• ยื่นศาล รธน.ชี้ขาดตั้ง 'ทักษิณ' ที่ปรึกษา พปช. |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 30 ต.ค. 50 เวลา 10:16:18 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เมื่อวันที่ 29 ต.ค. น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ สนช. กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชนจะเชิญ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นที่ปรึกษาพรรคว่า ตามเจตนารมณ์ของตุลาการรัฐธรรมนูญในการตัดสินยุบพรรคไทยรักไทยนั้น ประกาศชัดเจนว่ากรรมการบริหารพรรคที่ถูกยุบ จะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองไม่ได้เป็นเวลา 5 ปี ดังนั้น การที่ 111 คนจะขึ้นเวทีปราศรัย หรือเป็นที่ปรึกษาพรรค ก็ถือว่าเป็นการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองทั้งสิ้น จึงอยากให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดว่าทั้ง 111 คนจะทำได้หรือไม่ ในฐานะที่เป็นคนร่างรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบทั้ง 3 ฉบับ ได้ดำเนินการตามคำตัดสินของตุลาการรัฐธรรมนูญ ที่ห้ามไม่ให้กรรมการพรรคที่ถูกตัดสิทธิมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่การ ที่พรรคการเมืองพยายามดึงบุคคลเหล่านี้เข้ามาอีก จะขัดต่อเจตนารมณ์ของตุลาการรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้า กกต.จะเสนอเรื่องให้ศาลรัฐฯตีความก็จะยิ่งดี เพราะถือเป็นผู้ปฏิบัติโดยตรง จะได้รับรู้ว่าคำพิพากษาของตุลาการรัฐ-ธรรมนูญมีผลครอบคลุมเพียงใด มีเจตนารมณ์อย่างไร จะได้นำมากำหนดกติกาให้ถูกต้อง
“ทักษิณ” เป็นที่ปรึกษา พปช.ได้
พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด และสมาชิก คมช. กล่าวกรณีที่พรรคพลังประชาชนจะตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชาชน ว่า เป็นสิทธิของพรรคการ เมืองที่จะทำได้ระหว่างที่มีการหาเสียงเลือกตั้ง แต่ละพรรคการเมืองอาจใช้กลยุทธ์หลายอย่างในการเอาชนะกัน โดยที่ไม่ได้นึกถึงเรื่องอื่น จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนจะต้องพิจารณาแยกแยะให้ดีว่าเกี่ยวกับความมั่นคงหรือไม่ เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชนนำเอกสารลับระบุคมช.มีแผนสกัดกั้นในพื้นที่ภาคเหนือและอีสานช่วงเลือกตั้ง พล.อ.บุญสร้างตอบว่า ยอมรับว่ากองทัพอาจจัดทหารลงพื้นที่ในจุดที่เป็นพื้นที่เฝ้าระวังยาเสพติดและมี ปัญหาความมั่นคง แต่กองทัพไม่มีนโยบายจัดกำลังทหารลงพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อข่มขู่หัวคะแนนพรรคพลังประชาชนหรือกดดันประชาชน ตามที่พรรคพลังประชาชนระบุ เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่พร้อมจะตรวจสอบเมื่อมีการร้องเรียนมา
“ลูกชายวินัย” ลง ส.ส.เป็นเรื่องส่วนตัว
“ถือเป็นเรื่องปกติที่การร้องเรียนลักษณะนี้มีทุกครั้งช่วงเลือกตั้ง เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตัวให้เป็นกลาง และสนับสนุนให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิให้มาก ทั้งนี้การออกมาเปิดเผยของพรรคพลังประชาชนเป็นแผนเรียกคะแนนความสงสารช่วงเลือกตั้งหรือไม่ ให้ไปถามพรรคพลังประชาชนเอง” พล.อ.บุญสร้างกล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสกลธี ภัททิยกุล บุตรชายของ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และเลขาธิการ คมช. จะลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ พล.อ.บุญสร้างตอบว่า เรื่องนี้ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ลูกหลาน หรือญาติใคร จะไปเล่นการเมืองอยู่พรรคไหนก็ได้ แต่ในฐานะเจ้าหน้าที่จะต้องทำงานวางตัวเป็นกลาง ถือว่าต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ ต้องแยกแยะให้ออก อย่านำมาปะปนกัน เจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่ต้องทำงานเป็นกลาง คนละหน้าที่กัน เขาไปสมัครพรรคการเมือง เขาก็ไปหาเสียง อยู่ในพรรคการเมืองนั้น ไปช่วยพรรคการเมืองนั้น ก็ธรรมดา แต่เจ้าหน้าที่ที่ควรจะเป็นกลางกับบุคคลคนนั้นต้องแยกให้ออก เรื่องส่วนตัวก็ส่วนตัว พ่อลูกกันเป็นเรื่องธรรมดา ลูกที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ถือว่าไม่ต้องทำตามคำสั่งพ่อ แต่หลักการประชาธิปไตยก็ต้องแยกแยะให้ออก อย่าไปเหมารวม
ข่าวจาก ไทยรัฐ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1028 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 30 ต.ค. 50
เวลา 10:16:18
|