จะนำมาให้บริการได้แก่ 1.รถโดยสารประจำทางปรับอากาศเส้นทางเชียงใหม่ – กรุงเทพฯ ทุกบริษัทซึ่งเป็นรถร่วมของบริษัท ขนส่ง จำกัด ยกเว้น รถบริษัท ขนส่ง จำกัด (รถ 99 และรถ 999) รวมทั้งรถของบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด 2.รถโดยสารประจำทางปรับอากาศของบริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด และบริษัท ชัยพัฒนาขนส่ง จำกัด ทุกเส้นทางซึ่งครอบคลุมภาคเหนือตอนบนและเส้นทาง เชียงใหม่ – ภูเก็ต ยกเว้นรถร่วมของบริษัท 3.รถโดยสารประจำทางปรับอากาศเส้นทาง เชียงใหม่ – หัวหินของบริษัท สมบัติทัวร์ จำกัด 4.รถโดยสารประจำทางปรับอากาศเส้นทาง เชียงใหม่ – นครราชสีมาของบริษัท นครชัยทัวร์ จำกัด 5.รถโดยสารประจำทางปรับอากาศเส้นทางเชียงใหม่ – อุบลราชธานี ของบริษัท เพชรประเสริฐทัวร์ จำกัด 6.ในอนาคตสถานีขนส่งแห่งนี้จะเป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศ เนื่องจากขณะนี้คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ในการประชุมครั้งที่ 8/2554 เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2554 มีมติเห็นชอบให้กรมการขนส่งทางบกกำหนดเส้นทางรถโดยสารประจำทางระหว่างประเทศขึ้น ได้แก่ เส้นทางสายที่ 8 เชียงใหม่-เชียงราย-เชียงของ-บ่อแก้ว-หลวงน้ำทา-อุดมไชย-หลวงพระบาง
โดยให้บริษัทขนส่งจำกัด จากประเทศไทยและบริษัทนาหลวงขนส่งผ่านแดนและท่องเที่ยว จากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นผู้ประกอบการขนส่งโดยไม่ต้องประกาศรับคำขอเป็นการทั่วไป ซึ่งคาดว่าจะเปิดเดินรถได้ในปี พ.ศ.2555 นี้
สำหรับสถานีขนส่งแห่งนี้กรมการขนส่งทางบกต้องการให้เป็นสถานีขนส่งแห่งแรกที่มีความทันสมัย และเป็นสถานีขนส่งนำร่องในการให้บริการที่เป็นตัวอย่างแก่สถานีขนส่งของจังหวัดอื่น ซึ่งจะมีการก่อสร้างและเปิดให้บริการในอนาคตเช่นเดียวกัน นับว่าเป็นสิ่งที่เชิดหน้าชูตาของจังหวัดเชียงใหม่เป็นอย่างมากโดยเฉพาะเป็นการสร้างสถานีขนส่งที่แล้วเสร็จในปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค.2554 โดยชาวเชียงใหม่ทุกคนมีความภาคภูมิใจที่ได้สถานีขนส่งแห่งใหม่นี้ เป็นการเฉลิมฉลองและเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน
ทั้งนี้ได้มีการกำหนดเปิดใช้บริการผู้โดยสารเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 4 พ.ย.2554 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวในงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ครั้งที่ 2 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งล่าสุดคาดว่าจะเลื่อนการจัดงานดังกล่าวเป็นวันที่ 14 ธ.ค.2554 ถึงวันที่ 14 มี.ค.2555 รวมทั้งเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาชมงานประเพณีลอยกระทงหรืองานประเพณียี่เป็งของจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2554 ที่จะถึงนี้
“หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ และเทศบาลนครเชียงใหม่ จะได้ร่วมมือกันพัฒนาการให้บริการของสถานีขนส่งทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่แห่งที่ 1(ช้างเผือก) สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่แห่งที่ 2 (อาเขต 1) และสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่แห่งที่ 3 (อาเขต 2) แห่งนี้ให้เป็นที่พึงพอใจแก่ประชาชนผู้ใช้บริการต่อไป” ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว
ด้านหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวแสดงความยินดีในการจัดพิธีว่า การถ่ายโอนภารกิจตามแผนการกระจายอำนาจฯ ไปให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ถือเป็นการกระจายอำนาจของรัฐบาลกลางที่แบ่งอำนาจการตัดสินใจไปให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 ที่มุ่งให้ท้องถิ่นสามารถกำหนดทิศทางการบริหารการจัดการบริการสาธารณะได้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะเมืองใหญ่อย่างจังหวัดเชียงใหม่ที่ต้องมีบริการด้านการขนส่งสาธารณะที่ดี เพราะจังหวัดเชียงใหม่ถื่อเป็นศูนย์กลางการพัฒนาในทุกๆ ด้านของภาคเหนือตอนบน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา สาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้ของจังหวัด สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ได้ปีละหลายล้านคนดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่น่ายินดียิ่ง ที่จังหวัดเชียงใหม่จะได้มีสถานีขนส่งฯ แห่งใหม่ ที่มีความทันสมัยสามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้น
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ ตำรวจจราจร และส่วนราชการอื่นๆ จะได้ร่วมมือกันในการบริหารและพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะของจังหวัดเชียงใหม่ ให้สามารถรองรับผู้โดยสารให้มีความประทับใจ พึงพอใจในการใช้บริการ เป็นที่เชิดหน้าชูตาของจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป
ขณะเดียวกันนายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปลายปี 2551 นั้นทางเทศบาลฯ เคยได้รับโอนสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 1 (ช้างเผือก) และแห่งที่ 2 (อาเขต) มาบริหารงานแทนใน 15 ภารกิจ ซึ่งเทศบาลฯ ก็ได้มีการเตรียมการและสามารถบริหารงานมาได้อย่างราบรื่นด้วยการดูแลของกลุ่มงานขนส่ง สำนักการช่าง
และวันนี้เทศบาลฯ ได้รับโอนสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 3 แห่งนี้เพิ่มอีก 1 แห่งซึ่งตนก็เป็นคนเชียงใหม่คนหนึ่งที่รู้สึกภูมิใจว่าจังหวัดเชียงใหม่ของเราจะมีสถานีขนส่งฯ อีกแห่งหนึ่งที่มีความทันสมัย เป็นสากลมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องขอขอบพระคุณ กรมการขนส่งทางบก สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างสถานีขนส่งฯ แห่งนี้เพื่อให้บริเวณสถานีขนส่งทั้ง 2 แห่งได้มีพื้นที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ลดการแออัดลง
ท้ายนี้ขอยืนยันว่า เทศบาลฯ จะพยายามรวบรวมสรรพกำลังทุกด้าน ทั้งบุคลากรและงบประมาณ มาบริหารสถานีขนส่งฯ ทั้ง 3 แห่งที่ได้รับโอนมาให้ดีที่สุด สมกับเป็นประตูแรกสู่จังหวัดเชียงใหม่ต่อไป นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวปิดท้าย
http://www.chiangmainews.co.th/page/?p=50986
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|