กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประจำปีการศึกษา 2562 ถึง 2563
วันนี้ (14 ม.ค. 65) เวลา 8 นาฬิกา 44 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประจำปีการศึกษา 2562 ถึง 2563 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
ในการนี้ พระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 ราย / พระราชทานเกียรติบัตรศาสตราจารย์เกียรติคุณ แก่ศาสตราจารย์เกียรติคุณ จำนวน 7 ราย จากนั้น พระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอก,ปริญญาโท, และปริญญาตรี รวมจำนวน 2,368 ราย
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในส่วนภูมิภาค จัดตั้งขึ้นตามนโยบายของรัฐ และเจตนารมณ์ของประชาชนในภาคเหนือ ให้เป็นศูนย์กลางทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง เพื่ออำนวยประโยชน์แก่ท้องถิ่นและประเทศชาติโดยส่วนรวม ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มุ่งสร้างสรรค์สังคมที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี สังคมแห่งสุขภาพ และผู้สูงอายุสุขภาพดี สังคมที่รักษาวัฒนธรรมล้านนาและพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน พร้อมวางแนวทาง CMU Transformation สู่ "ก้าวใหม่ มช." สนับสนุนการศึกษารูปแบบใหม่ ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ผลักดันด้านการนำเทคโนโลยี มาพัฒนาการดำเนินงานต่าง ๆ เพื่อเป็นมหาวิทยาลัยแห่งนวัตกรรมต้นแบบเพื่อชุมชนและร่วมพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ผลิตบัณฑิตที่มีคุณธรรม คุณภาพและมีทักษะการเป็นพลเมืองโลกวิจัย เพื่อความเป็นเลิศและนวัตกรรม บริการวิชาการที่เกิดประโยชน์แก่สังคม
โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาท ความสำคัญตอนหนึ่งว่า "ปัจจุบัน วิทยาการต่าง ๆ มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีอันก้าวหน้าทันสมัย ได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน และในกิจการงานทุกด้าน บัณฑิตผู้มุ่งหวังความเจริญก้าวหน้า จึงต้องขวนขวายแสวงหาความรู้เพิ่มเติม โดยหมั่นศึกษาค้นคว้า ด้วยความช่างคิด ช่างสังเกต แล้วใช้ปัญญาพิจารณาให้รู้แจ้งชัดว่า สิ่งใดเป็นประโยชน์เป็นความเจริญ สิ่งใดเป็นโทษเป็นความเสื่อม จะได้เลือกนำข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์สร้างสรรค์ มาปรับใช้ในกิจการงานต่าง ๆ ให้บังเกิดผลเป็นประโยชน์แก่ตน แก่งาน และแก่ประเทศชาติ ถ้าทำได้ดังนี้ แต่ละคนก็จะเป็นบัณฑิตที่สมบูรณ์ คือเป็นผู้ที่รู้จริง และปฏิบัติได้จริง"
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|