กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ส่องความคืบหน้า "วัคซีนสายพันธุ์ไทย"
ได้ยินกันมาอย่างต่อเนื่องสำหรับวัคซีนโควิด-19 ฝีมือคนไทย ซึ่งตอนนี้หลายคนคงอยากทราบแล้วว่าความคืบหน้าไปถึงไหนกันแล้ว วันนี้เลยจะดูถึงความคืบหน้างานวิจัย 3 โครงการว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง
- Chula-Cov19 วัคซีนชนิด mRNA จากความร่วมมือของศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับ ศ.ดรูว์ เวสแมน จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐฯ
ภายในเดือนสิงหาคมนี้ จะทดลองในคนระยะที่ 2 ตั้งเป้าทดลองกับอาสาสมัครจำนวน 150-300 คน และทดลองกับคนกลุ่มใหญ่ต่อไป ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน วัคซีน Chula-Cov19 จะเริ่มฉีดให้คนไทยได้ในช่วงเดือน มี.ค. - เม.ย.ของปี 2565
ย้อนกลับไประยะเวลาการทดลองในสัตว์ทดลอง (หนูและลิง) 15 เดือน พบว่า การทดลองในหนูมีประสิทธิภาพกระตุ้นภูมิคุ้มกันสูงมาก เมื่อทดสอบในลิง ซึ่งมีความใกล้เคียงมนุษย์ ผลทดลองก็ยังอยู่ในระดับน่าพอใจ
มิถุนายนที่ผ่านมา ทีมนักวิจัยได้ทดลองฉีดวัคซีนให้กลุ่มควบคุมจำนวน 72 ราย เพื่อหาปริมาณโดสวัคซีนที่เหมาะสมที่สุด โดยแบ่งอาสาสมัครออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่และ 3 กลุ่มย่อย
- กลุ่มแรก อาสาสมัครผู้ที่มีอายุ 18-55 ปี จำนวน 36 คน
- กลุ่มที่สอง อาสาสมัครผู้ที่มีอายุ 65-75 ปี จำนวน 36 คน
- ในทั้งสองกลุ่มข้างต้นจะแบ่งเป็นกลุ่มย่อยที่ฉีดวัคซีน 10 ไมโครกรัม, 25 ไมโครกรัม และ 50 ไมโครกรัม
ผลทดลอง 10 ไมโครกรัม ไม่มีผลข้างเคียง
- วัคซีนใบยา โดยทีมวิจัยจาก บริษัทใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด นำโดย ภญ.ดร.สุธีรา เตชคุณวุฒิ และ รศ.ดร.วรัญญู พูลเจริญ จากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬา
เป็นชนิดโปรตีนซับยูนิต เช่นเดียวกับวัคซีนไวรับตับอักเสบบี ไข้หวัดใหญ่ อีโบลา รวมถึงวัคซีน Novavax )
เตรียมทดลองในคนครั้งแรก รับอาสาสมัครที่มีอายุระหว่าง 18-59 ปี สุขภาพแข็งแรง และไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด จำนวน 50 ราย ในเดือนสิงหาคมนี้ และเริ่มทดลองเดือนกันยายน อาสาสมัครจะได้รับวัคซีนจำนวน 2 เข็ม ระยะห่างกัน 3 สัปดาห์
จากนั้นจะทดสอบวัคซีนกับอาสาสมัครกลุ่มอายุ 60–75 ปีต่อไป และเชื่อว่าจะเริ่มใช้ในไทยได้ราวกลางปี 2565 ในราคาโดสละไม่เกิน 500 บาท
ทีมผู้วิจัยกำลังทดลองวัคซีนใบยารุ่น 2 สำหรับรับมือกับโควิดกลายพันธุ์ โดยจะเริ่มมีการทดลองในคนตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป
ในระยะทดลองกับสัตว์ทดลอง (หนูขาวและลิง) ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่าสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ในระดับน่าพอใจ ในลิงไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ
- HXP-GPOVac เป็นวัคซีนที่ใช้เชื้อตายผลิต จากความร่วมมือระหว่างคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล และองค์การเภสัชกรรมของไทย
ผู้วิจัยเริ่มทดลองเฟส 1 ในอาสาสมัครจำนวน 210 ราย ที่มีอายุระหว่าง 18-59 ปี ตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แบ่งอาสาสมัครออกเป็น 6 กลุ่มที่ได้รับวัคซีนในปริมาณที่แตกต่างกัน
เดือนสิงหาคมนี้ ทีมผู้วิจัยเตรียมทดลองเฟส 2 โดยจะเลือกวัคซีนสองสูตรจากการทดลองในเฟส 1 แล้วลองฉีดในอาสาสมัครจำนวน 250 คน เพื่อทดลองในเฟส 3 ในอาสาสมัครจำนวน 4,000-10,000 ราย
คาดการณ์ว่าวัคซีน HXP-GPOVac จะสามารถฉีดให้กับคนไทยได้ภายในเดือนเมษายน ปี 2565 โดยจะมีกำลังผลิตที่ 25-30 ล้านโดส/ ปี
ที่มา : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|