• สารภี แม่ริม สะเมิง คุณภาพอากาศ(PM2.5 รายชั่วโมง) มีผลกระทบต่อสุขภาพ!! |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 22 ม.ค. 62 เวลา 14:13:29 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
วันนี้ (22 ม.ค. 62) เวลา 14.00 น. เว็บไซต์ www.cmaqhi.org/ เป็นเว็บไซต์ แสดง ดัชนีคุณภาพอากาศเพื่อสุขภาพชาวเชียงใหม่ รายงานว่า
ขณะนี้ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI PM2.5 เฉลี่ยรายชั่วโมง) ของ อ.แม่ริม อ.สะเมิง อ.สารภี ซึ่งอยู่ในสภาวะ "สภาพอากาศไม่ดี"
แนะประชาชนในกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมนอกอาคารที่ใช้แรงหนักหรือเป็นเวลานาน พักหรือทำงานในอาคาร ส่วนประชาชนทั่วไปควรลดกิจกรรมนอกอาคารที่ใช้แรงหนักหรือเป็นเวลานาน อาจพักเป็นระยะๆ
สำหรับเว็บไซต์ www.cmaqhi.org แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ชาวเชียงใหม่ได้รับรู้คุณภาพอากาศในทุกอำเภอทั้งแบบเวลาจริงทุกชั่วโมง และแบบค่าเฉลี่ยใน 24 ชม.ที่ผ่านมา พร้อมคำอธิบายระดับดัชนีคุณภาพอากาศ และคำเตือนเพื่อลดความเสี่ยงจากผลกระทบของมลพิษอากาศต่อสุขภาพชาวเชียงใหม่ จัดทำขึ้นโดยความร่วมมือของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงใหม่
เวบไซต์นี้และค่าดัชนีคุณภาพอากาศเพื่อสุขภาพชาวเชียงใหม่ เกิดขึ้นจากความร่วมมือของหลายภาคส่วนโดยมีที่มาตามลำดับเวลาดังนี้
- กลุ่มแพทย์ พยาบาล นักวิชาการ และผู้สนใจศึกษาเรื่องคุณภาพอากาศกลุ่มเล็กๆ ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้รวมตัวกันพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ ความเห็นกันในไลน์กลุ่ม Suandok Air Alert จากไม่ถึง 10 ท่านจนปัจจุบันมีผู้สนใจเข้าร่วมเกือบ 200 ท่าน โดยปรึกษากันถึงผลกระทบต่อสุขภาพของฝุ่นละอองขนาดจิ๋ว (PM2.5) ที่มีความเข้มข้นในอากาศสูงในช่วงฤดูหมอกควันในจังหวัดเชียงใหม่ที่เกิดจากการเผาเกษตรในภาคเหนือตอนบน เมียนม่าร์ ลาว และจีนตอนล่าง
- ในกลุ่มมีความเห็นร่วมกันว่าภาครัฐโดยกรมควบคุมมลพิษ ให้คำแนะนำแก่ประชาชนในการป้องกันตนจากปัญหาหมอกควันที่ผ่านมาไม่ถูกต้องเท่าที่ควร ทำให้อาจเกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพของประชาชนชาวเชียงใหม่ได้ เนื่องจากกรมฯ แจ้งดัชนีคุณภาพอากาศโดยใช้ค่าเฉลี่ยรายวันและรายปีเฉพาะค่า PM10 ซึ่งไม่สามารถสะท้อนระดับมลพิษได้ดีเท่า PM2.5 แม้สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศที่จังหวัดเชียงใหม่สามารถวัดค่า PM2.5 ได้มาหลายปีแล้วก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้นยังใช้ค่า PM10 ในการแบ่งระดับดัชนีคุณภาพอากาศที่สูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกแนะนำกว่า 2 เท่า (ค่าเฉลี่ยรายวันกรมฯใช้ค่า PM10 120 มคก./ลบม. ในขณะที่องค์การอนามัยโลกใช้ ค่า 50 มคก./ลบม. ส่วนค่าเฉลี่ยรายปี กรมฯ ใช้ค่า 50 มคก./ลบม. ในขณะที่องค์การอนามัยโลกใช้ค่า 20 มคก./ลบม.) นอกจากนี้กรมฯ ประกาศเตือนแก่สาธารณะโดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง 24 ชม. เพียงวันละ 1 ครั้ง ซึ่งไม่เพียงพอที่ประชาชนจะนำไปใช้ลดความเสี่ยงในการดำเนินกิจกรรมประจำวันได้ เพราะค่าดัชนีคุณภาพอากาศมีความแปรปรวนระหว่างวันสูง
- ทางกลุ่มเห็นว่าสมควรนำค่าดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศสหรัฐอเมริกา (The United States Environmental Protection Agency หรือ EPA) มาใช้เนื่องจากมีหลักฐานเชิงวิชาการกำกับชัดเจนและมีหลายประเทศนำไปใช้ ศ. ขวัญชัย ศุภรัตน์ภิญโญและทีมงาน IT ของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จึงดำริให้จัดทำเวบไซต์ www.cmaqhi.org ขึ้นโดยนำข้อมูล PM2.5 ของ รศ. ดร. พิศิษฐ์ สิงห์ใจ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (www.aqith.com) ซึ่งดำเนินการติดตั้งจุดตรวจวัดแบบ realtime ขึ้นหลายจุดในจังหวัดเชียงใหม่ และได้มีความร่วมมือกับ ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Data Center: CCDC) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (www.cmuccdc.org) ที่ได้ดำเนินโครงการ "เครือข่ายเฝ้าระวังและเตือนภัยวิกฤตหมอกควันภาคประชาชน (People AQI)" ร่วมอยู่กับ กรมอนามัย และหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในการติดตั้งเครื่องวัดฝุ่นแบบพกพา "DustBoy" ในโรงพยาบาล 25 แห่ง ทำให้สามารถแสดงข้อมูลคุณภาพอากาศได้ครอบคลุมทุกอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่อย่างทั่วถึง
- ในวันที่ 2 เมษายน 2561 ศ. นพ. ชายชาญ โพธิรัตน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เป็นตัวแทนไปให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของมลพิษหมอกควันต่อสุขภาพชาวเชียงใหม่ และมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ระดับดัชนีคุณภาพอากาศที่มีมาตรฐานสากล พร้อมคำแนะนำในการเตือนประชาชนที่เหมาะสมแก่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และทีมงานที่ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์เพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันในจังหวัด และได้รับคำชี้แนะจากที่ประชุมขอให้เว็บไซต์ www.cmaqhi.org เตือนด้วย 2 ดัชนีคุณภาพอากาศ ทั้งดัชนีที่คำนวณจากค่า PM10 และค่า PM2.5 เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านและเพื่อป้องกันความสับสน โดยจะพยายามสร้างความรู้ความเข้าใจและความตระหนักเกี่ยวกับค่า PM2.5 ให้สังคมรับทราบอย่างกว้างขวางมากขึ้น
- เมื่อทางจังหวัดนำโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และตัวแทนของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ประสานงานกันจนได้ข้อสรุปร่วมกัน ในการเริ่มประกาศใช้ดัชนีคุณภาพอากาศเพื่อสุขภาพชาวเชียงใหม่ในวันที่ 12 เมษายน 2561 เป็นต้นมา
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 502 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 22 ม.ค. 62
เวลา 14:13:29
|