ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
วาเด็ง ปูเต๊ะ หรือ เป๊าะเด็ง พระสหายใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เดินทางจากอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เข้ากรุงเทพฯ เพื่อถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดย วาเด็ง ปูเต๊ะ ขอให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหายจาก พระประชวร เร็ว ๆ
เรียบเรียงโดยกระปุกดอทคอม
ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กษัตริย์ผู้ทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติทรงพระประชวรด้วยพระอาการพระวรกายด้านขวาอ่อนแรง ซึ่งทรงประทับรักษาพระอาการอยู่ ณ โรงพยาบาลศิริราช โดยขณะนี้พระองค์ทรงมีพระอาการดีขึ้นตามลำดับ พสกนิกรชาวไทยล้วนมีความห่วงใยในพระองค์ รวมถึงพระสหายแห่งสายบุรี “วาเด็ง ปูเต๊ะ” ผู้เฒ่าวัย 91 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านบาเลาะ อ. สายบุรี จ. ปัตตานี
"วาเด็ง ปูเต๊ะ" มีชีวิตประจำวันในช่วงสองทุ่มกับการดูข่าวพระราชสำนักของทุกช่อง เป๊าะเด็งจะนั่งจ้องโทรทัศน์เครื่องเล็กเครื่องเดียวของบ้านที่มีอยู่เพื่อรับรู้ข่าวคราวของในหลวงที่เป๊าะเด็งรัก แม้ว่าจะฟังภาษาไทยหรืออ่านไม่เข้าใจก็ตาม การได้เห็นภาพพระราชกรีณียกิจต่างๆ ของพระองค์ท่าน นั่นก็ทำให้เป๊าะเด็งมีความสุขมากพอ แล้ว จึงถามไถ่ลูกหลานถึงความเป็นไปของข่าว แต่พอ "วาเด็ง ปูเต๊ะ"ได้ข่าวว่า ในหลวงประชวร ก็ทำให้ พระสหายจากสายบุรีไม่สบายใจและเป็นทุกข์กับอาการพระประชวรของพระองค์ท่านด้วย และสิ่งที่ พระสหายจะทำให้พระองค์ท่านได้คือ ละหมาดขอพรให้ทรงหายประชวรเร็ว ๆ และทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง ๆ …
อย่างไรก็ตามวันนี้ (30 ตุลาคม) "วาเด็ง ปูเต๊ะ" ได้มีโอกาสเดินทางมาจากอำเภอสายบุรี เพื่อมาลงนามถวายพระพร ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว
โดยวาเด็งได้ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำตาคลอเบ้าเป็นภาษายาวีผ่านล่ามว่า "ตั้งใจจะเดินทางมาถวายพระพรและติดตามพระอาการประชวรของในหลวงจริงๆ โดยพูดมาหลายวันแล้ว และก่อนมาได้มีการประสานล่วงหน้ากับทางสำนักพระราชวัง แต่สำนักพระราชวังเป็นห่วงสุขภาพ จึงให้ไปตรวจสุขภาพก่อนขึ้นเครื่องบิน เมื่อตรวจสุขภาพพบว่า ร่างกายแข็งแรงจึงได้เดินทางมาลงนามถวายพระพรถ้าเป็นไปได้อยากอยู่เฝ้าพระองค์ที่นี่จนกว่าจะหายประชวร แต่เนื่องจากสุขภาพไม่เอื้ออำนวยจึงไม่สามารถอยู่ได้"
นอกจากนี้วาเด็งยังได้นำ "จำปาดะ" ผลไม้ภาคใต้จำนวน 4 ลูกมาถวายในหลวง โอกาสที่มาลงนามถวายพระพรในครั้งนี้ด้วย
ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ขณะที่ "วาเด็ง ปูเต๊ะ" กำลังขะมักเขม้นอยู่กับการดูแลต้นทุเรียนและลองกองในสวน ช่วงเวลาใกล้ค่ำได้เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา หนึ่งในจำนวนนั้นได้กวักมือเรียกให้เข้าไปหา แต่ตัวผู้เฒ่าเองกลับรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าเข้าใกล้ ผู้เฒ่าเห็นทหารกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาและกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรความเป็นไปได้ในการสร้างอาคารกั้นน้ำที่คลองน้ำจืดบ้านทุ่งเค็จ ต.แป้น อ.สายบุรี
"ตอนนั้นเป๊าะทราบแล้วว่าเป็นในหลวง แต่จะเข้าไปใกล้ๆ ก็ไม่กล้า เพราะว่านุ่งโสร่งตัวเดียว ไม่ได้สวมเสื้อ พอเข้าไปใกล้ๆ ในหลวงก็บอกว่า จะมาขุดคลองชลประทานให้ พอได้ยินอย่างนั้น เป๊าะก็ดีใจมาก คุยกันเยอะ ท่านถามว่าถ้าขุดคลองสายทุ่งเค็จนี้จะไปสิ้นสุดลงที่ตรงไหน เป๊าะบอกท่านว่า คลองเส้นนี้มีที่ดินติดเขต ต.แป้น ทางเหนือขึ้นไปสุดที่ อ.ศรีสาคร ในหลวงถามต่อว่า ถ้าไปออกทะเลจะมีกี่เกาะ เป๊าะก็ตอบท่านไปว่ามี 4 เกาะ ท่านก็ชมว่า เก่งสามารถจำทุกที่ที่ผ่านไปได้ แล้วท่านก็เปิดดูแผนที่ที่นำมาด้วย แล้วบอกว่า เป๊าะรู้จริง ไม่โกหก ทุกสิ่งที่เป๊าะบอกมีอยู่ในแผนที่ของพระองค์แล้ว" เป๊าะเด็งในวัย 90 ปีทบทวนความทรงจำด้วยแววตาสดชื่น
หลังจากได้กราบบังคมทูลเส้นทางขุดคลองในโครงการพระราชดำริแล้ว ในครั้งนั้นผู้เฒ่าแห่งบ้านเบาะเลาะ ยังได้ถวายที่ดินเพื่อดำเนินโครงการพระราชดำริอีกด้วย และหลังขุดคลองชลประทานดังกล่าวเสร็จแล้ว ทุกครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาทรงงานและประทับแปรพระราชฐานที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จ.นราธิวาส เป๊าะเด็งก็จะไปเข้าเฝ้าฯ แทบทุกครั้ง หรือบางครั้งถ้าหากคิดถึงพระองค์มากๆ เป๊าะเด็งก็จะไปขอเข้าเฝ้าฯ ถึงพระราชวังสวนจิตรลดา
"เมื่อถึงฤดูทุเรียน ลองกอง จำปาดะ ก็จะนึกถึงในหลวงตลอด ถ้าท่านมาที่นี่ (บ้านทุ่งเค็จ) ก็เอาไปถวายที่นี่ บางปีท่านไม่ได้มา ก็ส่งผลไม้ไปถวายท่าน ทางไปรษณีย์ ส่งอีเอ็มเอสไปเลย เวลาส่งเขียนหนังสือไม่เป็น ก็บอกเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ว่า จะส่งของไปให้ในหลวงที่สวนจิตร เจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการให้" เป๊าะเด็ง กล่าว
เป๊าะเด็ง บอกว่า ผลไม้ที่ส่งไปถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถนั้น ถึงพระหัตถ์เสมอ เพราะทุกครั้งที่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ ทั้งสองพระองค์มักจะมีรับสั่งว่า "ขอบใจ ผลไม้ที่ส่งไปให้ ได้รับแล้ว"
เป๊าะเด็ง เล่าว่า เสียค่าส่งผลไม้ไปถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งละ 1,000 กว่าบาท เป๊าะเด็งอยากให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้เสวยผลไม้ที่ส่งไปถวายเช่นเดียวกับที่ดินที่ถวายไป เป๊าะเด็งก็ไม่เคยคิดเสียดายแม้แต่น้อย และหากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์จะใช้ประโยชน์ที่บริเวณไหนที่เป็นของเป๊าะเด็งแล้ว เป๊าะเด็งพร้อมที่จะทูลเกล้าฯ ถวายให้ทั้งหมด
"เมื่อในหลวงมาที่ อ.แม่ลานครั้งล่าสุด พอเจอเป๊าะก็เข้าไปกอดเลยไม่ได้พูดอะไรกับท่าน ท่านรู้นิสัยเป๊าะดีว่าไม่ค่อยพูดอะไร ท่านก็เรียกเป๊าะ" "คิดถึงท่านที่สุดเลย" เป๊าะเด็ง บอกผ่านล่ามเมื่อถูกถามว่ารู้สึกอย่างไรหากไม่ได้เจอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนานๆ
เป๊าะเด็ง ยังกล่าวถึงปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า "ไม่รู้ว่าโคลนมาจากไหน" เพราะที่ผ่านมาไทยพุทธและมุสลิมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ชาวบ้านด้วยกันเองไม่เคยมีความขัดแย้งแบ่งแยก แต่ปัญหานี้ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ออกไปทำมาหากินไม่ได้ ไม่กล้าออกไปทำงาน ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ รู้สึกไม่สบายใจเลย เพราะศาสนาไม่เคยทำให้เกิดความแตกต่างหรือทำให้เกิดการแตกแยกกัน
แม้จะมีปัญหาความไม่สงบเกิดขึ้นอยู่ทั่วไปในพื้นที่ต่างๆ แต่สำหรับความรู้สึกของชาวไทยมุสลิมอย่างเป๊าะเด็ง ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่เคยมีความรู้สึกแบ่งฝักฝ่ายและความสัมพันธ์ระหว่างชาวบ้านทั้งไทยพุทธและมุสลิม ในหมู่บ้านโดยเฉพาะกับคนรุ่นเก่าๆ ยังเหมือนเดิม
"คนที่ไม่หวังดี มีน้อย ถ้าเป็นผู้ไม่หวังดีจริงๆ เขาจะเข้าไปอยู่ในป่า แต่อยู่หลายๆ วันจะอยู่ได้ยังไง เป๊าะสงสัยจะเป็นคนอื่น คนก่อการร้ายเดี๋ยวนี้ไม่ได้อยู่ในป่าเหมือนก่อน แต่มักจะอยู่ในตลาด ไม่รู้ว่าเป็นแผนการของใคร ปัญหานี้ชาวบ้านหนักใจแต่ในหลวงคงหนักใจยิ่งกว่าพวกเราอีก เพราะประชาชนของพระองค์เดือดร้อน"
เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับปัญหาที่รัฐอ้างว่าความไม่สงบที่เกิดขึ้นเพราะมีกลุ่มคนที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน และมีการเรียกร้องเอารัฐปัตตานีกลับคืน เป๊าะเด็ง กล่าวว่า การนำรัฐปัตตานีคืนจะเป็นไปได้อย่างไรที่คนสามจังหวัดจะอยู่กันอย่างแคบๆ ประเทศเปรียบเหมือนรั้วบ้าน อยู่ที่กว้างๆ กับอยู่ที่แคบๆ อย่างไหนดีกว่ากัน ต้องถามชาวบ้านว่าต้องการแบบไหนดี
"สิ่งที่พูดออกมาเป็นความจริงทั้งนั้น เมื่อก่อนเราจะไปไหนมาไหนไม่ต้องเป็นห่วง แต่ทุกวันนี้จะออกไปไหนก็ไม่สบายใจ เป๊าะก็กลัว ชาวบ้านแถวนี้ก็กลัวไม่กล้าออกไปไหน กลัวเขาซุ่มอยู่ในป่า" เป๊าะเด็ง กล่าว
เมื่อถามว่าเขาที่ว่านี้เป็นใคร คำตอบสั้นๆ ที่ได้รับจากผู้เฒ่าใจดีคนนี้คือ "ไม่รู้เหมือนกัน ถ้ารู้ก็จะไปบอกในหลวง"
ข่าวจากกระปุกดอทคอม
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|