นำเสนอข่าวโดยทีมงาน
Sanook.com
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 3 พฤษภาคม 2557 พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส.พร้อม พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภ.5 นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด
เชียงใหม่ นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายสุนทร วินัยบดี ผอ.สำนักตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด นายวิชัย ไชยมงคล ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 และนายสิทธิศักดิ์ กัลยาณประดิษฐ์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด นำกำลังขยายผลเข้ายึดทรัพย์และกิจการของนาย
อนันต์ ใจวัน นักจัดรายการและเจ้าของสถานีวิทยุชุมชน ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญที่จับกุมได้พร้อมยาบ้าจำนวน 292,000 เม็ด ขณะซุกซ่อนมาใน
รถยนต์ มิตซูบิชิ ปาเจโร หมายเลขทะเบียน ขง 1109 เชียงใหม่ ลำเลียงผ่านจุดตรวจผาหงษ์ อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ทรัพย์สินทั้งหมดของ นายอนันต์ ใจวัน มีทั้งหมด 248 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท อาทิ กิจการร้านพร้าวออโตคาร์ 150 หมู่ 9 ตำบลป่าตุ้ม อำเภอพร้าว พร้อมอุปกรณ์ภายในร้าน เครื่องใช้ไฟฟ้าและประดับยนต์ 199 รายการ มูลค่า 35 ล้านบาท สถานีวิทยุเวียงพร้าวเรดิโอ คลื่น FM 102.0 mhz พร้อมอุปกรณ์ มูลค่า 5 ล้านบาท ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 5 รายการ มูลค่า 35 ล้านบาท ที่ดิน สวนลำไย ท่าทราย บ่อปลา ประมาณ 60 ไร่ มูลค่า 60 ล้านบาท ยานพาหนะและอื่นจำนวน 11 คัน เช่น รถยนต์หรูมินิคูเปอร์ รถไถ รถบรรทุก 8 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน และอาวุธปืน 3 กระบอก มูลค่า 15 ล้านบาท
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ผู้ต้องหามีทรัพย์สินค่อนข้างจะมาก หลังจากเจ้าหน้าที่จับกุมและดำเนินคดีเกี่ยวกับการครอบครองและจำหน่ายยาบ้า แล้ว ป.ป.ส.ได้ใช้เวลานานพอสมควรในการตรวจสอบและติดตามมายึดทรัพย์ ซึ่งมีทั้งที่ดินและกิจการต่างๆ ณ ขณะนี้ ทรัพย์สินมีมูลค่าค่อนข้างสูงแต่ยังมีอีกบางส่วนที่ถูกปกปิดและอาจจะมีการ ซุกซ่อน หรือแอบแฝงไว้ในชื่อบุคคลอื่น
"ทรัพย์สินเกือบทั้งหมดผู้ต้องหาใช้ชื่อภรรยา คือ นางอาชัญ ใจวัน ซึ่งเราแจ้งข้อหา พ.ร.บ.ฟอกเงิน และยังมีบุคคลอื่นๆ ที่ยังต้องติดตามอีกมาก มูลค่าเบื้องต้น 150 ล้านบาท ยังไม่นับรวมสมุดบัญชีธนาคารและโครงข่ายที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง ลักษณ์กลุ่มยาเสพติดจะใช้วิธีการฟอกเงิน โดยนำเงินสดที่ได้มาเปลี่ยนเป็นการซื้อทรัพย์สินโดยใช้ชื่อภรรยาและญาติพี่้ น้อง และอีกส่วนจะนำไปซื้อ
ทองรูปพรรณ และกรณีมีการนำทองไปจำนำไว้ในตลาดด้วย ฝากถึงผู้ค้าที่เกี่ยวพันยาเสพติดหากถูกจับได้ต้องถูกยึดทรัพย์เป็นของแผ่น ดิน เราจะไม่ยอมให้ได้เสวยสุข เพราะเป็นตัวการทำลายอนาคตของเด็กและประชาชน"
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา ป.ป.ส.ทำการยึดทรัพย์ยาเสพติดไปแล้วกว่า 3,000 ล้านบาท ครึ่งหนึ่งเป็นการจับกุมในพื้นที่ภาค 5 มูลค่ามหาศาล แต่ยังมีอีกมากที่ต้องเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง นอกจากถูกจับคุมขังแล้วทรัพย์สินที่ได้มาโดยทุจริตต้องถูกอายัดทั้งหมด โครงข่ายนายอนันต์นี้ มีการรับยาเสพติดจากภาคเหนือนำไปส่งขายในกรุงเทพฯ ให้กับกลุ่มผู้ค้ารายย่อยในชุมชนต่างๆ ที่กรุงเทพฯ และเชื่อมโยงโครงข่ายกับภาคกลาง นอกจากนี้ พล.ต.ต.ชำนาญ ได้รวบรวมโครงข่ายนี้เพิ่มอีก 3-4 คน ที่ร่วมขนด้วยกัน และอีกส่วนมีลักษณะแยกขน ซึ่งมีทั้งหนีและถูกออกหมายจับ
"ตลอด 37 ปี โครงข่ายยาเสพติดมีความเชื่อมโยงกันทั้งหมด ทั้งต้นทาง กลางทาง และปลายทาง โดยเป็นยาเสพติดที่มาจากทางภาคเหนือจำนวนมากเข้าสู่กรุงเทพฯ แต่เมื่อมีการคุมเข้มทำให้ยาเสพติดไปทะลักไปยังด่านท่าลี่ จังหวัดเลย ส่วนอีกจุดที่ไปโผล่มากคือกาญจนบุรี โครงข่ายสำคัญของเจ๊เพ็ญ ซึ่งเคยอยู่ท่าขี้เหล็ก
แม่สาย เชียงราย ร่วมกับ พ.ท.ยี่เซ แต่ได้แยกออกมาผลิตเองกับกลุ่มกะเหรี่ยงที่อยู่ฝั่งตะวันตกของไทย มีการผลิตยาเสพติดชนิดใหม่เรียกว่า ยาบ้าพันธุ์อาร์ ซึ่งใส่สารเสพติดเมตแอมเฟสตามีนสูงถึง 30% ขณะที่สูตรเก่าของ พ.ท.ยี่เซ ใช้เพียงไม่เกิน 15-20% เท่านั้น ผลก็คือทำให้เสพติดง่ายและมีผลต่อจิตและประสาทค่อนข้างรุนแรง ที่น่าห่วงคือการบำบัดให้การรักษาทำได้ยากมาก โดยเฉพาะเด็กเยาวชนที่ใช้เวลานานมาก ทำให้สูญเสียงบประมาณ ป.ป.ส.
อาเซียน จึงหารือกับพม่าและจีนเพื่อร่วมกันทำลายแหล่งผลิตในฝั่งประเทศพม่า ซึ่งทางพม่าให้ความ