| • ทรท.น้อมรับผลประชามติชิงประกาศนโยบายแก้ รธน. |
|
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 19 ส.ค. 50 เวลา 21:59:10 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ส.ค.) ที่อาคารไอเอฟซีที
ถ.เพชรบุรีตัดใหม่
หลังทราบผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญอย่างไม่เป็นทางการที่อัตราส่วนเห็นชอบกับไม่เห็นชอบ
60 ต่อ 40 โดยประมาณ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
และนายชูศักดิ์ ศิรินิล แกนนำกลุ่มไทยรักไทย (ทรท.)
ได้แถลงข่าวยอมรับผลการลงประชามติ โดยนายจาตุรนต์ กล่าวว่า
การแถลงข่าวครั้งนี้ เป็นความเห็นของกลุ่มอดีตนักการเมืองพรรคไทยรักไทย
ที่ยอมรับผลการลงประชามติที่เกิด
ขึ้นและจะไม่เรียกร้องให้จัดการลงประชามติใหม่
เพื่อให้ทุกอย่างเดินไปตามกำหนดต่อไป คือ การจัดให้มีการเลือกตั้ง
แกนนำกลุ่มไทยรักไทย กล่าวต่อว่า แม้เราจะยอมรับการทำประชามติ
แต่ขอยืนยันว่า การทำประชามติครั้งนี้ ไม่ถูกต้องตามหลักการหลายประการ
เช่น การแสดงออกอย่างชัดเจนของส่วนต่างๆ
ที่ต้องการให้ประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญ
การปิดกั้นการนำเสนอข้อมูลจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย
ทั้งในพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึกและไม่ประกาศกฎอัยการ
และมีการชี้นำจากฝ่ายที่สนับสนุนว่า
หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านจะทำให้ไม่มีการเลือกตั้ง
ที่เป็นการใช้จุดอ่อนของประชาชนจำนวนมากที่อยากให้เหตุการณ์ความขัดแย้งยุติโดยเร็วมาใช้โดยไม่คำนึงถึงเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญ
นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า
เมื่อร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติเราจะช่วยประคับประคองเพื่อไม่ให้บ้านเมืองเกิดความขัด
แย้งในลักษณะเผชิญหน้าและนำไปสู่ความรุนแรง จากนี้
ไปกลุ่มไทยรักไทยจะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง
และจะนำเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ในนโยบายหาเสียงด้วย
เพราะเรายังคงยืนยันว่า
รัฐธรรมนูญยังไม่เป็นประชาธิปไตยและคงต้องใช้เวลาอีกยาวนานที่จะทำให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
แต่เราจะร่วมมือกับประชาชนผลักดันให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยต่อไป
โดยจะขอรวบรวมผลการทำประชามติครั้งนี้
เพื่อวิพากษ์วิจารณ์ต่อไปในโอกาสข้างหน้า
ทางด้าน นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า กลุ่มไทยรักไทยที่ไปสังกัดพรรคพลังประชาชน
(พปช.) ยังยึดมั่นใจอุดมการณ์เดิม โดยในวันที่ 24 ส.ค.นี้
จะมีการประชุมพรรคฯ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคฯ และกำหนดนโยบาย หลังจากนั้น
จะเดินหน้าเตรียมการเลือกตั้งต่อไป โดยเชื่อมั่นว่า
อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคไทยรักไทยยังคงอยู่ร่วมกัน
ส่วนจะมีการย้ายไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่นั้น เวลานี้ ยังบอกไม่ได้
เพราะอาจจะมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนผลการลงประชามตินั้น
ยังมีข้อสังเกตประการ เช่น เวลาที่ใช้ในการรณรงค์เรื่องเหตุผลของการไม่รับ
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า
ผลการลงประชามติครั้งนี้ ค่อนข้างเป็นไปตามที่ประเมินไว้เป็นการภายในว่า
คะแนนน่าจะอยู่ประมาณนี้ แต่สิ่งที่คิดว่า สำคัญ คือ
การมองไปข้างหน้ามากกว่า โดยคิดว่า เป็นเรื่องดีที่วันนี้
การลงประชามติโดยภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ได้มีปัญหาการโต้แย้ง
และเมื่อสักครู่ที่ได้ยินว่า มีการยอมรับในระดับหนึ่ง ทำให้มีความหวังว่า
การเมืองจากนี้ ไป จะเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตยที่ชัดเจนยิ่ง ขึ้น
ตรงนี้ เป็นประเด็นแรกที่เป็นเรื่องดี
หัวหน้า ปชป. กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2 การเดินหน้าไปเชื่อว่า
จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองต่อไป เพราะว่า
เราได้ก้าวพ้นจุดของความขัดแย้ง การประลองกำลัง อำนาจเก่า อำนาจใหม่
ตอนนี้ เราอยากให้เดินไปข้างหน้าและประชาชนมีทางเลือกว่า
จะให้ประเทศเดินไปทางไหน ในลักษณะที่สร้างสรรค์และผูกพันกับปัญหามากกว่า
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องสัดส่วนของประชาชนภูมิภาคต่างๆ
ที่รับและไม่รับร่างรัฐธรรมนูญที่แตกต่างกันนั้น เป็นเรื่องปกติ
เพราะว่าในแต่ละพื้นที่การรับข่าวสาร โดยเฉพาะในระดับพื้นที่แตกต่างกันไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า แม้ว่าอาจจะเร็วเกินไปที่จะพูด
คะแนนเสียงที่ออกมาน่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกพรรคการเมืองก่อนการเลือกตั้งต้องไปคุยกันก่อนเลยเรื่องรัฐธรรมนูญ
เพราะว่า เสียงที่รับก็ดี ไม่ได้แปลว่า รับแบบไม่มีเงื่อนไข
ส่วนเสียงที่ไม่รับก็มากพอสมควร ดังนั้น ตรงนี้
จึงเป็นโจทย์ที่อยากให้แยกออกจากโจทย์ปัญหาว่า ใครจะเป็นรัฐบาล
ใครจะเป็นฝ่ายค้าน ใครจะอยู่ฝ่ายไหนอย่างไร พรรคการเมืองต้องช่วยหาทาง
เพราะ ส.ส. จะเป็นเสียงข้างมากของรัฐสภา
เพื่อให้การแก้ไขสามารถเดินหน้าต่อไป
หัวหน้า ปชป. กล่าวด้วยว่า จากวันนี้ ไป อยากให้หน่วยงาน หรือ
ผู้เกี่ยวข้องทำความชัดเจนออกมา โดยเฉพาะภายในสิ้นเดือนนี้
ทำตารางเวลาออกมาเลยว่า กฏหมายลูกจะเสร็จเมื่อไร จะเลือกตั้งเมื่อไร
เพื่อจะได้ให้ประชาชนและนักการเมืองมาพูดคุยกันถึงการแก้ไขปัญหาของประชาชนต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผลการลงประชามติครั้งนี้ ค่อนข้างจะตรงกับการประเมินภายใน
ดังนั้น จริงๆ แล้ว กลยุทธ์การเลือกตั้งที่เราใช้อยู่คิดว่า ใช้ได้
แต่ก็ต้องทำงานหนักมากขึ้น แม้คะแนนเสียงจะเปลี่ยนแปลงมาไกลพอสมควร
ที่มา ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1184 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 19 ส.ค. 50
เวลา 21:59:10
|
