หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ ผ้าพันคอราคาถูก ราคาส่ง เชียงใหม่ ลำพูน

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
ห้องแก๋งโฮ๊ะ
เว็บบอร์ด » ห้องแก๋งโฮ๊ะ
รายละเอียดของห้อง : พูดคุยกันเรื่องทั่วๆ ไป, สัพเพเหระ, อยากถาม อยากตอบ
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
ชาวบ้านนาคล้าย ใช้บทเรียน“ป่าหมด คนลำบาก” ปลุกสำนึกรักหวงแหนผืนป่า

แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
ชาวบ้านนาคล้าย ใช้บทเรียน“ป่าหมด คนลำบาก” ปลุกสำนึกรักหวงแหนผืนป่า
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 14 พ.ค. 64 เวลา 01:19:32 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV



ลิงก์ผู้สนับสนุน
ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 

ชาวบ้านนาคล้าย ใช้บทเรียน“ป่าหมด คนลำบาก” ปลุกสำนึกรักหวงแหนผืนป่าร่วมกันฟื้นฟูจากปัญหาการสัมปทานป่าและวิกฤตไฟป่าหมอกควัน รวมพลังเป็นเครือข่าย ทสม.ร่วมกันอนุรักษ์อย่างยั่งยืน

นายแดน หมื่นจันทร์ ประธาน ทสม. หมู่บ้านนาคล้าย กรรมการ ทสม.ตำบลนาบัว อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า พื้นที่ตำบลนาบัว มีเหตุการณ์สำคัญที่เป็นบทเรียนและส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ครั้งสำคัญ คือ เมื่อปี 2527 เกิดการสัมปทานป่าไม้ในพื้นที่ โดยบริษัทแสงสิริ เหตุจากครั้งนั้นได้ส่งผลกระทบต่อชุมชนโดยเฉพาะเกิดปัญหาด้านทรัพยากรคือ ป่าไม้ในพื้นที่เกิดความเสื่อมโทรมอย่างมากเนื่องจากป่าถูกตัดและถูกทำลาย ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้ง ชุมชนไม่สามารถทำการเกษตรได้ จากเดิมป่าไม้ คือ แหล่งอาหาร แหล่งทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ที่หล่อเลี้ยงผู้คนในชุมชน แต่เมื่อป่าไม้ถูกทำลาย แหล่งอาหารหายไป จึงนำไปสู่การ (ต้อง) ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนในชุมชน ที่หันไปพึ่งสังคมภายนอกมากขึ้นทั้งการออกไปรับจ้างเป็นแรงงานนอกชุมชน เกิดภาระหนี้สิน เกิดปัญหาครอบครัว ปัญหายาเสพติด การอาศัยพึ่งพาป่าของชาวบ้านมักจะเป็นพื้นที่ป่าที่ห่างไกลออกไปจากชุมชน

    ผู้ใหญ่แดนกล่าวว่า ปัญหาจากการสัมปทานป่าในครั้งนั้นยังคงส่งผลกระทบเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เช่น พื้นที่บ้านนาคล้าย หมู่ 1 ที่ปัจจุบันต้นไม้ในพื้นที่ยังเป็นต้นไม้ขนาดเล็ก ในขณะที่ต้นไม้ขนาดใหญ่ยังคงมีไม่มาก ต้นไม่ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่สูงซึ่งไม่สามารถเข้าไปตัดได้ และเป็นลักษณะต้นไม้ที่กำลังฟื้นฟูหลังจากการปิดสันปทานป่าไม้ ปัญหาป่าไม้ถูกทำลาย ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของกระแสการอนุรักษ์ป่า เริ่มจากการเกิดขึ้นของ ป่าชุมชนบ้านร้องกอกจากนั้นได้ขยายแนวคิดไปยังพื้นที่อื่นๆในตำบลนาบัว โดยอาศัยแนวคิดการฟื้นฟูป่าจากชุมชน มีการปลูกป่าร่วมกัน มีการจัดอาสาสมัครดับไฟป่า หลังจากนั้นได้เกิดความร่วมมือ และการสนับสนุนจากหน่วยงาน องค์กรจากภายนอก เช่น การจัดอบรม ทสม. รสทป. ให้กับประชาชนในพื้นที่ตำบลนาบัว ของสำนักงานสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลก 

 

    สำหรับหมู่ 1 บ้านนาคล้าย เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำลำน้ำแควน้อย ป่าต้นน้ำลำน้ำตอน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงคนทั้งตำบลนาบัว สภาพป่าไม้ในพื้นที่เป็นป่าที่หลงเหลือจากการทำสัมปทานป่าไม้ เป็นป่าแห้งแล้ง ขาดความอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านในชุมชนเริ่มตระหนักถึงปัญหาทรัพยากรในพื้นที่ เมื่อวันหนึ่งชาวบ้านไม่สามารถหาไม้มาทำตอกมัดข้าวได้ ต้องมีการไปตัดไม้จากที่อื่น มีการตั้งคำถามว่า “บ้านเรามีป่า มีต้นน้ำ แล้วทำไมต้องไปตัดไม้จากพื้นที่ตำบลอื่น”นอกจากนั้นปัญหาไฟป่าและหมอกควันยังเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ชุมชนต้องเผชิญ โดยปัญหาการเกิดไฟป่าของชุมชนในตำบลนาบัวส่วนใหญ่ เกิดจากคนต่างถิ่นมีการลักลอบเข้ามาล่าสัตว์ในพื้นที่ มีการล่าสัตว์ที่ต้องอาศัยไฟ เช่น การจุดไฟตีผึ้ง การล่าตัวนิ่ม ด้วยปัญหาดังกล่าวจึงนำมาสู่การจัดการปัญหา ด้วยแนวคิด “ป่าไม้สามารถฟื้นฟูได้หากทุกคนช่วยกัน” โดยชุมชนต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ สร้างสำนึกให้คนในชุมชน 

    ที่ผ่านมาชุมชนมีการจัดการบริหารทรัพยากรทั้งประเด็นป่าเสื่อมโทรมและปัญหาไฟป่าและหมอกควัน บนพื้นฐานการบริหารจัดการโดยชุมชนมีส่วนร่วม การสร้างจิตสำนึกให้คนในชุมชนและสืบทอดสู่รุ่นต่อรุ่น อาศัยจุดแข็งของชุมชนที่มีความแตกต่างหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์ในชุมชน มีวัฒนธรรมชุมชนที่สืบทอดต่อกันมา มาเป็นเครื่องมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการปักธงวันสงกรานต์บนภูเขาซึ่งเป็นที่ตั้งป่าชุมชน การเลี้ยงปาง การบวชป่า โดยมีความร่วมมือกับองค์กร ภาคส่วนต่างๆ ทั้งหน่วยงานรัฐ องค์กรภาคประชาสังคม องค์กรศาสนา หรือที่สำคัญคือ กิจกรรมตำบลนาบัวที่เรียกว่า “งานเวทีวิชาการชาวบ้านตำบลนาบัว” ซึ่งเป็นเวทีความร่วมมือระหว่างคนในชุมชนตำบลนาบัวแต่ละหมู่บ้านร่วมกับภาคประชาสังคม หน่วยงานของรัฐในการจัดกิจกรรมร่วมกันในประเด็นด้านทรัพยากร มีการนำเสนอผลงานการดำเนินงานของแต่ละกลุ่ม โดยกิจกรรมดังกล่าวจะมีการจัดขึ้นปีละ 1 ครั้ง ในวันที่ 8 มกราคม ของทุกปี หมุนเวียนให้แต่ละหมู่บ้านเป็นเจ้าภาพ ปัจจุบัน (ปี 2564)เป็นครั้งที่ 22 แล้ว

    นอกจากนั้นที่ผ่านมายังมีการดำเนินงานที่เกี่ยวเนื่องกับประเด็นการอนุรักษ์ทรัพยากรและเพื่อลดปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ไม่ว่าจะเป็น การจัดตั้งคณะกรรมาการดูแลป่า และออกกฎระเบียบ เช่น การประกาศหวงห้ามการนำหน่อไม้ออกมาขายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อในหมู่บ้าน โดยกำหมดให้หยุดนำการนำหน่อไม้ออกขายตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคมถึงสิ้นปีของทุกปี หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกคณะกรรมาจับกุมส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การห้ามตัดไม้เผาถ่าน โดยจัดประชุมชี้แจงให้กับชุมชน ในการคัดเลือกไม้ที่จะนำมาเผาถ่าน เช่น ไม้ที่ตายแล้ว ไม้ที่โค่นล้มตามธรรมชาติ หรือแนะนำชุมชนให้หันมาใช้เตาแก๊ส หรือเตาเศรษฐกิจจากซังข้าวโพด มีการให้ความรู้ชุมชนเกี่ยวกับการห้ามจุดไฟเผาป่าในฤดูแล้ง การให้ความรู้เรื่องการเผาป่าความรู้เรื่องผลกระทบจากการเผาป่า ทั้งต่อวิถีชีวิตมนุษย์และสัตว์ป่า ผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ การดับไฟป่า โดยเมื่อมีไฟป่าเกิดขึ้นในเขตอนุรักษ์ ผู้ที่อยู่ในชุมชนจะออกไปช่วยกันดับ โดยมีผู้นำและแกนนำร่วมวางแผนในการเข้าไปดับไฟเพื่อให้ได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ มีการปลูกป่าเสริมในพื้นที่โล่งเตียน และขอความร่วมมือจากหมู่บ้านข้างเคียงในตำบล รวมทั้งองค์การบริหารส่วนตำบล โรงเรียน เครือข่ายสิ่งแวดล้อมภาคประชาชน และกลุ่มคนรักป่าต้นน้ำลำน้ำตอน เพื่อเข้าร่วมการปลูกป่า การอนุรักษ์วังปลาหรือวังมัจฉาในเขตลำน้ำอนุรักษ์แควน้อยที่ไหลผ่านหมู่บ้านและการปลูกป่าเสริมในพื้นที่ที่ไฟป่าเผาตาย ปลูกเสริมแหล่งต้นน้ำในป่าชุมชน

    จากการเข้าร่วมเป็นเครือข่ายอนุรักษ์ป่าต้นน้ำลำนำตอนและป่าชุมชน ส่งผลให้เกิดกฎกติกาของชุมชนที่ร่วมกันร่างขึ้นโดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เกิดการรู้มูลค่าและคุณค่าของป่า เกิดการกระบวนการเรียนรู้เรื่องป่าร่วมกันของคนในชุมชน ผ่านการทำงานวิจัย และเกิดกระบวนการทำงานร่วมกันอย่างมีส่วนร่วมของคนในชุมชนและหน่วยงานต่างๆ เพราะคนตำบลนาบัวตระหนักร่วมกันแล้วว่า ต้องรักและหวงแหนป่าเพราะเคยเจอสภาพ “ป่าหมด คนลำบาก”เป็นบทเรียนที่สร้างผลกระทบอย่างมากมาแล้วจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก 

“เราเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย ทสม.ตำบลนาบัว ซึ่งได้ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอทั้งระดับตำบล และระดับจังหวัดสำหรับกิจกรรในการจัดการไฟป่า ทุกปีเราจะมีการประชุมปรึกษาหารือเพื่อกำหนดแนวทางการจัดการป่าของเรา และเราจะร่วมกันเป็นจิตอาสาทำแนวกันไฟบริเวณป่าต้นน้ำของชุมชนช่วงเดือนต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี  เราทำต่อเนื่องกันมาหลายรุ่น  ทำให้ป่าชุมชนบ้านนาคล้ายมีความอุดมสมบูรณ์  และได้ขึ้นทะเบียนเป็นป่าชุมชนของกรมป่าไม้ จำนวน 575 ไร่   ซึ่งในปีที่แล้วเราได้รับรางวัลชมเชยเรื่องการจัดการป่าชุมชนของจังหวัดด้วย สิ่งที่เราภูมิใจมากที่สุด คือ การมีส่วนรวมของพี่น้องในหมู่บ้านที่มีความหวงแหนทรัพยากรป่าไม้ ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันดูแลรักษาป่า จัดการไฟป่า ทำให้ป่ายังคงอุดมสมบูรณ์ ชุมชนได้พึ่งพาอาศัย ได้ใช้ประโยชน์ ได้กินอาหารจากป่ามาโดยตลอด” ประธาน ทสม. หมู่บ้านนาคล้ายกล่าวย้ำ.    

 

 

 

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 429

แสดงความคิดเห็น โดย ตนข่าว IP: Hide ip , วันที่ 14 พ.ค. 64 เวลา 01:19:32
 

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี