เมื่อ19 พฤษภาคม 2550 นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาฯ

ได้กล่าวปราศรัยบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กล่าวหา พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ จนถูกศาลชั้นต้นพิจารณาลงโทษจำคุก ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เป็นเวลา 1 ปี โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี และเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2555 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยศาลอุทธรณ์เห็นว่า ที่จำเลยอุทธรณ์ว่าเป็นการใช้สิทธิปราศรัยตามรัฐธรรมนูญนั้น แม้จำเลยจะมีสิทธิแต่จำเลยต้องคำนึงและเคารพสิทธิของผู้อื่นเช่นกัน การกล่าวหาดังกล่าวตามฟ้อง เป็นการด่าทอโจทก์ ซึ่งจำเลยยอมรับกับศาลว่าเป็นการด่าทอจริง การกระทำของจำเลยทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม การแสดงความคิดเห็นต้องไม่ล่วงล้ำสิทธิของผู้อื่น อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษานั้นศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย จึงพิพากษายืนดังกล่าว

          เมื่อหลายเดือนก่อนนี้นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ต้องถูกจองจำอยู่ในคุก รอการไต่สวน และการตัดสินของศาล ในฐานความผิดตาม ม. 112 แม้จะมีการร้องขอหลายครั้ง ในการยื่นประกันตัว แต่ศาลท่าน หาใจอ่อนไม่ ด้วยเหตุว่า การจับกุมตัว นายสมยศ มีขึ้นขณะเตรียมหนีออกนอกประเทศ การให้ประกันตัว นายสมยศมีวี่แววว่าจะเดินทางหลบหนีอย่างแน่นอน นายสมยศได้ประกาศตนเองอย่างชัดเจนแล้ว ที่จะต่อต้านสถาบันกษัตริย์ ไม่รู้ว่าข้อมูลชิ้นใดที่ทำให้นายสมยศคิดเช่นนั้น การอุทิศตัว เปิดหน้าชกของนายสมยศ มาก่อนเกิดกลุ่มแดงสยามที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มฮาร์ดคอร์ ยิ่งอยู่ในกลุ่มนี้ ความเคลื่อนไหวของนายสมยศยิ่งรุนแรงและก้าวร้าวขึ้นทุกวัน ไม่ได้หวั่นเกรงกฎหมายบ้านเมืองเลย

          การที่นายสมยศ ถูกศาลลงโทษจำคุก ในความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้นไม่ได้ต่างกับความผิดตาม ม. 112 เลย เพราะว่า ม.112 ไม่ใช่มาตราที่จับคนใส่คุกได้อย่างง่ายๆ กระบวนการไต่สวน กระบวนการทางศาลเป็นเรื่องของความละเอียด รอบคอบ ว่ากันไปตามหลักฐานที่มีอยู่ แม้ตัวนายสมยศเอง ก็รู้อยู่ว่าทำอะไรลงไป ไม่ใช่ไม่รู้ และมีเจตนาที่ชัดเจน ท่านที่เรียนกฎหมายคงเข้าใจดีว่า พฤติกรรมส่อเจตนาเป็นอย่างไร นายสม

ยศมีทั้งพฤติกรรมและเจตนาในการละเมิดสิทธิเสรีภาพผู้อื่น ทั้งยังหมิ่นประมาทและใส่ร้ายโดยหาข้อเท็จจริง และการยืนยันไม่ได้

พระพุทธเจ้าสั่งสอนว่า ผู้ใดทำกรรมใด ย่อมได้รับกรรมเช่นนั้น ผู้ที่ทำกรรมชั่ว ย่อมได้รับกรรมชั่ว ผู้ที่ทำกรรมดี ย่อมได้รับแต่ผลดี และความสุขทั่วหน้ากัน

กัมมุนา วัตตะตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม