ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
หลังจากที่หน่วยซีลได้พบทั้ง 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง โดยหลังจากนี้ สิ่งที่ต้องเดินหน้าต่อไป คือ การนำตัวทั้ง 13 คนออกจากถ้ำหลวง โดยนาวาเอกอนันต์ สุราวรรณ์ ผู้บังคับกรมรบพิเศษ 1 ที่อยู่ภายในโถง 3 ได้วางแผนการนำทั้ง 13 คนออกจากถ้ำหลวง โดยแบ่งเป็น 3 เฟส
เฟส 1 ส่งนักดำน้ำ 4 นาย พร้อมอุปกรณ์ดำรงชีพ พาวเวอร์เจล เข้าทำการช่วยเหลือ และพักอาศัยเป็นเพื่อน พร้อมกับสำรวจโครงสร้างภายในให้อยู่ได้โดยปลอดภัย
เฟส 2 ส่งนักดำน้ำ พร้อมแพทย์ เข้าทำการช่วยเหลือ และปรับสภาพอากาศเข้าไปภายใน ให้สามารถดำรงชีพได้อย่างสะดวกสบาย
เฟส 3 เตรียมส่งอาหาร เพิ่มเติม ให้อยู่ได้ 4 เดือน เป็นอย่างน้อย ควบคู่กับการสอนดำน้ำให้ ทั้ง 13 คน พร้อมกับยังคงดำรงการระบายน้ำ ตลอดเวลา
ทั้งนี้ การพา 13 ชีวิตออกจากถ้ำจะมีหน่วยซีลประกอบอย่างน้อยเด็ก 1 คนต่อหน่วยซีล 1 คน
นายปีเตอร์ วูลฟ์ ผู้เชี่ยวชาญและผู้อำนวยการของ Cave Divers Association of Australia ได้เปิดเผยกับ The Guardian ว่าปฏิบัติการช่วยเหลือครั้งนี้อาจจะต้องใช้เวลานานหลายเดือน เนื่องจากเด็กๆ และโค้ชดำน้ำไม่เป็น
“ทางเลือกที่ดีที่สุดคือปล่อยให้ทีมฟุตบอลและโค้ชรออยู่ในถ้ำและทำให้สภาพแวดล้อมนิ่ง เพื่อรอรับเสบียงที่กำลังจะส่งไป และเนื่องจากในถ้ำมีน้ำท่วม ชื้น จึงต้องทำให้ร่างกายแห้งและอบอุ่น รวมทั้งต้องส่งน้ำดื่ม อาหาร และอากาศบริสุทธิ์เข้าไปด้วย” วูลฟ์กล่าว
วูลฟ์ ผู้มีประสบการณ์การดำน้ำในถ้ำมานานถึง 10 ปี กล่าวอีกว่า การกู้ภัยในลักษณะเดียวกันนี้ที่ประสบความสำเร็จ มีเพียงครั้งเดียว คือกรณีที่นักดำน้ำในถ้ำที่มีประสบการณ์ จำนวน 12 คน ติดอยู่ในถ้ำ Pannikin Plains ในออสเตรเลีย เมื่อทศวรรษ 1980s
นอกจากนี้ นายเอ็ด โซเรนสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ภัยในถ้ำจากหน่วยงาน International Cave Rescue and Recovery ยังให้สัมภาษณ์กับ BBC โดยเตือนว่า เด็กๆ และโค้ชควรรออยู่ในถ้ำจนกว่าน้ำจะลดลง แทนที่จะพยายามว่ายน้ำออกมาจากถ้ำ ซึ่งอาจใช้เวลานาน แต่ก็เป็นวิธีการที่ปลอดภัยที่สุด และเสริมด้วยว่า แม้กระทั่งนักดำน้ำที่ได้รับการฝึกอย่างดีและมีทักษะ การว่ายน้ำในถ้ำมืดๆ ที่แทบมองไม่เห็น และน้ำที่ไหลแรงถือว่า “อันตรายมาก” ยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่เคยได้รับการฝึกอบรม จะถือว่า “อันตรายอย่างไม่น่าเชื่อ” เลยทีเดียว เนื่องจากบุคคลเหล่านี้อาจจะเกิดอาการวิตกจริตเมื่อลงน้ำ ดังนั้น จึงควรรอเป็นระยะเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ เพื่อให้ระดับน้ำลดลง
“ตราบใดที่เด็กๆ รู้ว่า เรารู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน พวกเขามีอาหาร มีวิธีการรักษาร่างกายให้อบอุ่น มีน้ำหรือระบบกรองน้ำ รวมทั้งแสงสว่าง ก็ถือว่าปลอดภัยที่จะรออยู่ในถ้ำ และการพาพวกเขาว่ายน้ำออกมาทันทีนั้น นอกจากจะเป็นอันตรายต่อเด็กและโค้ชแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อตัวหน่วยกู้ภัยด้วย” โซเรนสันกล่าว
ข้อมูล :The Guardian
ภาพ :AFP
(เนื้อหานี้ จะลบตัวเองภายใน 24 ชม. หากใครต้องการอ่านเนื้อหาจะลิงค์ไปยังที่มาต้นฉบับ)
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|