• ทันตแพทย์หนุ่ม โพสต์เฟสบุ๊ค ขอความเป็นธรรม หลังภรรยาไปตรวจแล้วเสียชีวิต ที่ รพ.ดัง ใน จ.เชียงใหม่ |
โพสต์โดย คนข่าว , วันที่ 30 ก.ย. 63 เวลา 13:07:00 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สืบเนื่องจากกรณีที่ ภกญ.ปวีร์ธิดา วัฒนสมบูรณ์ อายุ 35 ปี ที่ปวดท้องน้อย คลื่นไส้ อาเจียน และได้เข้ารักษาตัวภายในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ทำการฉีดสารทึบรังสี เพื่อทำการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ช่องท้องส่วนล่าง แต่ปรากฏว่าเกิดอาการแพ้ และไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น ก็เสียชีวิตในที่สุด
ทพ.ธีระวุฑฒ์ หวงสุวรรณากร อายุ 35 ปี ทันตแพทย์หนุ่มในจังหวัดเชียงใหม่ สามีของผู้เสียชีวิต ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของภรรยา โรงพยาบาลได้ออกมาชี้แจง และรับผิดชอบเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น แต่ทางผู้บริหารและทางโรงพยาบาลกลับไม่ได้ให้คำตอบ
วานนี้ 29กันยายน 63 จึงได้ตัดสินใจโพสต์ข้อความและเรื่องราวเรียกร้องความเป็นธรรมลงในโลกโซเชียล เกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของภรรยาสาวคือ ภกญ.ปวีร์ธิดา วัฒนสมบูรณ์ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม โดยมีข้อความดังนี้
แชร์ 1 ครั้งร้องคืนความเป็นธรรมให้แก่ครอบครัวเรานะคับ
ก่อนอ่านขอความกรุณาไม่ comment ถามถึงชื่อโรงพยาบาลหรือเอ่ยชื่อ ต่อย่อนะคับ ขอบพระคุณคับ
สวัสดีคับ ทางเราเป็นญาติผู้เสียชีวิตต้องการติดต่อนักข่าวเพื่อมาทำข่าวเกี่ยวกับการฟ้องร้องโรงพยาบาลเอกชน ทำการรักษาคนไข้ที่มีประกัน โดยกระทำการรักษาเกินความจำเป็นส่งผลให้เสียชีวิต
เหตุการ์ณคือ ภรรยาของผม (กิ๊ฟ) มีอาการปวดท้องน้อยได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเช้าวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2563 อาการคือปวดท้องน้อยมา3-4วัน คลื่นไส้อาเจียน1สัปดาห์ กิ๊ฟและผม ตัดสินใจเลือกคลินิกอายุรกรรมทางเดินอาหาร เพราะในเบื้องต้นไม่แน่ใจว่าอาการปวดท้องเกิดจากอะไร
คุณหมอแจ้งกับ กิ๊ฟ ว่าสงสัยนิ่วทางเดินปัสสาวะ และให้กิ๊ฟ แอดมิทเพื่อทำ การตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ช่องท้องส่วนล่างที่มีการฉีดสารทึบรังสี หรือ CT lower abdomen with contrast media
ที่ห้องเอ็กซเรย์ กิ๊ฟ เกิดอาการแพ้สารทึบรังสี ขั้นรุนแรงที่สุด หรือ Anaphylactic shock จากเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นรวดเร็วมาก ภายในไม่กี่ชั่วโมง แม้จะอยู่ในมือแพทย์ และโรงพยาบาลชั้นนำ แต่อาการกลับทรุดหนักจนทำให้กิ๊ฟได้จากไปโดยไม่มีวันกลับมา
เหตุการณ์สุดท้ายที่จำได้ที่รพ. คุณหมอ เดินเข้ามาบอกผมว่า พบถุงการตั้งครรภ์จากผลเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ แพทย์ได้สวนปัสสาวะร่างที่ไร้วิญญาณไปตรวจปัสสาวะยืนยันแล้วพบว่าตั้งครรภ์จริงๆ ผมหัวเราะเบาๆแล้วพูดกับภรรยาว่า อ้าวท้องเหรอ เรากำลังจะมีลูก นี่รอตั้งนานเลยนะ จุดนี้ไม่รู้จริงๆว่าผมควรจะดีใจหรือเสียใจดี
หลังจากนั้นครอบครัวรีบนำร่างกลับบ้านเกิดเพื่อทำพิธีทางศาสนา ตอนนั้นครอบครัวรู้สึกติดใจกับเหตุการ์ณที่เกิดขึ้น จึงขอเอกสารการรักษามาดู แต่ต้องไปขอหลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งไม่ครบถ้วน
ต่อมาพี่น้องเราที่เป็นหมอไม่รอช้าขอเข้าพบ ผอ.โรงพยาบาล เพื่อขอคำอธิบายกับเรื่องนี้ ทางโรงพยาบาลปฏิเสธการอธิบายเหตุการณ์ พูดเพียงแต่ตนไม่ผิด สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามมาตรฐานทุกขั้นตอน ไม่ยอมแม้แต่จะพูดคำว่าขอโทษซึ่งได้อ้างถึงศักดิ์ศรีของวิชาชีพของแพทย์ ณ จุดนี้ทางครอบครัวของเราเมื่อมีสติดูเอกสารและข้อมูลการรักษาอย่างละเอียด มีสิ่งที่ผิดปกติหลายจุด ซึ่งคนเป็นหมออย่างพี่น้องเรายังสงสัยเป็นอย่างมากว่า โรงพยาบาลแห่งนี้ทำตามขั้นตอนตามมาตราฐานแล้วจริงหรือ...
ด้วยเหตุนี้ทางเราจะทำการยื่นเอกสารกับทางแพทยสภาเพื่อขอความยุติธรรมในการตรวจสอบโดยไม่มีการแทรกแซงใดๆ เพื่อให้มีการตรวจสอบอย่างใสสะอาดที่สุด โดยเร็ววัน(จะแจ้งให้ทราบอีกที) ณ แพทยสภาแห่งประเทศไทย
ทางครอบครัวของเราขอร้องสื่อทุกๆท่านได้โปรดอย่ามองข้ามกับเรื่องนี้ เพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่ภรรยาของผม เพื่อเป็นอุทาหรณ์ และช่วยกันป้องกันเพื่อไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคนอื่นๆและครอบครัวของท่าน.
ใครมีนักข่าวสำนักไหนช่วยแท็กเรียกหรือแนะนำให้ผมก็ได้นะคับขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
#saveศักดิ์ศรีวิชาชีพแพทย์
กข่าวท่านไหนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม inbox ขอเบอร์จากน้องสาวผมได้เลยคับ
คุณเบน
Barain Blackish
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 11992 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย คนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 30 ก.ย. 63
เวลา 13:07:00
|