ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ที่มา PR Chiangmai
ขนส่งเชียงใหม่แจ้งเตือนประชาชน หากนำรถยนต์ส่วนบุคคลวิ่งร่วมกับ Uber Taxi ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย พรบ.รถยนต์ พ.ศ.๒๕๒๒ ฐานนำรถส่วนบุคคลมาใช้รับจ้างบรรทุกผู้โดยสารมีโทษปรับไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท
นายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อโซเซียลเกี่ยวกับการรับสมัครสมาชิกและประชาสัมพันธ์เชิญชวนใช้บริการ Uber Taxi โดยให้เจ้าของรถยนต์ส่วนบุคคลสมัครเป็นสมาชิกกับ Uber ก่อนเพื่อให้สามารถใช้แอพพลิเคชั่น Uber Taxi กับรถยนต์ส่วนบุคคลในการนำรถไปรับจ้างในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ขอเรียนว่า เจ้าของรถที่หลงเชื่อจะมีความผิดตาม พรบ.รถยนต์ พ.ศ.๒๕๒๒ ฐานนำรถส่วนบุคคลมาใช้รับจ้างบรรทุกผู้โดยสารมีโทษปรับไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท ส่วน Uber ไม่ใช่เจ้าของรถเป็นเพียงแต่ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่น จึงไม่ถูกลงโทษ
ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการพบปะพูดคุยระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเจ้าหน้าที่ Uber ไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งทุกครั้งได้มีการเน้นย้ำว่าแอพพลิเคชั่นของ Uber สามารถนำไปใช้กับรถยนต์สาธารณะเท่านั้นเนื่องจากเป็นรถที่ใช้รับจ้างซึ่งจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย หากนำไปใช้กับรถยนต์ส่วนบุคคลจะเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายรถยนต์ฐานนำรถยนต์ส่วนบุคคลมารับจ้างบรรทุกผู้โดยสารมีโทษปรับไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท ซึ่งเรื่องนี้กรมการขนส่งทางบกได้เคยชี้แจงให้ Uber ทราบแล้ว ตลอดทั้งนายดรุณ แสงฉาย รองปลัดกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวภายหลังบริษัท อูเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้าพบนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมว่า Uber ได้เสนอให้กระทรวงคมนาคมแก้ไขกฎหมายเพื่อให้สามารถเปิดใช้บริการในประเทศไทยได้ หลังจากกรมการขนส่งทางบกสั่งงดให้บริการ ซึ่งกระทรวงคมนาคมยืนยันว่า Uber จะต้องทำตามกฎหมายของไทยเท่านั้น จะต้องลงทะเบียนผู้ขับขี่ให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถให้บริการได้ อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีการแก้ไขกฎหมายนั้นสามารถทำได้ แต่จะต้องรวบรวมข้อมูลผลการศึกษามีเหตุผลที่เหมาะสมและข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้นกับ Uber ทั่วโลกมาประกอบและที่สำคัญ Uber จะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของไทยเท่านั้น ขณะนี้ Uber อยู่ระหว่างการสั่งห้ามเปิดให้บริการ ซึ่งหากฝ่าฝืนจะดำเนินการจับกุมและลงโทษตามกฎหมายทันที
ล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมมณฑลทหารบกที่ ๓๓ โดยมี พล.ต.เกษมสุข ตาคำ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๓๓ (ค่ายกาวิละ) เป็นประธาน ที่ประชุมได้มีมติเกี่ยวกับการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายของ Uber ในพื้นที่เชียงใหม่โดยให้ใช้กฎหมายตามช่องทางปกติก่อน หากยังพบการฝ่าฝืนกฎหมายอีกจะนำกฎหมายความมั่นคงมาใช้เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคมตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ได้มีหนังสือแจ้งไปยังเจ้าของรถที่อยู่ในข่ายกระทำผิดจำนวน ๘ รายให้มารายงานตัวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงซึ่งขณะนี้เจ้าของรถได้ทยอยมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่แล้ว
ทั้งนี้ ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ได้ฝากย้ำสำหรับเจ้าของรถยนต์ส่วนบุคคลที่วิ่งร่วมกับ Uber Taxi รวมทั้งผู้ใช้บริการว่าการนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาใช้รับจ้างผู้โดยสารซึ่งเจ้าของรถ/ผู้ขับขี่รถเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายแต่ Uber ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นไม่ใช่เจ้าของรถจึงไม่ใช่ผู้กระทำผิดจึงแจ้งเตือนมายังเจ้าของรถอย่าหลงเชื่อ นอกจากนี้แล้วเจ้าของรถอาจถูกตรวจสอบจากสรรพากร เนื่องจากมีรายได้เพิ่มจากการขับรถ ด้านการประกันภัยรถอาจไม่ได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากทำประกันภัยรถส่วนบุคคลแต่นำรถมารับจ้าง ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินกรณีที่ผู้ขับรถเป็นมิจฉาชีพ การติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษอาจเกิดความล่าช้าหรือไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากผู้ขับรถส่วนบุคคลไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะจึงไม่ได้ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติ ไม่มีการตรวจสอบประวัติ บันทึกประวัติดังเช่นรถสาธารณะทั่วไป ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พิมพ์ลายนิ้วมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น นอกจากนี้หากกรณีที่รับผู้โดยสารซึ่งอาจจะเป็นมิจฉาชีพเช่นค้ายาเสพติดเจ้าของรถ/ผู้ขับรถก็ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดได้ กรณีผู้โดยสารมียาเสพติดมาด้วยเนื่องจากเป็นรถส่วนบุคคลไม่ใช่รถรับจ้าง สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มวิชาการขนส่ง โทร.๐-๕๓๒๗-๐๔๑๑ และ ๐๗๑-๗๒๑-๗๙๙๙
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|