• ปชป.เร่งคลอดแผนหาเสียง |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 09 พ.ย. 50 เวลา 09:39:58 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ที่พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงสายวันที่ 8 พ.ย. มีการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการเลือกตั้งของพรรค มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ในฐานะ ผอ.ศูนย์ฯ เป็นประธานที่ประชุม ภายหลังใช้เวลาหารือร่วม 2 ชั่วโมง นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกศูนย์อำนวยการ เลือกตั้ง แถลงว่า ที่ประชุมได้พิจารณารูปแบบโปสเตอร์ที่จะใช้รณรงค์หาเสียง ได้ข้อสรุปว่ามี 5 แบบคือ แบบบัตรเล็ก แบบโปสเตอร์ แบบฟิวเจอร์บอร์ด แบบติดรถแห่ และแบบสารประชาธิปัตย์ นอกจากนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้ฝ่ายกำหนดการปราศรัยไปทำแผนว่าแต่ละภาคควรปราศรัยที่จุดไหนบ้าง และจะใช้ทีมปราศรัยชุดใด สำหรับภารกิจของศูนย์อำนวยการเลือกตั้งนั้น จะเริ่มทำงานโดยไม่มีวันหยุดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และฝ่ายกฎหมายจะต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรอให้คำปรึกษาด้านกฎหมายแก่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ
ได้ทีตอกลิ่มรอยร้าว พปช.
นายเทพไทกล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่มีความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างผู้ที่จะลงสมัคร ส.ส. กทม.ของพรรคพลังประชาชนกับผู้สมัคร ส.ส.ระบบสัดส่วน กลุ่ม 6 ที่มีรายชื่อแกนนำ นปก.อยู่ด้วยนั้น ชี้ให้เห็นว่าคำพูดของ นปก.ที่ประกาศว่าไม่เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชาชนนั้นไม่เป็นความจริง เพราะมีแกนนำ นปก.ได้ดิบได้ดีจากการรับใช้ระบอบทักษิณ ได้ลงสมัคร ส.ส.ระบบสัดส่วนในลำดับที่ดี และไม่เฉพาะในกลุ่ม 6 เท่านั้น แต่ปรากฏรายชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส.ระบบสัดส่วนทุกกลุ่ม ตอกย้ำว่า นปก. ระบอบทักษิณและพรรคพลังประชาชนคือพวกเดียวกัน และยังชี้ให้เห็นว่าคนอยู่นอกประเทศคือผู้มีอำนาจที่แท้ จริงภายในพรรคพลังประชาชน สามารถเปลี่ยนแปลงให้ คนของตัวเองอยู่ในลำดับที่ดีได้ในวินาทีสุดท้าย ดังนั้นหากคน กทม.คิดว่ากลุ่ม นปก.ทำถูกต้องก็ต้องไปเลือกพรรคพลังประชาชน ถ้าเห็นว่า นปก.สร้างความวุ่นวาย และเป็นการส่งเสริมกลุ่มอำนาจเก่า ก็ไม่ควรที่จะไปเลือก
“อภิสิทธิ์” แพลมชื่อว่าที่รัฐมนตรี
ต่อมานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เรียกประชุมแกนนำพรรค และบุคคลที่ไม่ได้ลงสมัคร ส.ส. เพื่อที่จะตั้งเป็นคณะกรรมการขับเคลื่อนวาระประชาชน ภายหลังการประชุมนายอภิสิทธิ์แถลงว่า ได้ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนวาระประชาชนเพื่อให้ช่วยรณรงค์การเลือกตั้งในด้านวิชาการ การประสานงาน และทำความ เข้าใจในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวาระประชาชนทั้งหมด และหลังการเลือกตั้งไปแล้วหากพรรคมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล มีความเป็นไปได้ที่บุคคลเหล่านี้จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี คณะกรรมการชุดนี้มีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เหรัญญิกพรรค เป็นประธาน มีกรรมการอาทิ นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ รองหัวหน้าพรรค นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และนายยุพ นานา กรรมการบริหารพรรค
เหน็บ “สมัคร” ไร้มารยาทการเมือง
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ระบุว่าถ้าต้องการสนับสนุนการปฏิวัติให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ว่า ต้องแยกให้ออกระหว่างจุดยืนทางการเมืองที่เข้มแข็ง กับการสร้างความขัดแย้งทางการเมือง คิดว่าน่าจะให้เกียรติประชาชนและนักการเมืองด้วยกัน การคิดตรงกันหรือต่างกันเป็นเรื่องของระบอบประชาธิปไตย แต่มารยาททางการเมืองเป็นเรื่องสากล อย่างน้อยที่สุดคนที่จะมาเป็นผู้นำประเทศต้องมี วุฒิภาวะเพียงพอที่จะรู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ที่ผ่านมาตนบอกให้ประชาชนเลือกอนาคตของประเทศ แต่ไม่เคยบอกให้เลือกข้างเลือกความขัดแย้ง และได้แสดงจุดยืนไปแล้วว่าจะไม่ทำงานร่วมกับพรรคพลังประชาชน เพราะอุดมการณ์และจุดยืนไม่ตรงกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่แสดงความเห็นต่อสาธารณะร่วมกับนายสมัคร ส่วนตัวยังยินดีที่จะขึ้นเวทีพร้อมกับนายสมัคร เพราะเป็นสิทธิของประชาชนที่จะได้รู้ว่านักการเมืองคิดอย่างไร เป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน
“เติ้ง” ชูสโลแกนยืนหยัด-ชัดเจน
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี พรรคชาติไทยจัดงานปฐมนิเทศผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ ทั้งระบบสัดส่วนและระบบเขต โดยนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค กล่าวตอนหนึ่งว่า การต่อสู้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นครั้งสำคัญ แม้บรรยากาศการเมืองค่อนข้างจะ สับสน ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เราจะใช้สโลแกนสองคำ คือ ยืนหยัด ชัดเจน หมายความว่ายืนหยัดในทุกนโยบายที่ประกาศไป และชัดเจนในภาคปฏิบัติที่จะปฏิบัติให้ถูกต้อง ไม่คลุมเครือ ที่สำคัญการจะพาชาติให้รอดได้ต้องใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงควบคู่ไปกับนโยบายประชานิยม และขอเตือนผู้สมัครทุกคนอย่ากระทำฝ่าฝืนกฎหมาย เพราะมีโทษรุนแรง ทั้งนี้พรรคได้จัดทำคู่มือในการปฏิบัติให้ ผู้สมัครทุกคนแล้ว ขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทั้งต่อตนเองและต่อพรรค นอกจากนี้ทางพรรคยังจัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายคอยให้คำแนะนำแก่ผู้สมัครทุกคนที่มีปัญหาสามารถติดต่อได้ทุกวัน
โวหาเงินเก่งไม่แพ้ “ทักษิณ”
“นโยบายชุดที่แล้วอะไรดีจะสานต่อ อะไรไม่ดีจะยกเลิกเช่น กองทุนหมู่บ้านเราจะไม่เลิก ยังคงให้หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท หากมีเงินงบประมาณก็จะเพิ่มให้อีก โครงการเอสเอ็มแอลก็คงไว้ เช่นเดียวกับโครงการ 30 บาทรักษา ทุกโรค เป็นโครงการที่ดี แต่ไม่มีเงินเหลือใช้พัฒนาโรงพยาบาล ผมจะให้มีงบพัฒนาโรงพยาบาลกลับมา เงินราว 1 แสนล้านบาท ผมสามารถหาได้ ผมไม่แพ้อดีตนายกฯทักษิณและได้มาโดยไม่ผิด สามารถตรวจสอบได้ ผมเป็นนักปฏิบัติ ไม่ใช่นักวิชาการ” นายบรรหารกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่างานปฐมนิเทศของพรรคชาติไทยในครั้งนี้มีอดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชนและอดีต ส.ว.หลายคนมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย อาทิ นางปรีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี นางภัทรา วรามิตร อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ น.ส.เรวดี รัศมิทัต อดีต ส.ส.สมุทรปราการ นายสมพร คำชื่น อดีต ส.ว.แพร่ นายชัยวุฒิ ภูอริยะกุล อดีต ส.ว.น่าน และนายสุนทร จินดาอินทร์ อดีต ส.ว.กำแพงเพชร
ตั้งเงื่อนไขไปดีเบตขอดูคำถามก่อน
จากนั้นนายบรรหารให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า พรรคชาติไทยจะส่งผู้สมัครระบบเขตราว 200 กว่าคน เพราะขณะนี้ยังมี ส.ส.ไหลเข้าไหลออก ไม่นิ่ง คาดว่าวันที่ 9 พ.ย.จะนิ่งแล้ว สำหรับการไปออกโทรทัศน์ดีเบตนั้น มี กติกาว่าต้องมีหนังสือเชิญให้ถูกต้องว่าจะถามอะไร ถ้าไม่ชัดเจนก็ไม่ไป เคยโดนมาแล้วพิธีกรจี้เหมือนกับเป็นลูกไล่ ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ไม่ไปดีเบตเป็นเพราะกลัวเจอ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ใช่หรือไม่ นายบรรหารตอบว่า ไม่เกี่ยว เรื่องส่วนตัวกับเรื่องพรรคต้องแยกกัน ไม่มีปัญหา เมื่อถามว่า นายสมัครพูดว่าถ้าพรรคชาติไทย ไม่ร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน อาจจะต้องเสียใจ นายบรรหารตอบว่า เสียใจอะไร ไม่เข้าใจ การจัดตั้งรัฐบาลมีหลายสมัยแล้ว เป็นเรื่องธรรมดาปกติ เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่านายบรรหารมีแววว่าจะได้เป็น นายกรัฐมนตรี นายบรรหารตอบว่า เป็นไปไม่ได้ มีแค่ 30-40 เสียงเอง จะเป็นไปได้อย่างไร อดีตอย่าไปคิดเลย แค่ 18 เสียงเป็นนายกฯไม่มีแล้ว สมัยนี้การเมืองพัฒนาไป ไกลแล้ว เว้นเสียแต่จะหาคนเป็นนายกฯไม่ได้ก็เป็นอีกเรื่อง
ข่าวจาก ไทยรัฐ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1293 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 09 พ.ย. 50
เวลา 09:39:58
|