• WHO เตือนโอมิครอนลูกผสมน้องใหม่ XE แพร่เร็ว-ติดง่าย กว่าทุกสายพันธุ์ที่เคยพบ ไทยพบแล้ว "1 ราย" |
โพสต์โดย คนข่าว , วันที่ 02 เม.ย. 65 เวลา 12:34:51 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
วันที่ 2 เมษายน 2565 เพจ Center for Medical Genomics ของ ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้โพสต์ข้อความระบุ
องค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับโอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม “XE” ที่แพร่เชื้อติดต่อได้ง่ายและรวดเร็วกว่าไวรัสโคโรนา 2019 ทุกสายพันธุ์ที่เราเคยประสบมา (ภาพ 3)
"XE" เป็นสายพันธุ์ลูกผสมระหว่างโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย "BA.1 X BA.2" ไม่ใช่"เดลตาครอน" ซึ่งเป็นสายพันธู์ลูกผสมระหว่าง "เดลตา X โอมิครอน" WHO ยังไม่ตั้งชื่อให้อย่างเป็นทางการจนกว่า "XE" จะแสดงอาการทางคลินิกที่รุนแรงแตกต่างไปจากสายพันธุ์อื่นอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับสายพันธุ์ลูกผสม "เดลตาครอน" หรือ "XD" WHO แจ้งว่าไม่พบการระบาดที่รวดเร็ว (transmissibility) และอาการที่รุนแรง (severity) แต่ประการใด
ล่าสุดศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดีตรวจพบสายพันธุ์ลูกผสม "XE" จากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมจากตัวอย่างสวอปจากผู้ติดเชื้อ ชาวไทย 1 ราย และจากการตรวจกรองด้วยเทคโนโลยี "Massarray Genotyping" พบสายพันธุ์ลูกผสม "เดลตาครอน (เดลตา X โอมิครอน)" อีก 1 ราย ซึ่งต้องยืนยันด้วยการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมอีกครั้งหนึ่ง (ภาพ 2)
โอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม “XE” พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2565 โดยมีการถอดรหัสพันุกรรมทั้งจีโนมและอัปโหลดขึ้นไปแชร์ไว้บนฐานข้อมูลโควิด-19 โลกแล้วมากกว่า 600 ตัวอย่าง
WHO ประเมินว่าสายพันธุ์ลูกผสม “XE” มีอัตราการแพร่ระบาด (growth advantage) เหนือกว่า BA.2 ถึง 10% อย่างไรก็ตามยังต้องรอข้อมูลจากทั่วโลกที่ร่วมด้วยช่วยกันอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมอีกระยะหนึ่งเพื่อการยืนยัน” (ภาพ 1,3)
ตามรายงานของสำนักงานบริการสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UK Health Services Agency) หรือ "UKHSA" ยืนยันเช่นเดียวกันว่าสายพันธุ์ลูกผสม “XE” สามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่า “BA.2” ประมาณ 10% และแพร่ได้รวดเร็วกว่าโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม (B.1.1.529) ถึง 43%
คงต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสายพันธุ์ลูกผสม “XE” จะกลายเป็นคลื่นระลอกใหม่ที่ระบาดไปทั่วโลกและเข้ามาแทนที่ BA.2 ได้หรือไม่
จากการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งจีโนมในเดือนมีนาคม 2565 ของศูนย์จีโนมทางการแพทย์รพ.รามาธิบดี ตรวจพบสายพันธุ์ลูกผสม “XE” ในประเทศไทยแล้ว “1 ราย” อยู่ในระหว่างการดำเนินการอัปโหลดขึ้นแชร์บนฐานข้อมูลโควิดโลก “GISAID” และเร่งแจ้งไปยังแพทย์ผู้ส่งตรวจทราบต่อไป
หมายเหตุ
การจัดหมวดหมู่ลูกผสมโดย Phylogenetic Assignment of Named Global Outbreak Lineages (PANGOLIN)
หมวด 1 สายพันธุ์ลูกผสมระหว่าง “Delta x BA.1” ประกอบด้วยสมาชิก 2 สายพันธุ์
I. XD-เป็นสายพันธุ์ลูกผสม ระหว่าง Delta x BA.1 lineage พบในฝรั่งเศส ประกอบด้วยยีน S ที่สร้างหนามแหลมส่วนอื่นเป็นจีโนมจากเดลตา
II. XF-จีโนมมีส่วนผสมระหว่าง ยีน S และยีนที่สร้างโปรตีนสำคัญของอนุภาคไวรัส มาจาก BA.1 กับส่วน 5’ จากจีโนมของเดลตา
หมวด 2 สายพันธุ์ลูกผสมระหว่าง BA.1XBA.2 ประกอบด้วยสมาชิก 6 สายพันธุ์
I. XE-พบในอังกฤษ จีโนมมีส่วนผสมระหว่าง ยีน S และยีนที่สร้างโปรตีนสำคัญของอนุภาคไวรัส มาจาก BA.2 กับส่วน 5’ จากจีโนมของ BA.1 แสดงอัตราการแพร่ระบาด (growth advantage) เหนือ BA.2 ศูนย์จีโนมทางการแพทย์รพ. รามาธิบดีถอดรหัสพันธุกรรมพบแล้ว 1 ราย
II. XG-พบในเดนมาร์ก
III. XH-พบในเดนมาร์ก
IV. XJ-พบในฟินแลนด์
V. XK-พบในเบลเยียม มีการกลายพันธุ์ต่างไปจากไวรัสดั้งเดิม "อู่ฮั่น" เกือบ 100 ตำแหน่ง มากกว่าทุกสายพันธุ์ ยังไม่พบในประเทศไทย
VI. XL-พบในอังกฤษ
https://cov-lineages.org/resources/pangolin.html
https://www.who.int/publications/m/item/weekly-epidemiological-update-on-covid-19---29-march-2022 จากนั้นคลิก click download
ที่มา: Center for Medical Genomics
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 41 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย คนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 02 เม.ย. 65
เวลา 12:34:51
|