ถอยหลังใกล้เวลาเข้าสู่การเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคมเข้าทุกที รถหาเสียงของแต่ละพรรคการเมืองพากันโหมประโคมนโยบาย ผลงานและหมายเลขชื่อผู้สมัครกันดังกระหึ่ม พร้อมๆ กับมีเสียงเพลงประจำพรรคแทรกประกอบอยู่ด้วย
เพลงประกอบของบางพรรคมีเนื้อร้องทำนองเป็นที่คุ้นหู บ้างก็มีจังหวะมาร์ชปลุกใจ บางเพลงมีเนื้อหาเหมือนเพลงเพื่อชีวิต
เพลงประจำพรรค กลายเป็นอีกองค์ประกอบของสไตล์การหาเสียงแบบไทยๆ โดยแต่ละพรรคการเมืองพากันควานหานักแต่งเพลงชื่อดังร่วมแต่ง "เนื้อร้อง-ทำนอง" เพื่อหวังดึงดูดความสนใจจากผู้คน
พรรคเพื่อแผ่นดิน
ได้ "เทียรี่ เมฆวัฒนา" ศิษย์เก่าวงคาราบาว ซึ่งเป็น "คนเขียนเพลง" ที่สามารถเล่นกับภาษาได้อย่างลงตัว และยังเป็น "คนร้องเพลง" ที่มีน้ำเสียงเป็นเสน่ห์ ร้องทุกแนวทั้งแนวหวานซึ้งและปลุกใจ มาร่วมแต่ง "เนื้อร้อง-ทำนอง" ในจังหวะ 3 ช่า และยังเป็นผู้ขับร้อง เพลงประจำพรรค "เพื่อแผ่นดิน"
เนื้อหาในช่วงแรกของเพลง จะร่ายถึงเจตนารมณ์ "สร้างชาติ ธำรงศาสน์ เทิดราชบัลลังก์" ก่อนดึงเอา "สีธงชาติไทย" มาสำทับเพื่อให้คนฟังเกิดอาการฮึกเหิมตามจังหวะเร้าของเสียงดนตรี โดยไม่ลืมสอดแทรกนโยบาย "พรรคทางเลือกใหม่" เข้าไป
"...เพื่อแผ่นดินๆๆ พรรคเพื่อแผ่นดิน เพื่อความสุขของคนไทย เพื่อแผ่นดิน พรรคเพื่อแผ่นดิน เพื่อความสุขของคนไทย เลือกพรรคเพื่อแผ่นดิน..."
พรรคมัชฌิมาธิปไตย
มี "แอ๊ด คาราบาว" นักร้องเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง เป็นผู้แต่งและร้องเพลง "มัชฌิมาธิปไตย"
ว่ากันว่าเพลงนี้มีต้นกำเนิดในสนามชนไก่ โบนันซ่ารีสอร์ตเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา "สมศักดิ์ เทพสุทิน" อดีตหัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา เอ่ยปากขอให้ "แอ๊ด" เขียนเพลงสำหรับกลุ่มในสไตล์ "เพื่อชีวิต" ตามถนัด
เมื่อ "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" เจ้าสัวใหญ่แห่งทีพีไอ เทกโอเวอร์ "พรรคมัชฌิมา" แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น "มัชฌิมาธิปไตย" ก็นำเพลงนี้ไปใช้เป็นเพลงประจำพรรคและเป็นหลักในการหาเสียง เนื้อร้องในท่อนฮุกร้องว่า...
"...พรรคมัชฌิมา ประกันราคาผลผลิตเกษตรกร...พรรคมัชฌิมา ประกันราคาผลผลิตเกษตรกร... เสริมส่งการกสิกรรม เลี้ยงโคกระบือ ไก่นกปลาหมาแมว...เพิ่มโคปีละล้านตัว ให้คุณภาพเทียบเท่าเนื้อโกเบ มีเนื้อ มีน้ำแก้จน คนหมดหนี้ มีโคร่ำรวย..."
พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (รช.)
เข็นเอาเพลง "รวมใจไทยชาติพัฒนา" มาประชัน โดยใช้ท่วงทำนองเพลงมาร์ช ฟังไปสามารถโยกตามได้ มีการใช้เครื่องเป่า อาทิ ทรัมเป็ต ทรอมโบน และแซกโซโฟน ร่วมเสียงประสานสร้างความฮึกเหิม เสริมด้วยจังหวะกลองเพิ่มความคึกคักเข้าไปอีก
เพลง "รวมใจไทยชาติพัฒนา" มีเอเยนซี่ร่วมผลิต โดยการคุมทีมของ "เกษมสันต์ วีระกุล" รองหัวหน้าพรรค ผู้แต่งคือ "สุรพันธุ์ ชาญวิชชนานันท์" ใช้เส้นเสียงลูกคอดี แต่โนเนมร่วมขับร้องแบบประสานหมู่ ด้วยหวังให้ท่อนฮุกเพลงที่ว่า "รวม...ใจไทยชาติพัฒนา จะทำ...เพื่อพี่น้องไทย ฟื้นเมืองไทย ให้มั่นคง และรุ่งเรือง" ติดหูประชาชน
พรรคพลังประชาชน
มีเพลงประจำพรรค 8 เพลง คือ 1.เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2.มาร์ชพลังประชาชน 3.เต้ยพลังประชาชน 4.หยุดฝัน 5.ใคร 6.ใจไม่ด้านพอ 7.ช่วยกา พลังประชาชน 8.ลำยาว/เต้ยพลังประชาชน
แต่เพลงยอดฮิตที่ใช้กันทุกภาคแบบหลากหลายมี 2 เพลง คือ เพลง "เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์" ที่แต่งและร้องโดย "อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง" ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 12 พรรคพลังประชาชน อดีตนักร้องชื่อดัง และเพลง "เต้ยพลังประชาชน" แต่งโดย ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน เพลงเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เอาทำนองมาจากเพลง "มาร์ช รัสเซีย" มีท่อนโดนใจใครหลายคน
"...ด้วยสมัคร และพลังประชาชน พรรคที่ไทยทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยสมัคร และพลังประชาชน พรรคที่ไทยทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน ทำเพื่อชาติศาสน์ กษัตริย์ สร้างไทยเด่นชัดสู่ระดับสากล กล้าคิดค้นทำนอกกรอบ เล่นตามระบอบมีประสิทธิผล ให้โอกาสสร้างแหล่งทุนชุมชน คาราวานแก้จนต้องทำตามสัญญา ให้ที่ดินไร่เกษตรแปลงนา ผลดีขึ้นมาได้ทำกินพอเพียง..."
ขณะที่เพลง "เต้ยพลังประชาชน" ที่เป็นทำนอง "รำเต้ย" เนื้อหาน่าสนใจ...
"...นายกแนวท่านทักษิณ นายกแนวท่านทักษิณ ชื่อใครได้ยินชื่นใจ ผลงานและนโยบาย ดังก้องเกรียงไกรไปทุกวงการ ผู้คนยากไร้อยู่ที่ไหนจิตใจชื่นบาน อบอุ่นมั่นใจผลงานของรัฐบาลแนวท่านทักษิณ ของรัฐบาลแนวท่านทักษิณ..."
"...จึงมาขอมาอ้อน มาขอวอนเพื่อนไทยทั่วถิ่น ให้ยืนหยัดศรัทธาอย่าสิ้น ทักษิณสิตาวมากช่วยกันกาเอาท่านสมัคร เลือกทั้งพรรคทั้งคนเลิศล้น พรรคพลังประชาชน ทุกคนเด้อ..."
พรรคชาติไทย
ใช้บริการ "แอ๊ด คาราบาว" แต่งเพลง "ยืนหยัด ชัดเจน" ตรงกับสโลแกนพรรค แต่งโดย แอ๊ด คาราบาว เป็นแนวดนตรีเพื่อชีวิต
ซึ่งงานนี้ "ลูกท็อป" วราวุธ ศิลปาชา กรรมการบริหารพรรคชาติไทย ในฐานะดูแลเรื่องการปรับภาพลักษณ์ของพรรค เนื้อหาเน้นสะท้อนความหวัง และการสร้างแรงบันดาลใจทางการเมืองใหม่ๆ ทำให้ชีวิตมีความหวัง ในยุคการเมืองที่ยังมืดมน ไม่ใช้จังหวะ 3 ช่า แต่จะเน้นเป็นแนวดนตรีเพื่อชีวิต
(จังหวะช้าช่วงเปิด) "...ประชาธิปไตย ของเมืองไทย ที่เคยมืดมน ผ่านมากี่ครั้งกี่หน ที่ประชาชนสู้ทนข่มใจ ยืนหยัดต่อสู้ มุ่งมั่นรอวันฟ้าใส สู้เพื่อวันฟ้าใหม่ พรรคชาติไทย ยืนหยัด ชัดเจน"
(จังหวะเร็ว) "...เป็นแสงสว่าง ส่องทางการเมืองไทย ประชาธิปไตยใต้กฎเกณฑ์พรรคชาติไทยนโยบายไม่เบี่ยงเบน พร้อมเดินหน้า เพื่ออนาคตไทย พร้อมก้าวไป เพื่อให้ไทยร่มเย็น พรรคชาติไทย เปลี่ยนความคิด เป็นความจริง (พรรคชาติไทย ยืนหยัด ชัดเจน)"
พรรคประชาธิปัตย์
เลือกตั้งครั้งนี้ ยังคงใช้บริการเพลงเดิมคือ "เพลงมาร์ชประชาธิปัตย์" ที่แต่งขึ้นจากนักแต่งเพลงและเรียบเรียงโดย "วิจิตร จิตรรังสรรค์" และร้องโดยคณะนักร้องประสานเสียง ซี ยู แบรนด์ เมื่อครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ ครบรอบ 50 ปี ด้วยทำนองเพลงที่ปลุกใจ และเนื้อหาที่เข้าใจง่าย จึงทำให้เพลงนี้ติดหูประชาชนอย่างง่ายดาย
"...พรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์ ขอรับใช้ชาติศาสน์ กษัตริย์และประชาชนไทย ตั้งซื่อตรง ไม่โกงไม่กิน..."
แต่การเลือกตั้งนี้พิเศษหน่อย ที่จ้าง "สะอาด ฤทธิบัณฑิต" นักแต่งเพลงมืออาชีพ แต่งเพลงหาเสียงให้อีก 4 เพลงรวด
เพลงแรก "ประชาธิปัตย์มาแล้ว" เป็นเพลงจังหวะสนุกสนาน ใช้ทำนอง "ลูกทุ่งโจ๊ะ" ที่มีท่อนฮุกสุดเร้าใจ...
"....มาแล้ว มาแล้ว เสียงแจ้วๆ ประชาธิปัตย์เขามา ซื่อสัตย์มีความจริงใจ อยู่คู่ชาวไทยมานานหนักหนา ไกลใกล้ บุกไปทุกที่ พระแม่ธรณีที่เราศรัทธา..."
นอกจากนี้ ในแต่ละพื้นที่ยังนำเพลงลูกทุ่งฮิตๆ อย่าง "ขอนไม้กับเรือ" ของศิลปิน "บ่าววี" เพลง "โนราห์ โนบรา" ของ บิว กัลยาณี เพลง "เปิดใจสาวแต" ของน้องกระแต โฟร์ทีน หรือแม้กระทั่งเพลง "หมีแพนด้า" ของวงไฮโร มาแปลงในเวอร์ชั่นต่างๆ อาทิ เวอร์ชั่นลูกทุ่ง หมอลำซิ่ง หรือเวอร์ชั่นรองเง็ง สำหรับชาวใต้
ทุกเพลงใส่เนื้อหาเกี่ยวกับนโยบาย เพื่อหวังว่าผู้คนได้รู้จัก "วาระประชาชน" ผ่านเสียงเพลงมากขึ้น
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
ข่าวจาก กระปุกดอทคอม