กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
วานนี้ (27 มกราคม 2565) เวลา 15.00 น. ที่ ห้องประชุมอเนกประสงค์ ชั้น 3 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จ.นนทบุรีนายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวในภาพรวมของความคืบหน้าการดำเนินมาตรการต่างๆ ว่า ทั้ง 3 มาตรการ ได้รับความสนใจจากผู้จำหน่ายสลากเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้ตัวแทนจำหน่ายสลากฯ สมัครเข้าร่วมโครงการ "สลาก 80" ระยะที่ 2 ซึ่งกำหนดไว้ 1,000 จุด รวมทั้งการเปิดให้ผู้ขายสลาก ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อจองล่วงหน้าฯ ทั้งรายเดิมและรายใหม่ ที่มีผู้ลงทะเบียนจนถึงขณะนี้ กว่า 870,000 ราย ตลอดจนแนวทางการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งวันนี้ คณะกรรมการสลากได้ให้ความเห็นชอบในหลักการและวิธีดำเนินการของมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้สำนักงานฯ สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว และสามารถแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาและปัญหาสลากรวมชุดได้
อย่างไรก็ตาม ปัญหาสลากเกินราคา และการจำหน่ายสลากรวมชุดนั้น เกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นที่ตัวผลิตภัณฑ์สลากเอง ที่เป็นสินค้าเปลี่ยนมือได้ รวมถึงปัญหาที่เกิดจากการนำสลากไปรวมชุดเพื่อขายต่อ จะต้องใช้หลายมาตรการเพื่อให้เกิดความครอบคลุมและต่อเนื่อง นอกเหนือจากการจัดคละสลากแบบ 2-1-1-1 ซึ่งสำนักงานฯดำเนินการอยู่ในปัจจุบันทำให้การนำสลากไปรวมชุด ทำได้ยากขึ้น ประกอบกับมาตรการตรวจสอบการจำหน่ายสลากของตัวแทนจำหน่ายและผู้ซื้อจองล่วงหน้าอย่างเข้มข้น และเพิ่มการตรวจสอบกระบวนการเบิกสลาก ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานฯ กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า มีตัวแทนจำหน่ายสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ“สลาก 80” จำนวน 4,790 ราย ในจำนวนดังกล่าว มีจังหวัดที่ผู้สมัครครบทุกอำเภอ 15 จังหวัดจาก 77 จังหวัด(691 อำเภอ/เขต จากทั่วประเทศ 928 อำเภอ/เขต ยังขาดอีก 237 เขต)ซึ่งโครงการนี้ เป็นโครงการที่เปิดให้ตัวแทนจำหน่าย ซึ่งรับสลากไปจำหน่ายอยู่เดิมรายละ 5 เล่ม รับสลากไปจำหน่ายเพิ่มอีกรายละ 20 เล่ม รวมเป็น 25 เล่ม ในจุดที่กำหนด 1,000 จุด ทั่วประเทศ ปัจจุบันสำนักงานฯ มีจุดจำหน่ายสลากตามโครงการ “สลาก 80” ทั้งหมด78 จุดกระจายอยู่ในพื้นที่นำร่อง คือ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดนนทบุรี ในส่วนของการเปิดให้ลงทะเบียนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 ขณะนี้ มีผู้ลงทะเบียนมาแล้ว จำนวน 878,454 ราย ซึ่งในวันนี้ คณะกรรมการสลากฯ ได้ให้ความเห็นชอบขั้นตอนและวิธีการคัดเลือกผู้ลงทะเบียนรายใหม่ และวิธีการตรวจสอบผู้ลงทะเบียนรายเดิมที่มีการยืนยันตัวตนเข้ามาว่าเป็นผู้ขายสลากในราคา 80 บาท ซึ่งสำนักงานฯ จะเริ่มดำเนินการทันที ภายหลังจากปิดลงทะเบียน
สำหรับการจัดทำระบบจำหน่ายสลากผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือแพลตฟอร์มออนไลน์นั้นเนื่องจากเป็นการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้ชื่อ “แพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล(Digital Lottery)” ด้วยวิธีการสแกนสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวจริงแล้วนำไปโพสต์ขายบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ลอตเตอรี่ซึ่งจะเป็นมาร์เก็ตเพลสของสำนักงานสลากฯเอง เพื่อเป็นช่องทางการจำหน่ายสลากให้ผู้ได้รับโควต้าสลาก แต่ผู้ค้าจะต้องขายในราคาไม่เกิน 80 บาท และเมื่อทำการซื้อขายสลากฯ ผู้ซื้อจะมีเอกสารหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมภาพสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นหลักฐาน โดย สำนักงานสลากฯ จะจัดเก็บข้อมูลไว้ ซึ่งล็อตเตอรี่ใบที่ได้จำหน่ายไปแล้วจะไม่สามารถนำไปขายต่อได้อีก หรือเปลี่ยนสิทธิไม่ได้ เพราะสลากขายได้ครั้งเดียว ทั้งนี้ ผู้ขายบนแพลตฟอร์มยังมีสลากเหลือในช่วงใกล้วันออกรางวัลนั้น ผู้ขายสามารถปรับลดราคาขายสลากต่ำกว่า 80 บาทได้ เพื่อระบายสลากที่เหลือบนแพลตฟอร์มดิจิทัลโดยผู้ที่ได้รับโควต้าสลาก จะต้องลงทะเบียนการขายผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลของสำนักงานสลากฯ และเปิดบัญชีกับธนาคารกรุงไทย มีแอพพลิเคชั่นถุงเงิน ส่วนผู้ซื้อจะต้องซื้อผ่านแอพพ์เป๋าตังเท่านั้น เนื่องจากธนาคารกรุงไทย จะเป็นผู้ทำระบบทั้งหมดให้กับสำนักงานสลากฯ
“หลังจากบอร์ดสลากฯ เห็นชอบ การจำหน่ายช่องทางแพลตฟอร์มดิจิทัลแล้ว สำนักงานสลากฯ จะนำเรื่องเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อให้ความเห็นชอบในการดำเนินการ เนื่องจากเป็นหนึ่งในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่เป็นเพียงช่องทางการจำหน่ายสลากราคา 80 บาทเท่านั้น” นายลวรณ กล่าว
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|