กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
แพทย์ผิวหนังเตือนอย่าให้ผึ้งต่อยปากหวังเป็นรูปกระจับ เสี่ยงอันตรายอาจตายได้
กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง เตือนอย่าหลงเชื่อคลิปสาวสอนทำปากรูปกระจับโดยให้ผึ้งต่อยปาก เพราะผึ้งหลายชนิดมีพิษ เมื่อโดนผึ้งต่อยจะทำให้เกิดอาการปวดแสบทันที ตามมาด้วยรอยต่อยบวมแดง เกิดผื่นลมพิษ อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้รุนแรง (anaphylaxis) จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ พร้อมแนะนำวิธีการดูแลตนเองเมื่อโดนผึ้งต่อยและการป้องกันผึ้งต่อย
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีคลิปเผยแพร่ว่า มีผู้สอนทำปากรูปกระจับด้วยการเอาผึ้งมาต่อยนั้น ขอแนะนำว่า อย่าทำโดยเด็ดขาด เพราะเหล็กในของผึ้งมีพิษ (venom) พิษของผึ้งประกอบด้วยโปรตีน, เปปไทด์, และสารอินทรีย์อีกหลายชนิด ผึ้งต่อยเหยื่อด้วยเหล็กใน เหล็กในจะเชื่อมต่อกับต่อมพิษและอวัยวะภายใน เมื่อต่อยทำให้เหยื่อเจ็บปวดมาก เกิดการแพ้ ปวด บวมบริเวณที่โดนผึ้งต่อย และอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้รุนแรง (anaphylaxis) มีลักษณะเป็นผื่นลมพิษทั้งตัว, ปากบวม และหายใจติดขัด อาจเสียชีวิตได้
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อผึ้งต่อย เหล็กในจะติดคาผิวหนังหลังต่อย หลังจากนั้นผึ้งจะตายเพราะต่อมพิษและอวัยวะภายในถูกดึงติดออกมากับเหล็กใน หลังถูกต่อยควรรีบเอาเหล็กในออกไปโดยเร็วที่สุด เพราะกล้ามเนื้อที่อยู่ติดกับเหล็กในยังคงบีบตัวขับพิษเข้าสู่ผิวหนังต่อไป ไม่ควรใช้นิ้วหรือแหนบหนีบดึงเหล็กใน เพราะจะเป็นการบีบไล่พิษเข้าสู่ผิวหนังมากขึ้น วิธีกำจัดเหล็กในที่ปลอดภัย คือ ใช้ขอบทู่ๆ ของบัตรเครดิตหรือสันใบมีด ทำมุมแหลมกับผิวหนังจนเกือบขนานกับผิวหนัง แล้วขูดผิวหนังบริเวณที่มีเหล็กใน เป็นวิธีทำให้เหล็กในหลุดออกมาจากผิวหนังโดยมีโอกาสน้อยที่พิษถูกขับออกมา ผู้ที่โดนผึ้งต่อยจะเกิดอาการปวดแสบทันที ตามมาด้วยรอยต่อยบวมแดง และอาจเกิดผื่นลมพิษด้วย ปฏิกิริยานี้จะดีขึ้นภายในหลายชั่วโมง ปฏิกิริยาที่รุนแรงกว่านี้ก็อาจเกิดขึ้นได้ เช่น รอยต่อยบวมมาก และบวมได้นานถึง 1 สัปดาห์ ปฏิกิริยาแพ้รุนแรง (anaphylaxis) พบได้ประมาณ 0.4% ถึง 3.0% มีรายงานเกิดอาการหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะหลังถูกผึ้งต่อย โดยไม่มีปฏิกิริยาแพ้รุนแรง การดูแลรักษาผึ้งต่อยขึ้นกับความรุนแรงของผื่น ถ้าเป็นไม่รุนแรง แนะนำการล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่ ประคบน้ำแข็ง และอาจฉีดยาชาเฉพาะที่ระงับปวด ยากินหรือยาฉีด อาจช่วยบรรเทาอาการคันและลมพิษ ส่วนการแพ้รุนแรง มีลักษณะเป็นผื่นลมพิษทั้งตัว, ปากบวม และหายใจติดขัด ควรรีบพาผู้ป่วยส่งห้องฉุกเฉิน
ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า การป้องกันผึ้งต่อย ควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้รวงผึ้ง ผู้ที่เคยแพ้พิษควรสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ปลายขากางเกงอยู่ในรองเท้าบู้ท ไม่ให้ผึ้งแตกตื่นโดยไม่ใช้เครื่องจักร, เครื่องมือที่มีแรงสั่นสะเทือน ที่อาจทำให้ผึ้งตื่นตกใจ ห้ามปิดเปิดประตูหน้าต่างแรงๆ ใกล้รังของมัน ห้ามใช้สีทาบ้านที่มี isoamyl acetate ในบริเวณที่มีผึ้งทำรัง เพราะ isoamyl acetate เป็นส่วนหนึ่งของฟีโรโมน (pheromone) ที่อาจทำให้ผึ้งแตกตื่น ไม่ดึงดูดผึ้งโดยหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าสีเหลืองและสีเข้ม หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอม เพราะกลิ่นจากเครื่องสำอางอาจดึงดูดผึ้ง การกำจัดรวงผึ้งอย่างถูกวิธี ควรใช้บริการของบริษัทกำจัดแมลง เพราะการกำจัดให้สิ้นซากต้องใช้ยาฆ่าแมลงที่ออกฤทธิ์รวดเร็วและยาวนาน การดำเนินการกำจัดเองอาจทำให้ฝูงผึ้งแตกรังออกมาทำร้ายคนและสัตว์เลี้ยง
ขอบคุณข้อมูล : กรมการแพทย์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|