กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เสาโกลทับร่างเด็กหญิง ป.4
...................เสาโกล..............
สลดเด็กหญิงชาวเชียงรายวัย 10 ขวบ ถูกเสาประตูฟุตบอลล้มทับพิการครึ่งท่อน โรงเรียนไม่เหลียวแล ผู้ปกครองฐานะยากจน ต้องแบกภาระค่ารักษาพยาบาลค่าเล่าเรียนสุดแสนลำบาก วอนผู้มีจิตศรัทธาช่วยเหลือด้วย อีกรายภรรยาผู้ช่วยผญบ.ฯ ขอชมรมกำนันให้ช่วยเหลือครอบครัวหลังจากสามีป่วยเป็นโรคเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองไม่พอ ซ้ำตัวเองยังป่วยเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ หมดปัญญาหาเงินส่งลูกสาวเรียนต่อพยาบาล
เมื่อวันที่ 3 ม.ค.51 นายสราวุฒิ อินต๊ะนน อายุ 33 ปี อาชีพรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 108 ม.7 ต.ทุ่งก่อ อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าวประจำจังหวัด จ.เชียงราย กรณี ด.ญ.ปฐมวดี เลาลี หรือน้องแฟร์ บุตรสาวอายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านน้ำตกพัฒนา ต.ทุ่งก่อ ประสบอุบัติเหตุถูกเสาประตูฟุตบอลของโรงเรียนล้มทับ จนทำให้ร่างกายพิการครึ่งท่อนล่าง ไม่สามารถไปเรียนหนังสือได้ โดยผู้ปกครองต้องแบกภาระค่าผ่าตัดจำนวนมาก โดยที่ทางโรงเรียนต้นสังกัดไม่เหลียวแลและช่วยเหลือแต่อย่างใด มีเพียงนายบุญหลวย สุขเกษม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทุ่งก่อ ที่ทราบเรื่องเข้าช่วยเหลือเบื้องต้น มอบเงินเป็นค่าอาหารจำนวน 5,000 บาท
นายสราวุฒิ กล่าวว่า ตนมีอาชีพรับจ้างฐานะยากจน หาเช้ากินค่ำหาเงินส่งบุตรเรียนหนังสือ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 09.45 น.วันที่ 5 พ.ย.50 ที่สนามฟุตบอลโรงเรียน โดยมีเด็กนักเรียนผู้ชาย นำเชือกที่ทางคณะละครช้าง ซึ่งขออนุญาตโรงเรียนเข้าแสดงเสร็จแล้ว ไม่มีการจัดเก็บเชือกทั้งหมด ทำให้เด็กนักเรียนชาย ป.5-ป.6 หลายคนที่คึกคะนอง นำไปคล้องเสาประตู แล้วดึงเล่นจนทำให้เสาล้มลงมาทับร่างบุตรสาว ที่ยืนอยู่ด้านหน้าอย่างแรงเป็นเหตุทำให้บาดเจ็บปางตาย เมื่อนำส่งโรงพยาบาลแล้วจึงพบว่ามีการกดทับเส้นประสาทรุนแรง ทำให้พิการครึ่งท่อนล่างเดินไม่ได้จนถึงทุกวันนี้
ทุกวันนี้ต้องแบกรับค่ารักษาประมาณ 180,000 บาท เป็นเงินที่สูงมาก ไม่มีปัญญาหามาจ่ายให้โรงพยาบาลได้ และที่สำคัญหลังจากเกิดเรื่องมาถึง 2 เดือน ทางโรงเรียนไม่เคยมาเหลียวแลหรือดูแล แม้แต่การถามไถ่อาการก็ไม่มีทั้งสิ้น บอกแต่เพียงว่าจะให้เด็กเรียนจบแค่ชั้น ป.4 เท่านั้น เงินรายได้รายวันที่ตนได้รับมีไม่เพียงพอ ที่จะจ่ายให้แพทย์ หรือแม้แต่ซื้อยาให้ลูกกินประทังความเจ็บปวดก็ไม่พอ จึงอยากวิงวอนให้สื่อมวลชน ช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมให้ด้วย เพราะเหตุที่เกิดขึ้นเกิดในสถานศึกษาที่มีการปล่อยปละละเลยจากทางโรงเรียน ไม่ใช่ความผิดของเด็ก
ด้านนายบุญหลวย สุขเกษม นายก อบต.ทุ่งก่อ กล่าวด้วยว่า น่าสงสารเด็กหญิงรายนี้ ที่ต้องพิการตั้งแต่วัยเยาว์ เบื้องต้น อบต.ได้ช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมให้มีค่าอาหารเลี้ยงดูไปก่อน และจะมีการทำเรื่องประสานไปที่สำนักงานเขตการศึกษาต้นสังกัดโรงเรียนดังกล่าว เข้าทำการดูแลช่วยเหลือ และจะทำเรื่องรายงานให้ทางจังหวัดรับทราบ เพื่อขอการช่วยเหลือเป็นคนไข้ในมูลนิธิฯ เนื่องจากครอบครัวเด็กยากจน การหาเงินจำนวนมากมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลคงทำไม่ได้แน่นอน.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 3 ม.ค.50 ที่หอประชุมศูนย์ราชการอำเภอสันกำแพง อ.สันกำแพง เชียงใหม่ กำลังมีการประชุมประเดือนกำนันผู้ใหญ่ ผู้ช่วย แพทย์ประจำตำบลอยู่นั้น ได้มีนางพิศมัย ขัติมงคล อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 7 ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง มีทั้งน้ำตาเข้ามาที่ประชุมประจำเดือน ได้เข้ามาที่ประชุม และได้ให้การว่าตัวเองเป็นภรรยาของนายพิพัฒน์ ขัติมงคล อายุ 50 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง ซึ่งนายพิพัฒน์ ขณะนี้ป่วยเป็นโรคเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองไม่พอ รายได้จากการเป็นผู้ช่วยฯ ได้เดือนละ 2,500 บาท ส่วนตัวเองก็เป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ ทำงานหนักไม่ได้เต็มที่ บุตรสาวคนโตเรียนเก่งได้รับโควต้าเรียนพยาบาลสาธารณสุข ได้ปี 2 แล้ว ที่วิทยาลัยพยาบาล พระบรมราชชนนี เชียงใหม่ ชื่อ น.ส.จุฑาทิพย์ ขัติมงคล อายุ 19 ปี
ต้องมีค่าใช้จ่ายชื้ออุปกรณ์การแพทย์พยาบาลเดือนละ 4,000 บาท ค่าใช้จ่ายเดินทางไปฝึกงาน(ขึ้นวอร์ด)เดือนละ 2,500 บาท ติดค้าค้างชำระค่าหุ้นจำลองของเดือน ธ.ค.50เรียนอีก 5,800 บาท ขณะนี้ไม่มีเงินเลย ต้องมีภาระเลี้ยงดูบุตรสาวคนเล็กอายุเพียง 5 ปีอีก 1 คน ส่วนตัวเองรับจ้างทั่วไปตามบ้านไปวันๆเท่านั้นทำงานหนักก็ไม้ได้ เพื่อให้การเรียนของ น.ส.จุฑาทิพย์ บุตรสาวประสบความสำเร็จเพื่อออกมาประกอบอาชีพเป็นประโยชน์แก่สังคมส่วนรวมในอนาคต จึงขอความกรุณาจากผู้ใจบุญทั้งหลายช่วยเหลือด้วย
ขณะที่ที่ประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยเหลือแก่นางพิศมัย ซึ่งนายอำนวย อินก้อนวงศ์ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านช่วยเหลือมอบเงินชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านให้ 5,000 บาท กำนันผู้ใหญ่ ผู้ช่วย แพทย์ประจำตำบลต่างเห็นใจช่วยเหลือคนละเล็กละน้อยได้เงินอีก 18,500บาท โดยนางพิศมัย ถึงกับบดีใจจนน้ำตาไหลพรากนึกว่าบุตรสาวไม่ได้เรียนพยาบาลเสียแล้ว จึงขอขอบคุณผู้มีน้ำใจช่วยเหลือในครั้งนี้ ส่วนผู้ใจบุญท่านใดสงสารจะช่วยเหลือติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์ 053-332-255
ข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
