• อายัดเงิน โอ๊ค-ยิ่งลักษณ์ 232 ล้าน |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 16 ส.ค. 50 เวลา 00:26:21 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่น ดิน (สตง.) ว่า วันที่ 14 ส.ค. คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ประชุมพิจารณาความคืบหน้าในคดีต่างๆที่อยู่ในความรับผิดชอบ หลังการประชุม นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. แถลงว่า คตส.มีมติอายัดทรัพย์ในบัญชีเงินฝากในธนาคารและสถาบันการเงินที่ครอบครัวบุตร บริวารของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพิ่มเติม เนื่องจากพบว่า มีการเคลื่อนย้ายเงินหลังจากที่ คตส.มีมติอายัดทรัพย์ไปก่อนหน้านี้จำนวน 232 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีเงินฝากของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ วงเงิน 202 ล้านบาท ที่มีการนำไปลงทุนในกองทุนเปิดแอสเซทพลัส นิปปอนโกรท ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแอสเซทพลัส จำกัด และในส่วนของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นแคชเชียร์เช็คธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขานานาเหนือ สั่งจ่ายบริษัท ไวท์แอนด์เคส (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 12 ฉบับ เป็นเงิน 30 ล้านบาท กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีหมื่นล้าน นายสักกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นายวิโรจน์ เลาหะพันธ์ กรรมการ คตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่นฯ ได้รายงานการประเมินเรียกเก็บภาษีนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา โดยอธิบดีกรมสรรพากรได้ประเมินภาษีของบุคคลทั้งสองเรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค. โดยเรียกเก็บภาษีของนายพานทองแท้ 5,900 ล้านบาทเศษ น.ส.พิณทองทา 5,900 ล้านบาทเศษ โดยมีการคิดเงินเพิ่มถึงวันที่ 31 ส.ค. ซึ่งกรมสรรพากรได้ส่งหนังสือแจ้งการประเมินดังกล่าวไปให้บ้านเลขที่ 472 จรัญ 69 บางพลัด กทม. แล้ว แต่ปรากฏว่าไม่มีผู้รับ ดังนั้น ในวันเดียวกันนี้ กรมสรรพากรได้เตรียมไปปิดหนังสือประเมินภาษีที่บ้านเลขที่ดังกล่าว แต่ได้มีคนมาเซ็นรับหนังสือแทน ดังนั้นบุคคลทั้งสองจะต้องยื่นอุทธรณ์ภาษีภายใน 30 วัน จะต้องวางเงินประกันในการอุทธรณ์เท่าจำนวนทรัพย์ที่ถูกประเมินคือจำนวน 1.1 พันล้านบาท หากไม่มีการอุทธรณ์และวางหลักทรัพย์ค้ำประกันใน 30 วัน จะถือว่าเป็นภาษีค้าง อธิบดีกรมสรรพากรมีอำนาจยึดทรัพย์สินแล้วนำมาขายทอดตลาด เพื่อชำระค่าภาษี โดยอาจอายัดทรัพย์ที่เป็นเงินในสถาบันการเงิน หรือที่ดินก็ได้ แต่ไม่มีอำนาจไปยึดเงินในต่างประเทศได้ ทั้งนี้บุคคลทั้งสองจะนำเงินที่ถูก คตส.อายัดทรัพย์มาวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือจ่ายเป็นค่าภาษีไม่ได้ เพราะเงินดังกล่าวไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆได้ จนกว่าจะมีการพิสูจน์ทรัพย์เป็นที่สิ้นสุด ป.ป.ช.ไม่พบ “เจ๊แดง” รวยผิดปกติ น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนคดีความร่ำรวยผิดปกติของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทยว่า ขณะนี้ธนาคารต่างๆได้ส่งข้อมูลทางการเงินตามที่ ป.ป.ช.ร้องขอไป มาให้ ป.ป.ช.เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นพบว่า มีบางบัญชีที่นางเยาวภาไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. แต่ไม่มีจุดสังเกตว่า บัญชีทั้งหมดเข้าข่ายการร่ำรวยผิดปกติแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามคณะอนุกรรมการฯต้องตรวจสอบต่อไปว่า มีการนำ ทรัพย์สินไปฝากไว้ในชื่อของบุคคลอื่นหรือไม่ จึงจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ เพื่อหาแนวทางไต่สวนต่อไป ข่าวจาก ไทยรัฐ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1193 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 16 ส.ค. 50
เวลา 00:26:21
|