• ขุดสะพานภาค5ยันเสร็จสิ้นส.ค.นี้ |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 16 ส.ค. 50 เวลา 00:34:35 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
จังหวัดเชียงใหม่ยันพร้อมรับมือน้ำท่วมเต็มสูบ สะพานภาค 5 ขุดเสร็จสิ้นเดือนนี้รับน้ำเพิ่มได้อีก พร้อมเสริมคันดินจุดต่ำและวางแนวกระสอบทรายช่วย ชลประทานหน่วยดูน้ำหลักก็พร้อมรับมือมีเพิ่มจุดตรวจวัดระดับน้ำก่อนถึงเมืองอีกจุดเพื่อเพิ่มการเฝ้าระวังให้มีประสิทธิภาพ ส่วนการสร้าง ประตูระบายน้ำท่าวังตาลเปิดรับฟังประชาชนรอบ 2 ที่ค่ายกาวิละเสาร์นี้ ส่วนจะทันน้ำปีนี้หรือไม่ยังไม่ชัวร์
เมื่อวันที่ 14 ส.ค.2550 ที่ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการกลาง ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการประชุมติดตามความก้าวหน้าในการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วม จ.เชียงใหม่ในปี 2550 โดยมีนายกองเอกวิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมได้ให้ทางสำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ที่เป็นหน่วยงานหลักได้รายงานสถานการณ์การเตรียมพร้อม ในการนี้ทางนางสาวสันทนีย์ ไชยเชียงพิณ นักวิชาการอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือได้รายงานถึงสภาวะอากาศว่า ช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคมนี้มีโอกาสเจอพายุหมุนเขตร้อนตามฤดูกาลอีก 1-2 ลูก ทั้งนี้จาสาเหตุอุณหภูมิโลกร้อนและน้ำทะเลเพิ่มสูง ปริมาณฝนจะมากกว่าค่าเฉลี่ย 50 มิลลิเมตร และช่วง 21-28 ส.ค.นี้จะได้รับอิทธิพลจากพายุเซปักที่จะเข้าไต้หวันประมาณ 17-18 ส.ค.นี้ ก็จะทำให้มีโอกาสฝนเพิ่มขึ้น
ขณะที่นายธาดา สุขะปุณพรรณ ผู้อำนวยการศูนย์อุทกวิทยาและบริหารน้ำภาคเหนือตอนบน กล่าวว่า ได้มีการวางแผนและประสานความร่วมมือกับท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้เต็มที่และมีการเพิ่มจุดตรวจวัดระดับน้ำปิงที่อำเภอแม่ริมอีกแห่งหนึ่งนอกเหนือจากที่มีจุด P67 ที่แม่แต ซึ่งจุดนี้ทำให้ทราบเหตุล่วงหน้า 6 ชั่วโมง ส่วนที่แม่ริมก็จะทำให้เขตเมืองทราบล่วงหน้าอีก 4 ชั่วโมง จะทราบสถานการณ์น้ำที่มาจากน้ำแม่สาและแม่ริมด้วย ขณะที่สำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่นายแสงรัตน์ เบ็ญจพงศ์ ได้กล่าวเช่นกันว่า ชลประทานมีแผนรองรับทุกระยะคือระระสั้นใน 1 ปีที่จะรับสถานการณ์ด่วน ก็มีการประสานทางขนส่งทางน้ำที่ดูเรื่องขุดลอก การเสริมคันดิน กระสอบทราย ส่วนระยะกลางก็เป็นการทำประตูระบายน้ำที่ท่าวังตาลที่กำลังอยู่ระหว่างการรับฟังความเห็นครั้งที่ 2 ที่จะมีขึ้นวันที่ 18 ส.ค.นี้ที่สโมสรค่ายกาวิละ มทบ.33
ส่วนมาตรการระยะยาวนั้นก็อยู่ระหว่างศึกษาโดยเฉพาะการทำเขื่อนผันและกักเก็บน้ำที่อำเภอเชียวดาวต้นน้ำปิง 1 แห่งและน้ำแตงอีก 2 แห่ง ซึ่งยังไม่ทราบว่ามีความชัดเจนที่จะดำเนินการอย่างไรหรือไม่ แต่สำหรับกรณีคืบหน้าที่รองรับเวลานี้ก็ถือว่าพร้อมรองรับเต็มที่ดีกว่าปีที่ผ่านมาน้ำจะไหลผ่านตัวเมืองเร็วขึ้น ขณะที่ประตูระบายน้ำที่ท่าวังตาลนั้นยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะเสร็จทันฤดูฝนนี้หรือไม่
นอกจากนี้ได้มีการเปิดแถลงข่าวเป็นทางการอีกครั้งต่อสื่อมวลชนโดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ในภาพรวมถือว่ามีการเตรียมพร้อมกันเต็มที่เชื่อว่า ปีนี้ไม่น่าจะมีปัญหามากนัก ในระยะเร่งด่วนก็ต้องเสริมแนวคันดินให้สูงในจุดที่ต่ำของริมน้ำปิง การวางกระสอบทรายและผนังคอนกรีตของเทศบาลนครเชียงใหม่ที่มีอยู่มาช่วยอีกทางหากปริมาณน้ำสูงมาก ในขณะที่เรื่องการแก้ไขปัญหาการบุกรุก ที่เป็นคดียังเท่าเดิมคือ เข้าสู่การฟ้องร้อง 31 คดี สิ้นสุดทางศาลแล้ว 10 คดี อุทธรณ์ 2 คดี ยอมความในขั้นอัยการ 10 คดีและอยู่ระหว่างการพิจารณาสั่งฟ้องของอัยการ 9 คดี จากทั้งหมดที่อยู่ในข่าย 192 ราย โดยที่เหลือใช้ทางรัฐศาสตร์ในการเจรจาเป็นหลัก ซึ่งมีหลายรายยินยอมให้ขุดลอก เพราะหากฟ้องเป็นคดีขนส่งทางน้ำก็ชนะทุกคดีจึงไม่อยากทำให้รู้สึกว่า ทำร้ายประชาชนมากเกินไป
ด้าน ผอ.สำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ชี้แจงว่า ส่วนที่ขุดลอกที่ตำรวจภูธรภาค 5 จะเสร็จสิ้นเดือนสิงหาคมนี้และรองรับปริมาณน้ำได้ 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากเดิมที่รับได้ที่ 460 ลูกบาศก์เมตร ขณะเดียวกันได้มีการเสริมคันดินเพิ่มสูงขึ้นในระยะ 400 เมตรในจุดที่ต่ำสุดด้วย อย่างไรก็ตาม ตามที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีแผนงานโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในมาตรการปรับปรุงฝายและอาคารระบายน้ำ ที่ได้เสนอแผนงานให้ ครม.อนุมัติไว้แล้วนั้น มีโครงการประตูระบายน้ำในลำน้ำปิง(ฝายท่าวังตาล) ซึ่งยังคงมีภาคประชาชนและกลุ่มมวลชนได้ร้องคัดค้านว่าโครงการดังกล่าว ไม่สามารถช่วยเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำให้กับลำน้ำปิงได้
ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเข้าใจในทุกภาคส่วน จังหวัดเชียงใหม่โดยคณะการรมการประชาสัมพันธ์การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจังหวัดเชียงใหม่ทั้งระบบ จะได้จัดให้มีการประชุมเพื่อประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็นในด้านต่างๆซึ่งเป็นการบูรณาการแบบมีส่วนร่วมและให้เกิดความเข้าใจอย่างสมบูรณ์ รวมทั้งจะได้นำข้อเสนอแนะจากการจัดประชุม ไปปรับปรุงโครงการเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวต่อไป การประชุมครั้งนี้เป็นการจัดประชุมเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งจะมีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งจากภาคส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนภาคประชาชน ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการทั้งโดยตรงและโดยอ้อมในพื้นที่ รวมทั้งสื่อมวลชนทุกสาขาเข้าร่วมประมาณ 400 คน.ข่าวจาก ไทยนิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1337 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 16 ส.ค. 50
เวลา 00:34:35
|