กกต.มีมติ ให้เสนอเรื่องให้ศาลฎีกาสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในเขต 2 จ.เพชรบูรณ์ ทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นายเอี่ยม ทองใจสด นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ และนายสุรศักดิ์ อนรรฆพันธุ์ ซึ่งทั้งหมดสังกัดพรรคพลังประชาชน
นายสุวิทย์ ธีรพงศ์ ประธานคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน คดีทุจริตจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า คณะกรรมการได้มีความเห็น สรุปความเห็นเสนอต่อ กกต.แล้วในกรณีที่มีการกล่าวหาว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.ระบบสัดส่วนกลุ่มที่1 พรรคพลังประชาชนกระทำผิดกม. เลือกตั้ง โดยดูจากการสอบพยาน ไม่ได้ให้การผิดไปจากที่เคยให้การไว้ กับชุดสืบสวนสอบสวนของสันติบาล ดังนั้นจึงได้เสนอข้อเท็จจริง พร้อมความเห็นประกอบข้อกฎหมายเลือกตั้ง ม. 53 (2) และมาตรา 57 ให้ กกต.แล้ว จึงถือว่าหน้าที่ ของคณะกรรมการยุติแล้ว
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ไปแล้ว หาก กกต. มีความเห็นยืนว่ายงยุทธ์มีความผิดจริง ตามที่กรรมการชุดนายสุวิทย์ มีความเห็นก็ต้อง เสนอต่อศาลฎีกา ให้พิจารณา โดยเมื่อศาลฏีการมีคำสั่งรับคำร้อง ไว้พิจารณาแล้วนายยงยุทธ ติยะไพรัช จะต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ในทันทีจนกว่า ศาลจะมี่คำสั่งยกคำร้อง แต่ทั้งนี้หากศาลมีคำพิพากษา สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายยงยุทธ ติยะไพรัช นายยงยุทธ์ ซึ่งมีตำแหน่งรอง หน.พรรคพลังประชาชน ในขณะที่มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น กกต.ก็จะมาพิจารณา ในเรื่องของการเสนอยุบพรรคพลังประชาชน
ทั้งนี้นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ ประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนสำนวนร้องคัดค้าน การทุจริตนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ภายหลังที่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และพยานจำนวน 6 คน ซึ่งเป็นพยานทั้งฝ่ายผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ จากการที่ได้ลงพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อสืบสวนและสอบสวนข้อมูลเพิ่มเติม พบว่ากำนันและผู้ใหญ่บ้านบางคน จากจำนวน 10 คน ยังคงยืนยันตามการให้ปากคำกับคณะอนุกรรมการสอบสวนของตำรวจสันติบาลไปก่อนหน้านี่ ดังนั้น ตรงจุดนี้ คณะอนุกรรมการฯ จึงไม่จำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มเติมแล้ว ทั้งนี้ ขบวนการสอบสวนสำนวนทั้งหมด คณะอนุกรรมการฯ ได้นำสำนวนเดิมของกกต.มาใช้เป็นฐานข้อมูลในการสืบสวนและสอบสวน
นายสุวิทย์ กล่าวว่า วันที่ 14 ก.พ.นี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้นำเสนอสำนวนดังกล่าวให้กกต.รับทราบ โดยเป็นการสรุปรายละเอียดทั้งหมด ประกอบกับข้อกฎหมาย มาตรา 53 และ 57 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. ทั้งนี้ กระบวนการเสนอสำนวน คงยังอยู่ระหว่างกระบวนการทางธุรการของกกต. โดยคาดว่าวันที่ 18 หรือ 19 ก.พ.นี้ เจ้าหน้าที่กกต.จะส่งสำนวนถึงมือกกต. เพื่อให้นำไปพิจารณาต่อไป
ขณะที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า อนุกรรมการสืบสวนสอบสวนกรณีทุจริต เลือกตั้ง จ.เชียงราย มีมติให้ใบแดงกับตนในเรื่องดังกล่าว ว่ายังไม่ทราบในเรื่องนั้น และไม่ขอตอบคำถามของสื่อมวลชน โดยจะรอฟังข้อมูลที่ชัดเจนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ก่อน และจะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ โดยยังยืนยัน ในความบริสุทธิ์ของตนเอง ทั้งนี้ย้ำว่ามีการจัดฉากในเรื่องดังกล่าว เพื่อกลั่นแกล้งตนและไม่อยากให้สื่อคาดคั้นเอาคำตอบในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม นายยงยุทธ ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไป และไม่อยากจะพูดอะไรเกินเลย เพราะเกรงจะเป็นการกดดันคนที่ทำงาน
ข้อมูลและภาพประกอบจาก