ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ข่าว การเมือง ร้อน บิ๊กบัง หรือ พล.อ.สนธิ อดีตประธาน คมช. เปรียบประเทศเหมือนคนไข้ และ พล.อ.สนธิ ชี้โลกาภิวัตน์ทำสังคมไทยอิจฉาให้ร้ายกัน ทั้งนี้ พล.อ.สนธิ ประกาศเสียงดังฟังชัดไม่เล่น การเมือง ระบุไม่ซีเรียสหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับไทย พล.อ.สนธิ ให้ประชาชนตัดสิน
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ประกาศชัดเจนไม่เล่นการเมือง แต่ยังอุบไต๋จะรับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลหน้าหรือไม่เป็นเรื่องอนาคตที่ยังไม่ถึง ซึ่งเป็นการให้สัมภาษณ์ในการร่วมงานสัมมนาเชิงวิชาการในหัวข้อ "เบื้องลึกของปัญหาและความอยู่รอดของประเทศ" ซึ่งสมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) จัดขึ้นที่ศูนย์แสดงนิทรรศการไบเทค บางนา เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน
นอกจากนี้ พล.อ.สนธิกล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า บ้านเมืองปัจจุบันทำท่าว่าจะเหมือนคนเป็นไข้ เป็นคนป่วยมีไข้ ซึ่งปัญหาจริงเรารู้ว่ากำลังป่วยอยู่ และไม่มีใครกล้าที่เข้าไปรักษา อาจเป็นเพราะว่ากลัวที่จะติดโรค แม้แต่หมอเองก็ยังกลัว บางครั้งมีคนบอกหมอว่าอย่าเข้าไปรักษา ทำให้หมอเกิดใจฝ่อ ดังนั้น อาการของคนป่วยจะเรื้อรังไม่หายเสียที คนไทยมีความสามารถจะแก้ไขปัญหาให้ชาติบ้านเมืองมีความอยู่รอดมีหลายทาง แต่เป็นเพราะว่าไม่ค่อยกล้า กลัวกับระบอบ กติกา ทำให้แนวทางการแก้ปัญหาความอยู่รอดของชาตินั้นไปยาก ถึงเวลาแล้วที่จะต้องแสดงความกล้าหาญในทุกช็อต ทุกที่ ทุกเรื่อง เพื่อที่จะเข้าไปแก้ปัญหาของชาติ
โลกาภิวัตน์ทำสังคมไทย "อิจฉา-ให้ร้าย"
พล.อ.สนธิกล่าวด้วยว่า การเมืองถือเป็นปัญหาสำคัญ แต่อยู่ที่นักการเมืองทุกคน คนไทยทุกคนต้องนำพาคนที่มีความตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานด้านการเมือง ที่เป็นคนที่ดี มีความรู้ ความซื่อสัตย์ ตลอดเวลาสังคมบอกว่าการเมือง คือ เรื่องน้ำเน่า และพยายามผลักดันคนดีให้ไปอยู่ข้างนอก ไม่ให้คนดีอยู่ในการเมือง การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมการเมืองจะลำบาก ถึงเวลาที่คนเก่งคนดีต้องเสียสละเข้ามาดำเนินการทางด้านเมืองให้เกิดเปลี่ยนแปลง
"ส่วนทางสังคมบ้านเราตั้งแต่ปี 2549 จนถึงวันนี้ยังมีแตกแยกมากมาย หนังสือพิมพ์ก็นำเสนอความคิดที่ไม่เหมือนกัน แสดงให้เห็นว่าสังคมเปลี่ยนแปลง ถือว่าน่าห่วง แต่ละวันด่ากันไปด่ากันมา ใครทำดีก็อิจฉาให้ร้าย นี่คือวัฒนธรรมสังคมไทยที่พัฒนาการมาตามโลกาภิวัตน์"
พล.อ.สนธิกล่าวว่า สิ่งที่อยากทำมากที่สุดคือ การปฏิรูปโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ ปัญหาสังคมอยู่ที่การศึกษา การเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย อยู่ที่พัฒนาการกล่อมเกลาของเยาวชน หากเปรียบเทียบระหว่างเด็กอายุ 13-14 ของต่างประเทศกับเด็กบ้านเรา เด็กในต่างประเทศมีความคิดเป็นผู้ใหญ่กว่าเยอะ
เสียงดังฟังชัด "ผมไม่เล่นการเมือง"
จากนั้น พล.อ.สนธิให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนเกี่ยวกับการตัดสินใจลงเล่นการเมืองว่า "ผมไม่เล่น ไม่เล่น" ส่วนสาเหตุที่ไม่ลงเล่นการเมือง พล.อ.สนธิกล่าวว่า "มีงานอื่นต้องทำเยอะ การเข้าไปทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองอยู่ตรงไหนก็ช่วยได้" เมื่อถามว่า หากรัฐบาลชุดหน้ามีการเทียบเชิญให้ไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีพร้อมหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ไม่ทราบ ใครจะมาเชิญ เป็นเรื่องของอนาคตค่อยว่ากัน
เมื่อถามว่า ตัดสินใจนานหรือไม่ว่าจะไม่เล่นการเมือง พล.อ.สนธิกล่าวว่า "ไม่เคยคิดเลย" ส่วนเหตุใดไม่ประกาศชัดเจนแต่แรกนั้น พล.อ.สนธิกล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า "เป็นกุศโลบาย ผมก็ไม่ได้บอกเฉยๆ ไม่เห็นเป็นไร" ส่วนอนาคตหลังพ้นรัฐบาลชุดนี้จะทำอะไรต่อ พล.อ.สนธิกล่าวว่า "ให้รางวัลกับชีวิต โดยเฉพาะด้านกีฬา เตะบอล ตีเทนนิส ตีกอล์ฟ"
ปัด "สมัคร" นายกฯแล้วแต่ประชาชน
เมื่อถามว่า สนามเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สนใจหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า "ไม่หรอกครับ" เมื่อถามว่า เหตุผลที่ไม่ลงเล่นการเมืองเพราะดูแล้วหลังเลือกตั้งจะไม่เกิดความวุ่นวาย พล.อ.สนธิกล่าวว่า "ไม่ได้คิด เพราะไม่มีอะไรที่เป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองแล้ว เพราะทุกคนเข้าใจวิถีทางหมดแล้ว"
ช่วงนี้พรรคพลังประชาชน (พปช.) โจมตีทหารหนัก พล.อ.สนธิกล่าวว่ายืนยันว่าประชาชนรักกองทัพ ยิ่งในชนบทยิ่งรักมาก ส่วนที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ประกาศตัวพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปนั้น แล้วแต่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเป็นผู้เลือก
เมื่อถามถึงข้อมูลที่ระบุว่ามีการทุจริตในการซื้อสิทธิขายเสียง พล.อ.สนธิกล่าวว่า มันเปลี่ยนมาก ยังไม่ได้อ่านในรายละเอียดทั้งหมด ได้ส่งเรื่องไปให้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ การทำงานของ ครส. (คณะกรรมการรณรงค์การซื้อสิทธิขายเสียง) ไม่ได้ซ้ำซ้อนอะไรกับ กกต. อย่างน้อยเริ่มนับหนึ่งก็ยังดี แต่กระบวนการดำเนินการทำไปแล้วหลายรูปแบบ
ไม่ซีเรียส "ทักษิณ" กลับให้ปชช.ตัดสิน
เมื่อถามว่า ครส.จับตาจังหวัดใดเป็นพิเศษ พล.อ.สนธิกล่าวว่า เชื่อว่าคำว่าดี ทุกคนเข้าใจเหมือนกัน แม้เปลี่ยนแปลงอย่างไร คำว่าดี ไม่มีทางเปลี่ยนได้ ส่วนกังวลหรือไม่หลังการเลือกตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับมา พล.อ.สนธิกล่าวว่า 'ไม่ต้องไปซีเรียส ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจไม่ต้องเป็นห่วง สำหรับที่หลายพรรคการเมืองเสนอว่าเป็นรัฐบาลจะเสนอให้ออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 111 กรรมการบริหารของพรรคไทยรักไทย พล.อ.สนธิกล่าวว่า เป็นเรื่องของเขา ถ้ากฎหมายบอกว่าได้ก็ต้องได้ ทั้งนี้ นักการเมืองจะต้องมีวิจารณญาณในการพิจารณา
กำชับแรงงาน27ล้านคนเลือกคนดี
พล.อ.สนธิยังกล่าวระหว่างไปประชุมชี้แจง "รณรงค์เชิญชวนไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร" ที่กระทรวงแรงงางว่า กระทรวงแรงงานเป็นหน่วยงานหลักเกี่ยวข้องกับผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งมากที่สุดของประเทศกว่า 27 ล้านคน สามารถชี้ชะตาประเทศไทยได้ จึงอยากให้ทุกคนตัดสินใจเลือกคนที่รักชาติ รักประชาชน และที่สำคัญของซื่อสัตย์ สุจริต เป็นคนดี
"ขอให้สังเกตว่าขณะนี้ประเทศเวียดนามและจีน ปกครองด้วยระบบสังคมนิยม แต่ก้าวล้ำประเทศไทยไปมาก เพราะคนมีวินัย ผู้นำขยันขันแข็ง และจงรักภักดีต่อชาติบ้านเมือง ผมสงสารประเทศไทยที่ผ่านมาบอบช้ำด้วยผู้บริหารประเทศไม่รักชาติ ไม่รักประชาชน ไม่มีระเบียบ วินัย ผมในฐานะกรรมการ ครส.ไม่อยากให้ประชาชนชาวไทย ขาดอุดมการณ์ หรือรับเงินรับทองเพื่อสนองต่อนักการเมืองเหล่านั้น"
พล.อ.สนธิกล่าวว่า ได้เข้ามาอยู่ในระบบการเมืองไม่กี่เดือน ก็ทราบว่ามีหลายอย่างต้องแก้ไข เช่น ปัญหาหนี้สินของลูกจ้าง เกษตรกร ปัญหาการมีรายได้ที่ต่ำ เป็นต้น
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
ข่าวจาก กระปุกดอทคอม
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|