• กรมวิทย์ฯ ยืนยันยังไม่พบฟลูโรนาในประเทศไทย ย้ำเชื้อไข้หวัดใหญ่กับเชื้อโควิด ผสมพันธุ์เกิดเป็นไฮบริดไม่ได้ |
โพสต์โดย คนข่าว , วันที่ 08 ม.ค. 65 เวลา 09:48:13 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยันยังไม่พบฟลูโรนาในประเทศไทย ย้ำเชื้อไข้หวัดใหญ่กับเชื้อโควิด ผสมพันธุ์เกิดเป็นไฮบริดไม่ได้ ส่วนอาการของฟลูโรนายังไม่มีอะไรแตกต่างจากโควิด ชวนผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรังฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันโควิด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อทั้ง 2 โรค
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงกรณีพบมีการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ (Influenza) และเขื้อไวรัสโคโรนา (Corona) ในคนเดียวกันที่ต่างประเทศ หรือที่เรียกว่า ฟลูโรนา (Flurona) ว่า ขณะนี้ยังไม่มีนัยสำคัญอะไรที่ทำให้ต้องวิตกกังวล และจากการเฝ้าระวังในประเทศไทยยังไม่พบผู้ติดเชื้อดังกล่าว ทั้งนี้ฟลูโรนาเป็นชื่อที่มาจากฟลู คือ ไข้หวัดใหญ่ และโคโรนา คือ โควิด 19 เชื้อทั้งสอง เป็นไวรัสทั้งคู่ แต่เป็นไวรัสคนละตระกูลกัน และทั้งสองตระกูลทำให้เกิดอาการคล้ายๆ กัน คือ มีอาการทางเดินหายใจ เช่น เป็นหวัด คัดจมูก อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว ทั้งนี้ในกรณีคนที่มีอาการรุนแรงจะทำให้เกิดปอดอักเสบ และอาจเสียชีวิตจากระบบทางเดินหายใจล้มเหลว หรืออวัยวะต่างๆ ล้มเหลว อาการของฟลูโรนาเท่าที่มีการรายงานในปัจจุบัน ยังไม่มีอะไรแตกต่างจากโควิดทั่วไป โอกาสติดเชื้อทั้ง 2 ตัวพร้อมกันค่อนข้างน้อย จำนวนผู้ป่วยที่พบยังมีจำนวนน้อย ขณะนี้มีข้อมูลรายงานการตรวจพบในอิสราเอล บราซิล ฮังการี ฟิลิปปินส์
ทั้งนี้การที่คนหนึ่งคนติดเชื้อสองอย่าง โดยบังเอิญในเวลาเดียวกัน มีความเป็นไปได้ (Mixed Infection) แต่จะผสมพันธุ์กันจนเกิดเป็นไฮบริดไม่ได้ จึงไม่ต้องวิตกกังวล แต่สิ่งที่ควรรู้ คือ ทั้งเชื้อไข้หวัดใหญ่ และเชื้อโควิด 19 แพร่กระจายจากทางเดินหายใจในลักษณะที่เป็นฝอยละอองเหมือนกัน เพราะฉะนั้นการใส่หน้ากาก ล้างมือ รักษาระยะห่าง สามารถป้องกันทั้งสองโรคในเวลาเดียวกัน และถ้าจะสร้างภูมิคุ้มกัน ให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้นควรฉีดวัคซีน สำหรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่แนะนำให้ฉีดในกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ซึ่งขณะนี้ สปสช.ได้เตรียมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประมาณ 6 ล้านโดส ให้กลุ่มเหล่านี้ ในขณะที่วัคซีนโควิด 19 จะฉีดให้ครอบคลุมคนในประเทศทั้งหมด
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ควรเว้นระยะจากวัคซีนโควิด 19 ห่างกัน 1-2 สัปดาห์ เพราะหากฉีดพร้อมกันสองอย่างอาจจะทำให้มีไข้ ปวดเมื่อยมากเกินไปและเมื่อเกิดอาการข้างเคียงก็จะไม่รู้ว่ามาจากวัคซีนตัวใด เพราะฉะนั้นถ้าฉีดวัคซีนโควิด 19 ผ่านไป 1-2 สัปดาห์ หากไม่มีอาการอะไรก็ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ต่อได้
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 273 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย คนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 08 ม.ค. 65
เวลา 09:48:13
|