• ศาลเตือนห้ามพูดถึง คดีที่ดินรัชดาฯ |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 12 ก.ค. 50 เวลา 10:18:59 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานครมีนายประเสริฐ บุญศรี เป็นประธาน เพื่อพิจารณาถึงข้อสังเกตจากที่ประชุมใหญ่ คตส. ใน 2 ประเด็น คือ 1 .คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน อดีตปลัด กทม. สมควรที่จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาด้วยหรือไม่ และ 2.พิจารณาเรื่องการปฏิบัติตามสัญญาการค้าต่างตอบแทนหรือการเปิดแอลซี ว่าควรมีใครถูกแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ ต่อมาเวลา 12.00 น. นายประเสริฐกล่าวหลังการประชุมว่า ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว แต่ยอมรับว่ามีการหารือถึงข้อสังเกตของ คตส.ชุดใหญ่ที่ฝาก 2 ประเด็นไว้จริง ส่วนรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะถือว่าเป็นความลับในสำนวนคดีอยู่ คตส.ประสานออกหมายจับ “พจมาน” วันเดียวกัน ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. กล่าวถึงกรณีที่ผู้ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาได้ขอเลื่อนให้ถ้อยคำ เช่น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคม และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่ระบุว่าป่วยและขอเลื่อนการชี้แจงว่า คตส.จะพยายามผ่อนปรนให้ถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อไม่ให้กระทบกับการทำงานของ คตส.ที่กำลังจะหมดวาระลงในเร็วๆนี้โดยถ้ายังไม่มาให้ถ้อยคำที่ คตส.กำหนด ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 โดยจะขอความร่วมมือไปยังศาลอาญาเพื่อดำเนินการออกหมายจับต่อไป ทั้งนี้ในเมื่อมีการขอเลื่อนเพราะป่วย คตส.ถือว่าเป็นสิทธิที่จะทำได้ ถ้าป่วยจริงแล้ว คตส.ยังดึงดันให้มาชี้แจงอาจถูกมองได้ว่าเป็นการกลั่นแกล้งได้ อย่างไรก็ตามคตส.อาจมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปดูว่าบุคคลที่อ้างว่าป่วยนั้นจริงๆแล้วป่วยจริงหรือไม่ เตือนรีบไปรับทราบข้อกล่าวหา ขณะที่นายบรรเจิด สิงคะเนติ ประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนการทุจริตการจัดซื้อพันธุ์กล้ายาง 90 ล้านต้น ของกรมวิชาการเกษตรเปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนได้รับหนังสือการขอเลื่อนการชี้แจงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จากทนายความผู้รับมอบอำนาจแล้ว โดยพิจารณาแล้วเห็นควรอนุญาตให้เลื่อนการชี้แจงออกไปอีก 10 วัน ตามเหตุผลที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่เซ็นเอกสารที่ทางทนายความส่งไปให้ เพราะระหว่างที่ทนายความส่งเอกสารไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางกลับไปยังประเทศอังกฤษและเซ็นเอกสารและส่งมาให้ทนายความแล้วซึ่งทั้งหมดต้องใช้เวลาจากนั้นจึง จะส่งหนังสือมาให้อนุกรรมการไต่สวนต่อไป ทั้งนี้ขณะนี้ ยังมีผู้ถูกกล่าวหาอีก 3 คนที่ยังไม่มารับทราบข้อกล่าวหาคือ บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นนิติบุคคล พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก และนายอดิศัย โพธารามิก ซึ่งทางอนุกรรมการ ไต่สวนได้ส่งหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาไปทางไปรษณีย์แล้ว แย้ม “ทักษิณ” เข้าข่ายส่งกลับ ส่วนกรณีศาลฎีการับฟ้องคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ซึ่งจะพิจารณานัดแรก วันที่ 14 ส.ค.นี้ โดยหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ไม่มาให้ ถ้อยคำจนอาจจะนำไปสู่การเสนอให้มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้นั้น นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับอัยการและรัฐบาลว่าจะมีความสนใจจะขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานข้ามแดนหรือไม่ หากสนใจจะต้องเตรียมเอกสารคำฟ้อง ซึ่งจะต้องส่งเอกสารตามช่องทางทางการทูตผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ และส่งต่อไปยังสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย จากนั้นจะส่งไปยังกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ และกระทรวงมหาดไทยของอังกฤษต่อไป โดยรัฐบาลอังกฤษจะนำไปพิจารณาอีกครั้งว่าเข้าข่ายสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ ส่วนตัวเข้าใจว่าความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าข่ายสนธิสัญญาฯดังกล่าว ศาลนัดปิดหมายบ้าน “ทักษิณ” วันเดียวกัน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายรักเกียรติ วัฒนพงษ์ เลขานุการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งหมายศาลว่า หลังจากที่องค์คณะฯ ร่วมกันมีคำสั่งให้ประทับรับคำฟ้องคดีทุจริตซื้อขายที่ดินและมีคำสั่งให้อัยการโจทก์พาเจ้าพนักงานศาลไปส่งหมายเรียกแล้ว องค์คณะได้ร่วมกันลงนามในคำสั่งศาลออกหมายเรียกแจ้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน จำเลยทั้ 2 มาศาลในวันนัดพิจารณาครั้งแรก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และศาลฎีกาได้จัดเจ้าพนักงานศาล 2 คน รับผิดชอบเป็นผู้นำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องจำนวน 2 ชุด ไปส่งยังบ้านพักของ พ.ต.ท.ทักษิณที่บ้านพักจันทร์ส่องหล้า เลขที่ 472 ถ.จรัญสนิทวงศ์ 69 แขวง-เขตบางพลัด และบ้านของคุณหญิงพจมาน ที่บ้านพักเลขที่ 526 ถ.พระราม 5 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. องค์คณะฯได้ประสานอัยการโจทก์ให้นำหมายศาลไปส่งในวันที่ 12 ก.ค.นี้ซึ่งการส่งหมายเจ้าพนักงานศาลจะเป็นผู้ทำบันทึกรายงานส่งกลับเข้ามาในสำนวนคดีด้วยว่า ขณะส่งหมายที่บ้านพักจำเลยทั้ง 2 มีผู้ออกมารับหมายหรือไม่ และถ้าไม่มีผู้รับหมายแล้วได้ส่งหมายโดยชอบด้วยการปิดหมายตามคำสั่งศาลแล้วหรือไม่ โดยการส่งหมายถ้าไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดออกมารับหมายศาลแทนจำเลยทั้ง 2 ตามคำสั่งศาลแจ้งไว้ชัดว่าให้ปิดหมายโดยถือว่าดำเนินการส่งหมายโดยชอบ แล้ว ซึ่งหากมีใครทำลายหรือดึงหมายศาลออก ผู้นั้นอาจต้องมีความผิดตามโทษในประมวลกฎหมายอาญาด้วย ศาลเตือนห้ามให้สัมภาษณ์ นายรักเกียรติกล่าวว่า นอกจากนี้ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนอยู่เนืองๆ ว่า นายนพดล ปัทมะ ให้สัมภาษณ์ว่า “กระบวนการยุติธรรมถูกแทรกแซง คดีที่ดินรัชดาศาลมีธง” และนายอรรถพล ใหญ่สว่าง กับพนักงานอัยการที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ดินรัชดาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระบวนการพิจารณา ซึ่งเป็นดุลยพินิจของศาลในการสั่งคดี เนื่องจากขณะนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำสั่งให้ประทับรับฟ้องคดีทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาไว้แล้ว เป็นคดีหมายเลขดำที่ อม.1/2550 ระหว่างอัยการสูงสุด โจทก์ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ภรรยา จำเลยที่ 1-2 ไว้พิจารณาแล้ว คดีดังกล่าวจึงอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล การกระทำของบุคคลดังกล่าวข้างต้น จึงอาจเข้าข่ายเป็นการให้ข้อความหรือความเห็นโดยประสงค์จะให้มีอิทธิพลเหนือความรู้สึกของประชาชนหรือเหนือศาล หรือเหนือคู่ความ หรือเหนือพยานแห่งคดี ซึ่งพอจะเห็นได้ว่าจะทำให้การพิจารณาคดีเสียความยุติธรรมไป ทั้งนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงขอแจ้งให้บุคคลดังกล่าวข้างต้นและบุคคลอื่นๆ ทราบว่า ไม่ควรกระทำการในลักษณะดังกล่าวอีก เพราะอาจเป็นการกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาลได้ อัยการพร้อมนำเจ้าพนักงานปิดหมาย ทางด้านนายอรรถพล ใหญ่สว่าง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ขณะนี้อัยการได้ประสานกับเจ้าพนักงานศาลฎีกาฯ เพื่อไปรับหมายศาลและพาพนักงานศาลไปส่งหมายแล้วในวันที่ 12 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น. และอัยการได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ สน.บางพลัด และ สน.ดุสิต เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางและติดตามเฝ้าสังเกตการณ์การส่งหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้การส่งหมายนายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ หัวหน้าคณะทำงานอัยการรับผิดชอบคดี จะเป็นผู้นำทีมพาเจ้าพนักงานศาลไปส่งหมายยังบ้านจันทร์ส่องหล้า ถ.จรัญสนิทวงศ์ 69 ก่อน แล้วจึงเดินทางไปส่งหมายที่บ้านพักเลขที่ 526 เขตดุสิตเป็นลำดับสุดท้าย คมช.ยันคุ้มครอง “ทักษิณ” เต็มที่ วันเดียวกัน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลความปลอดภัยกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 14 ส.ค. เพื่อให้ปากคำในคดีที่ดินรัชดาว่า ภาระหน้าที่ของ คมช. คงจะเป็นเรื่องของความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งทางรัฐบาลควรจะต้องจัดมาว่าจะให้ คมช. กอ.รมน. หรือจะให้ทางตำรวจ ก็แล้วแต่รัฐบาล แต่อย่างไรก็ตาม เราถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องให้ความปลอดภัยสูงสุด เมื่อถามว่า ก่อนวันที่ 14 ส.ค. อดีตนายกรัฐมนตรีสามารถเดินทางกลับมาด้วยความปลอดภัย พล.อ.สนธิตอบว่า อยากจะบอกว่าเราจะดูแลอย่างเต็มที่แล้วกัน ให้ความปลอดภัยเต็มที่ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาลยังไม่ได้สั่งการอะไรมา “ทักษิณ” จี้ทีมทนายเร่งฟ้อง คตส. ด้านนายประเกียรติ นาสิมมา โฆษกคณะทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันนี้ทีมทนายได้หารือเพื่อเตรียมความพร้อมในการฟ้องร้องคดีต่างๆ กับ คตส. ไม่ว่าจะเป็นกรณีอายัดทรัพย์ ที่ดินรัชดา รวมถึงคดีอื่นๆ ซึ่งเป็นการเร่งดำเนินการตามคำสั่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ คาดว่าในวันจันทร์ที่ 16 ก.ค.นี้จะเขียนสำนวนฟ้องเสร็จสิ้น และจะมีการแถลงข่าวอีกครั้ง ส่วนกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้นำหมายเรียกไปติดที่บ้านจันทร์ส่องหล้าในวันที่ 12 ก.ค. รวมทั้งมีหมายเรียกให้มาขึ้นศาลในวันที่ 14 ส.ค.นั้น ทีมทนายความได้หารือถึงสถานการณ์ ต่างๆแล้วเบื้องต้นยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาสู้ คดีแน่ แต่จะกลับมาในวันที่ 14 ส.ค.หรือไม่นั้น ยังไม่ สามารถบอกได้ เพราะสถานการณ์การเมืองต้องดูแบบวันต่อวัน โดยทีมทนายได้รายงานสถานการณ์การเมืองให้ พ.ต.ท.ทักษิณทราบอย่างต่อเนื่องเพราะมีความเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยแทงกั๊กกลับมาสู้คดีนัดแรกหรือไม่ ด้านนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล รองโฆษกทีมทนาย กล่าวถึงกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้พนักงานอัยการไปปิดหมายเรียกที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ว่า ถือเป็นกระบวนการปกติของศาล แต่ในความเป็นจริงก็รู้กันอยู่แล้วว่า พ.ต.ท. ทักษิณไม่ได้อยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งก็คงต้องให้ปิดไว้อย่างนั้น ส่วนวันที่ 14 ส.ค. ที่ศาลกำหนดให้มาตามหมายเรียกนั้น ทีมทนายจะต้องพิจารณาสถานการณ์และปัจจัยต่างๆก่อน และต้องหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณว่าควรจะเดินทางกลับมาหรือไม่ แต่วันนี้เห็นชัดว่าสถานการณ์ในประเทศไทยไม่ปลอดภัย กระบวนการยุติธรรมก็ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม กว่าจะถึงวันที่ 14 ส.ค. ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ ต้องพิจารณาดูปัจจัยหลายอย่าง ทนายเลื่อนแจงเป็น 22 ก.ค. วันเดียวกัน ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายกิตติพร อรุณรัตน์ ทนายความจากบริษัท เอ เค แอนด์ เอ ผู้ได้รับมอบอำนาจดูแลคดีการจัดซื้อพันธุ์กล้ายางพารา 90 ล้านต้น ของกรมวิชาการเกษตรเดินทางมายื่นหนังสือเพื่อขอเลื่อนการชี้แจงของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกกล่าวหาในคดีดังกล่าว ต่อนายบรรเจิด สิงคะเนติ กรรมการ คตส.ในฐานะประธานอนุกรรมการฯ โดยนายกิตติพรกล่าวว่า ตนได้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับข้อกล่าวหาทั้งหมดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศอังกฤษแล้ว แต่ท่านยังไม่ได้ลงนามรับทราบ จึงต้องขอเลื่อนจากเดิมที่กำหนดไว้วันที่ 12 ก.ค. เป็นวันที่ 22 ก.ค. โดยนายบรรเจิดเข้าใจเหตุผลที่ทนายความได้อธิบายเนื่องจากลูกความไม่ได้อยู่ในประเทศไทยและในการส่งเอกสารประกอบสำนวนต้องใช้เวลาในการส่ง นายกิตติพรยังกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังได้รับมอบอำนาจให้เป็นทีมทนายเพื่อยื่นเรื่องขอพิสูจน์ทรัพย์ที่คตส.มีมติสั่งอายัด โดยทีมทนายจะมายื่นพิสูจน์ก่อนครบกำหนด 60 วันแน่นอน โดยจะทยอยยื่นเป็นรายบุคคล วอน คตส.แยกอายัดเงินว่าจ้างทนาย เมื่อถามว่า เป็นกังวลหรือไม่ที่ คตส.ได้มีมติอายัดทรัพย์นายสมพร พงษ์สุวรรณ 1 ในทีมทนายของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นเงินค่าว่าจ้างทนายที่ได้จากการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป จำนวน 7.3 หมื่นล้านบาท นายกิตติพรตอบว่า อยากให้ คตส. แยกแยะว่าในการว่าจ้าง ทนายก็ต้องมีการจ่ายเงินค่าตอบแทนเกิดขึ้น จึงอยากให้ พิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบและขอโอกาสให้ทีมทนายได้ต่อสู้เพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวหา ส่วนตัวเชื่อว่านอกจากเงิน 7.3 หมื่นล้านแล้ว น่าจะมีเงินส่วนอื่นของลูกความสามารถว่าจ้างทนายได้ แต่ถ้า คตส.จะตามอายัดบัญชีของทนาย ก็ถือว่าเป็นการตัดแขนตัดขา ทั้งนี้เงินค่าว่าจ้างทนายเป็นเงินที่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีที่มาถูกต้องหรือไม่ โดยสามารถติดตามได้จากการเสียภาษีจากกรมสรรพากร “ศิธา” พร้อมให้ข้อมูลฟัน“อภิรักษ์” ทางด้าน น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะอนุกรรมการไต่สวนการจัดซื้อรถดับเพลิง เรือดับเพลิง กทม. ของ คตส. ที่มีนายประเสริฐ บุญศรี เป็นประธานฯ ไม่แจ้งข้อกล่าวหานายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. โดยอ้างว่าหลักฐานและเอกสารไม่เพียงพอ ว่า เอกสารที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯกทม. และนายโภคิน พลกุล อดีต รมว. มหาดไทย เซ็นลงนามนั้น เปรียบเหมือนเป็นเพียงแค่เศษกระดาษธรรมดาเท่านั้น แต่ถ้านายอภิรักษ์เซ็นลงนามเปิดแอลซีแล้วก็จะทำให้เศษกระดาษนั้นกลายเป็นสัญญา กลายเป็นเช็คที่สามารถขึ้นเงินได้ นายอภิรักษ์ก็ทราบดี แต่ก็ยังคงลงนามอยู่ ดังนั้น จึงอยากถามว่าหากคนลงนามเปิดแอลซีไม่ผิดแล้วใครที่จะผิด ทั้งนี้ ตนมีผลการตรวจสอบสัญญาการจัดซื้อของโครงการดังกล่าวที่มี ดร.บุญเสริม วีสกุล เป็นประธานคณะกรรมการฯ โดยได้มาหลังจากที่ดร.บุญเสริมนำไปมอบให้กับนายอภิรักษ์ แล้วเป็นเวลา 1 เดือน และได้นำมาแสดงต่อสื่อมวลชน พร้อมท้าให้นายอภิรักษ์ออกมายืนยันความบริสุทธิ์ จากนั้นไม่นานนายอภิรักษ์ได้นำเอกสารฉบับเดียวกันออกมาแถลงข่าว แต่ปรากฏว่า มีการแก้ไขข้อความชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ พร้อมทั้งยังมีกล่าวหาว่าเอกสารที่ตนได้รับนั้นไม่ใช่ของจริง ดังนั้น ก็อยากให้มีการพิสูจน์กัน เพราะยืนยันได้ว่าเอกสารที่ตนมีอยู่นั้นเป็นฉบับเดียวกับที่ ดร.บุญเสริมมอบให้กับนายอภิรักษ์ โดยมีพยานรับรู้ถึง 2 ราย คนหนึ่งเป็นอดีต ส.ส.ของพรรคไทยรักไทย ขณะนี้ได้ลาออกไปแล้ว และอีกคนก็เป็นผู้ใหญ่ของกลุ่มไทยรักไทยในขณะนี้ “หาก คตส.ใจกว้างเปิดโอกาสให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้ ชี้แจงข้อมูล ผมก็เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ จะชี้ให้ คตส.เห็นว่า ผู้ว่าฯกทม.มีการบิดเบือนข้อมูลจริงหรือไม่ อย่างไร สำหรับเนื้อหาในเอกสารการตรวจสอบของ ดร.บุญเสริมนั้น ยังมีการระบุด้วยว่า หากผู้ว่าฯกทม.เอาใจใส่ ในรายละเอียด งบประมาณของประเทศชาติก็จะถูกลงอีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีการสรุปเปรียบเทียบส่วนต่างราคาอย่างชัดเจนให้อีกด้วย”ข่าวจากไทยรัฐ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1534 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 12 ก.ค. 50
เวลา 10:18:59
|