ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
พลเอกประวิตร” เผย แรงงานไทยจากเกาหลีใต้ “ผีน้อย”ขอกลับไทย 5,000 คนต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน เนื่องจากเกาหลีใต้ ไม่ประกาศปิดเมืองเหมือน อู่ฮั่น โยน ตม.ลงทะเบียนผู้เดินทางกลับ
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแรงงานไทยในประเทศเกาหลีใต้ หรือ ผีน้อย ร้องขอกลับไทยกว่า 5000 คน ว่า ในเบื้องต้นกระทรวงการต่างประเทศนั้น ให้ผู้ที่เดินทางกลับมาจะต้องกักตัวอยู่ในที่บ้านของตนเอง เนื่องจากประเทศต้นทางไม่ได้กำหนด หรือประกาศปิดเมือง เหมือนเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน จึงไม่มีกฎหมายที่จะสามารถกักตัวผู้ที่เดินทางกลับมาได้
ส่วนเรื่องการขึ้นทะเบียนแรงงานที่เดินทางกลับมานั้นให้เป็นเรื่องของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. ซึ่งต้องทำความเข้าใจกับประชาชนที่เดินทางกลับมา
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุ ว่า หากเดินทางกลับมาจะต้องมีการกักตัวตามระบบควบคุมโรค คืออย่างน้อย 14 วัน แต่เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าจะให้กักตัวอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ ก่อนหรือเดินทางกลับมา กักตัวที่ประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้ตัวเองตัดสินใจเองไม่ได้และอาจจะมีการพูดคุยในคณะรัฐมนตรีวันนี้เพื่อหาข้อสรุปโดยเร็ว
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงประเด็นที่สื่อสนใจสอบถาม จำนวน คนไทย หรือคนที่เป็นแรงงานผิดกฎหมายที่เกาหลีใต้ ต้องการเดินทางกลับประเทศไทย มีจำนวนเท่าใดและจะเดินทางกลับถึงประเทศไทยเมื่อไหร่นั้นขอเรียนว่า ขณะนี้เริ่มมีคนไทย หรือ คนที่เป็นแรงงานผิดกฎหมายที่เกาหลีใต้ ที่จะถูกส่งกลับมายังประเทศไทย จำนวนหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นการทยอยเดินทางกลับ โดยมีการประสานงานกันอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ การแยกหลุมจอดเฉพาะ แยกโซนไม่ให้ปะปนกับผู้โดยสารอื่นๆ ของการท่าอากาศยาน AOT ผ่านการตรวจคัดกรองโรค และ จัดทำประวัติโดยละเอียด จากทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคระบาดระหว่างประเทศ ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และการท่าอากศยาน AOT ในการป้องกันและหยุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่การตรวจคนเข้าเมือง ด้วยกระบวนการคัดกรองบุคคลที่มีมาตรฐานในทุกขั้นตอน เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นและมั่นใจในการป้องกันและหยุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ ขอให้ประชาชน สื่อมวลชน โปรดรับฟังข้อมูล ข่าวสารจากทางราชการ เพื่อป้องกันความสับสนและสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน
แรงงานไทยคนหนึ่ง ยอมเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เขาเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้ โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว เมื่อ 8 ปีก่อน โดยเข้ามาทำงานที่เมืองกูมิ ใกล้กับเมืองแทกู เพื่อเก็บเงินส่งกลับบ้าน แต่ตอนนี้สถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดหนักในพื้นที่ ทำให้โรงงาน สวนผัก ผลไม้ ร้านอาหาร ปิดตัวลงจำนวนมาก แรงงานที่นี่ขาดรายได้ การใช้ชีวิตก็ยากลำบากมาก หน้ากากอนามัยก็หายาก พอมีขายก็ราคาแพง อันละประมาณ 7,000 วอน หรือราว 185 บาท บางคนเงินเก็บก็หมดแล้ว อยากกลับไทยก็กลับไม่ได้ บางคนกลัวว่าเมื่อกลับไทยจะไม่มีงานทำ จึงอยากให้ทางการไทยช่วยหางานให้ทำเมื่อกลับไปแล้ว แต่ในระหว่างนี้อยากให้ส่งหน้ากากอนามัยมาให้หน่อย เพราะที่เกาหลีหาซื้อยากมาก
เรื่องนี้ ด้านกระทรวงแรงงาน บอกว่า กรมการจัดหางานได้จัดเตรียมตำแหน่งงานว่างทั่วประเทศ จำนวน 81,562 อัตรา เพื่อเปิดโกาสให้แรงงานไทยได้สมัครงานในตำแหน่งที่ต้องการ และเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จะสำรวจความต้องการและดำเนินการให้แรงงานกลับไปทำงานใหม่ตามความต้องการอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้มีการประชุมร่วมกันของหัวหน้าด่าน ตม. ประจำท่าอากาศยาน 5 แห่ง สุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, ภูเก็ต, เชียงใหม่ และหาดใหญ่ พร้อมกับกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ โดยจะมีการประสานงานกับสายการบินที่มีคนไทยกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง เพื่อทำการคัดกรองด้วยเครื่องเทอร์โมสแกน ก่อนเข้าอาคารทันทีที่ลงจากเครื่องบินตามมาตรฐานสากล ซึ่งวิธีปฏิบัติก็จะเหมือนกับเที่ยวบินต่าง ๆ ที่ไปรับผู้โดยสาร จากกระเทศกลุ่มเสี่ยงมา หากพบว่าผู้โดยสารมีไข้ 37.5 องศาขึ้นไป จะถูกแยกตัวออกมาเพื่อไปส่งที่โรงพยาบาล ที่อยู่เครือข่ายของกรมควบคุมโรค เพื่อเฝ้าดูอาการและรักษาต่อไป
(เนื้อหานี้ จะลบตัวเองภายใน 24 ชม. หากใครต้องการอ่านเนื้อหาจะลิงค์ไปยังที่มาต้นฉบับ)
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|