• เกร็ดความรู้** การกลายพันธุ์ของโรคโควิด-19 เพื่อแพร่กระจายได้ง่ายกว่าเดิม |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 01 ก.ค. 64 เวลา 11:14:25 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ไวรัสเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมและกลายพันธุ์ได้ตลอดเวลา โดยธรรมชาติสายพันธุ์ที่แพร่กระจายได้ง่าย จะเข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดิม
การกลายพันธุ์ของโควิด-19
1. เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์อู่ฮั่น เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2562
2. สายพันธุ์ G แพร่ได้ง่ายกว่า ทำให้เกิดการระบาดแทนที่สายพันธุ์อู่ฮั่น
3.สายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) ระบาดง่ายกว่าสายพันธ์ G เดิม จึงเกิดการระบาดกว้างขวางทั่วโลก
4. สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) แพร่กระจายได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อัลฟา กำลังจะมีแนวโน้มที่จะระบาดไปทั่วโลก
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย
สายพันธุ์ที่แพร่ระบาดในประเทศไทยรอบแรกเป็นเชื้อโรคโควิด-19 สายพันธุ์อู่ฮั่น การระบาด ระลอก 2 เป็นสายพันธุ์จีเอซ (GH) และการระบาดระลอก 3 เป็นสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) ขณะนี้มีแนวโน้มพบการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) เพิ่มมากขึ้น และมีโอกาส แพร่กระจายได้มากขึ้นจนแทนที่สายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) ในอนาคต เพราะการติดต่อของ สายพันธ์เดลตา (อินเดีย) นั้นง่ายและรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มที่เป็นคลัสเตอร์ ซึ่งพร้อมที่จะแพร่กระจายเชื้อได้ตลอดเวลา สายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) ที่มีการพูดถึงในขณะนี้ถึงแม้จะมีความสามารถทำให้ ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง แต่ความสามารถในการแพร่กระจายช้ากว่าสายพันธุ์เดลตา
คำแนะนำจากแพทย์
สิ่งที่สำคัญคือสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้น จะทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนเริ่มลดลง การติดตามการกลายพันธุ์ ของไวรัสจึงสำคัญ โดยทั่วโลกเริ่มมีการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสและพัฒนาวัคซีนอย่างต่อเนื่อง การให้วัคซีน ในคนหมู่มากอย่างรวดเร็ว เป็นวิธีหนึ่งในการสกัดสายพันธุ์กลายพันธุ์ไม่ให้มีการแพร่ระบาด ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะลดลงบ้าง แต่ก็ยังมีส่วนช่วยสกัดไม่ให้สายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดได้
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 556 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 01 ก.ค. 64
เวลา 11:14:25
|