• "อำนาจ ผลประโยชน์" ไม่ลงตัว ชนวน "คมช.-พันธมิตรฯ" แตกเป็นเสี่ยง |
โพสต์โดย ตนข่าว เชียงใหม่ , วันที่ 05 ต.ค. 50 เวลา 12:39:29 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
จากวันที่19 กันยา 2549 กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า อำนาจใหม่ ขนรถถังออกมายึดอำนาจทักษิณชินวัตร ได้สำเร็จ จนถึงวันนี้ก็ผ่านพ้นไปกว่าหนึ่งขวบปีแต่ปรากฏว่าสถานการณ์ของกลุ่ม อำนาจใหม่ กลับอยู่ในสภาพง่อนแง่นอ่อนแออย่างเต็มที่
นอกจากไม่อาจปักธงชัยแล้วสถาปนาอำนาจใหม่ ได้แล้วยังมีแววจะร่วงกลางทางด้วยซ้ำ ทั้งคมช. และรัฐบาล ต่างตกอยู่ในที่นั่งลำบากพอๆกัน
ในส่วนคมช. ถูกรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ริบดาบอาญาสิทธิ์จนหมดไม่เหลือ ไม่มีช่องทางให้ฟาดฟันใครต่อใครได้เหมือนตอนยึดอำนาจใหม่ๆ
เป็นเหตุให้ บิ๊กบัง พล.อ.สนธิบุญยรัตกลิน ต้อง เล่นกล ดิ้นรนพาตัวเองเข้าสู่ศูนย์อำนาจแห่งใหม่ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ก้าวเข้าสู่บัลลังก์อำนาจเหนือกองทัพอีกรอบ
ขณะที่รัฐบาล ก็เจอมรสุมมะรุมมะตุ้มรอบด้าน ต้องกรำศึกไม่ว่างเว้น โดยเฉพาะตัวนายกฯ พล.อ.สุรยุทธ์จุลานนท์ ที่มีคดีรุกป่าสงวนเขายายเที่ยง ผูกหลังอยู่จนสลัดไม่หลุด
กลายเป็นบ่อน้ำมันเปิดทางให้ข้าศึกโจมตีมันมือ โดยยกประเด็นคุณธรรม จริยธรรมขึ้นมาเป็นตัวตั้ง
ขณะที่ขบวนรัฐมนตรี ที่เป็นแขนขาประกอบเป็นอำนาจรัฐทำหน้าที่ปกครองบ้านเมือง ก็พากันน้อยอกน้อยใจพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ลาออกกันเป็นทิวแถว!
ส่งผลให้เสถียรภาพของรัฐบาลอ่อนยวบลงถนัดตา อยู่ในสภาพไม่ต่างกับ"รัฐบาลทักษิณ" ในช่วงสุดท้ายก่อนกาลอวสาน กลุ่มการเมืองที่เคยจงรักภักดีค่อยๆ ถอดเฟืองออกทีละตัวๆ จนพังครืนจากภายใน ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน!!!
วันเวลาที่ผ่านไปกว่า1 ปี ทำให้ มิตรแท้ หดหายศัตรูถาวร ก็ค่อยๆโผล่ขึ้นมาแสดงตัวให้เห็น
เหล่าสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่ถูกแต่งตั้งมาจากมือของ คมช. ก็กำลังหันกระบอกปืนจ้องถล่มแหล่งกำเนิดของเขาเอง
สนช.สายพันธมิตรฯรายหนึ่งวิเคราะห์ว่า ภาวะความไม่แน่นอนในอำนาจ คมช. นี่เองจะเป็นปัจจัยเร่งให้ ระบอบทักษิณ ฟื้นคืนความเข้มแข็งอย่างไม่ต้องสงสัย
และจะทำให้การเลือกตั้งวันที่23 ธันวาคม 2550 เป็นกระบวนการฟอกตัวและคืนอำนาจให้ ระบอบทักษิณ อย่างเป็นทางการ สนช.รายนี้ระบุ 1 ขวบปีแห่งการรัฐประหาร อำนาจที่ได้มาไม่ได้ถูกผนึกหลอมอย่างเป็นเอกภาพ
จากที่"คมช." และ "พันธมิตรฯ" เคยกอดคอกันคว่ำระบอบทักษิณ ก็ถึงคราวแตกหัก "แยกทางกันเดิน" เพียงเพราะการแบ่งสรร"อำนาจ" และ"ผลประโยชน์" ไม่ลงตัว
อำนาจที่ควรได้...กลับไม่ได้
ผลประโยชน์ที่คิดว่าได้แน่...ก็ชวด
ที่เห็นได้ชัดเจนก็จากการจัดวางบุคคลลงในตำแหน่งต่างๆที่ทำให้เกิดปัญหาในวันนี้
ทั้งการจัดโผทหารทั้งโควตารัฐมนตรี เมื่อรวมกันเข้ากับฝ่ายพันธมิตรที่ไม่สมหวังทั้งในและนอกสนช.ล้วนเป็นเหตุผลักให้ คนอกหัก กลายเป็นหอกข้างแคร่ย้อนกลับมาทิ่มแทงมากขึ้นเรื่อยๆ
ผสมกับท่าทีของรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารที่อ่อนข้อให้ ระบอบทักษิณ จนสมัครพรรคพวกเสียวสันหลังกลัวจะถูกเช็คบิล
ล้วนเป็นเงื่อนไขให้บรรดาพันธมิตรที่เคยกอดคอร่วมรบจนโค่นล้มระบอบทักษิณ เริ่มหมดความไว้ใจคมช.
ขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อให้เปลี่ยนตัวผู้นำ จึงคึกคักขึ้นทุกนาที
หวังว่าผู้นำใหม่ จะเด็ดขาดกวาดล้าง อำนาจเก่า ให้สิ้นซากในเวลาที่จำกัด
มาถึงขณะนี้เห็นชัดว่าปัจจัยที่ทิ่มแทงให้สถานการณ์ของกลุ่ม อำนาจใหม่ ย่ำแย่เสื่อมทรุด จนตกต่ำเพียงนี้
น่าจะมาจากการจัดสมการอำนาจ ที่ไม่ลงตัว
ปัญหาเกิดจากสนิมภายใน นั่นเอง!!!
ตลอด1 ปีที่ คมช. ไต่อยู่บนเส้นลวดแห่งอำนาจนั้นเค้ก ที่เพิ่งยึดมาได้กลับผ่าแบ่งกันไม่ครบคน
เพราะอย่าลืมว่าการก่อการ เมื่อ19 กันยานั้น มาจากต้นทุนหลายส่วนผนึกกันเป็นขบวนการ ไม่ได้เกิดมาจากใครเพียงคนเดียว หรือคณะเดียว
ดังนั้นผู้ที่ต้องการมีส่วนจะเชยชมความสำเร็จจึงมีมากมายกว่าสายตาของ คมช. จะมองเห็น
และเมื่อพิจารณาจากบริบทของ คนการเมืองไทย ที่ยังฝักใฝ่อยู่กับระบบอุปถัมภ์
ไม่ว่า"โค" ตัวไหน" ก็ไม่อยากถูกเชือดหลังเสร็จหน้านา
เช่นเดียวกับ"ขุนพล ไม่ว่าหน้าไหนก็ไม่ยอมถูกฆ่า หลังตรากตรำกรำศึกมายาวนาน
เรื่องวุ่นๆจึงได้เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน
ความคับข้องใจจากการแบ่งสันปันส่วนอำนาจที่ไม่ลงตัวจึงปะทุขึ้นเหมือน ภูเขาไฟ ที่รอวันระเบิด
สัจจธรรมการเมืองไทยว่าด้วยการจัดสรรผลประโยชน์อย่างทั่วถึงเพื่อให้เกิดความสมดุลทางอำนาจ กำลังสอนบทเรียนที่สำคัญให้ คมช. และ "รัฐบาลสุรยุทธ์" ในช่วงบั้นปลาย
ดีไม่ดี...อาจกลายเป็นชนวนเหตุแห่งความวุ่นวายระลอกใหม่ต้อนรับ"รัฐบาลใหม่" ภายหลังการเลือกตั้งก็เป็นได้
"หนึ่งปีรัฐประหาร" จึงได้บทเรียนที่น่าจดจำยิ่ง...
ในเมื่อ"อำนาจ" และ "ผลประโยชน์" ไม่เข้าใครออกใคร
ทั้ง"คมช." และ "พันธมิตรฯ" เลยแตกเป็นเสี่ยงๆ อย่างที่เห็น !!
เสถียร วิริยะพรรณพงศา
ที่มาจาก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1387 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว เชียงใหม่
IP: Hide ip
, วันที่ 05 ต.ค. 50
เวลา 12:39:29
|