สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.) มีกระแสข่าวสะพัดว่าหลังจากคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับเข้าประเทศไทย และพยายามติดต่อเพื่อเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อเจรจาขอให้เปิดทาง พ.ต.ท . ทักษิณ เดินทางกลับเข้าประเทศไทย และขอเคลียร์เรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา ซึ่งคุณหญิงพจมาน ได้พูดคุยกับพล.อ.เปรม แล้วผ่านทางโทรศัพท์ เนื่องจากไม่อยากให้ตกเป็นข่าวเอิกเกริก
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวหนึ่งจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ระบุว่า คุณหญิงพจมานติดต่อขอประสานกับทางผู้หลักผู้ใหญ่ของประเทศ เพื่อเจรจาตามแนวทางสมานฉันท์ โดยพ.ต.ท.ทักษิณได้เสนอแนวทางรัฐบาลแห่งชาติแก่ คมช. ให้พรรคพลังประชาชน (พปช.) จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้เห็นภาพการเมืองแบบใหม่ที่มีความสมานฉันท์ปรองดองเพื่อร่วมกันแก้วิกฤตการเมือง
โดยให้เวลาคณะรัฐบาลชุดนี้บริหารราชการประมาณ 2 ปี เพื่อให้มาแก้วิกฤตเศรษฐกิจและแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ แล้วจึงประกาศยุบสภาคืนอำนาจประชาชนเพื่อให้มีการเลือกตั้งกันใหม่ อย่างไรก็ตาม พรรคพลังประชาชน จะไม่ไปกดดันหรือแทรกแซงองค์กรอิสระที่กำลังตรวจสอบคดีต่างๆ อยู่เวลานี้ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อให้ประเทศเกิดความสมานฉันท์และสามารถเดินต่อไปได้
ขณะที่แหล่งข่าวจาก คมช. เปิดเผยว่า แนวทางนี้ คมช.เห็นด้วย แต่ขณะนี้ขึ้นอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะยินยอมตามแนวทางนี้หรือไม่ นอกจากนี้ ผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต้องไม่ใช่ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.) เพราะเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความไม่สมานฉันท์ เนื่องจากที่ผ่านมามีการพูดจาพาดพิงผู้ใหญ่ในแผ่นดินมาโดยตลอด
ด้าน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน แถลงข่าวหลังการประชุมของพรรคว่า ที่ประชุมไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการมีนายกรัฐมนตรีสำรอง เพราะพรรคยืนยันมาตลอดว่า นายสมัครจะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี จะไม่มีสมาชิกพรรคคนใดเสนอชื่อคนอื่นเป็นแน่นอน โดยจะไม่มีนายกรัฐมนตรีสำรองในพรรคหรือพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ เพราะเชื่อว่านายสมัครเป็นนักการเมืองที่มีประสบการณ์และความรู้ความสามารถ โดยเป็นผู้ที่นำพรรคสู้ศึกเลือกตั้งจนได้รับความไว้วางใจจากประชาชน
ข้อมูลจาก
ข่าวจาก กระปุกดอทคอม