• ลิขิตรักจาก ทักษิณ ถึง นพดล นาทีอินเลิฟ น้องอ้อ |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 17 ก.พ. 51 เวลา 12:40:27 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
|
หลายต่อหลายครั้งที่ "พรหมลิขิต" บันดาลให้ชายหญิงหลายคู่ได้พบกัน รักกัน และใช้ชีวิตร่วมกัน ต่างคน ต่างเส้นทาง
แต่สำหรับ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี กับ "นพดล ปัทมะ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฟ้าได้ขีดชะตาชีวิตรักของคนทั้งคู่ไม่ต่างกัน
"ทักษิณ" มี "คุณหญิงอ้อ พจมาน ชินวัตร" เป็นศรีภริยา ซึ่งใครต่างรู้ดีว่าเธอคือช้างเท้าหลังที่ทรงอิทธิพลต่อความคิดและการตัดสินใจของผู้นำครอบครัวยิ่ง
ขณะที่ "นพดล" กำลังคบหาดูใจกับ "น้องอ้อ ณหทัย ทิวไผ่งาม"
อดีต ส.ส. กทม. พรรคไทยรักไทย ซึ่งตกเป็นข่าวคึกโครมทางหน้าสื่อในช่วงปลายปี 2548 หลังเว็บไซต์ไทยอินไซต์เดอร์ดอดคอม ออกมาปูดข่าวเรื่องความสัมพันธ์ฉันชู้สาวระหว่างนักการเมืองหญิงชื่อย่อ "อ" กับบิ๊กรัฐบาล
"อ้อ" ของ "ทักษิณ" มีบุคลิกสุขุม นุ่มนวล แต่แฝงความเฉียบขาดไว้ภายใน ด้วยลึกๆ แล้วเธอเป็นคนใจนักเลง กล้าเสี่ยง-กล้าตัดสินใจยิ่งกว่าชายอกสามศอก จนเป็นที่น่าเกรงขามแก่ผู้พบเห็น
"อ้อ" ของ "นพดล" เป็นสาวน้อยสดใส ดูอ่อนหวาน และช่างเอาใจ ที่สำคัญจุดเริ่มต้นที่ทำให้ 2 บุรุษพยายามเอาชีวิตเข้าไปพัวพันกับผู้หญิงที่ชื่อ "อ้อ" ยังมาจากพื้นฐานความรู้สึกเดียวกัน นั่นคือ เป็นอาการของคนตกหลุมรักเมื่อแรกเจอ!!!
"ทักษิณ" พบ "อ้อ" ครั้งแรกเมื่อปี 2513
ในฐานะน้องสาวเพื่อนรุ่นน้องอย่าง "พงส์เพ็ชร ดามาพงศ์" ขณะนั้นหล่อนยังเรียนอยู่ ม.ศ.3 โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ ส่วน "ทักษิณ" เรียนอยู่โรงเรียนนายร้อยตำรวจปี 2 "ตอนเห็นหน้าครั้งแรก ผมก็ตกหลุมรักเสียแล้ว เพราะอ้อเขามีบุคลิกพิเศษ ดูน่าประทับใจมากกว่าคนสวยธรรมดา" คือคำกล่าวของ "ทักษิณ" จากตอนหนึ่งของหนังสือ "ตาดูดาว เท้าติดดิน"
ขณะที่ "นพดล" เล่าถึงที่มาในการปิ๊ง "น้องอ้อ" ว่า
เขาพบเธอครั้งแรกเมื่อปี 2544 จากป้ายหาเสียงผู้สมัคร ส.ส. ห้วยขวาง-วัฒนา พรรคไทยรักไทย ที่ขึ้นพึ่บพรั่บอยู่ตามรายทาง ในขณะที่ "นพดล" กำลังเลี้ยวรถเข้าไปยังสำนักงานกฎหมายของตน ที่อาคารภัทร-ประกันภัย เขาถึงกับเสียจังหวะไปครู่หนึ่งเพราะตกตะลึงที่ได้เจอนางในฝันในป้ายบิลบอร์ด ชั่ววูบหนึ่งเขาคิดไปไกลถึงขั้นอยากย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ย่านห้วยขวาง เพื่อจะได้เลือกผู้สมัคร ส.ส. รายนี้ ทั้งที่ตนเองอยู่ใต้สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ "อ้อเป็นผู้หญิงที่ดูอ่อนหวาน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทีแรกดูเขาจากลักษณะภายนอก เพราะจะไปยืนคุยกับเขาที่เสาไฟฟ้าก็กระไรอยู่ แต่หลังจากได้คุยกัน เขาก็มีเนื้อหาสาระเยอะ เป็นคนดี บุคลิกภาพก็เป็นที่ดึงดูด นี่คือความเป็นมา" หลังจากนั้น "นพดล" พยายามทำทุกทางเพื่อให้มีโอกาสสานสัมพันธ์กับ "อ้อ" อย่างเงียบๆ โดยไม่มีใครรู้
กระทั่งเดือนธันวาคม 2548 กระแสข่าวนักการเมืองหญิง อ. ท้องป่อง เตรียมหลบฉากไปทำแท้งถึงต่างประเทศ
ได้แพร่สะพัดไปทั่ว ร้อนถึง "อ้อใหญ่" ต้องเปิดบ้านพักในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ให้ 40 ส.ส. หญิงพรรคไทยรักไทยไปสังสรรค์ พร้อมถือโอกาสสยบข่าวคาวที่เกิดขึ้น โดยในจำนวนนี้มี "อ้อเล็ก" ไปร่วมงานด้วย ขณะนั้น "อ้อ" ยอมเปิดปากให้สัมภาษณ์ "มติชน" โดยระบุว่า มีคนรู้ใจซึ่งคอยให้คำปรึกษาเรื่องนี้ แต่ไม่ยอมเปิดตัวตัวตนของบุรุษนิรนามคนดังกล่าว
"ตอนเกิดเรื่องเราก็คุยกัน ก็รู้อยู่ว่ามันไม่จริงเลย คือครอบครัวอ้อเขาสุภาพกว่าที่จะไปฟ้องร้อง จริงๆ มันเป็นการหมิ่นประมาทหมด แต่เขาไม่ฟ้องร้อง เขาถือว่าใครทำอย่างไรก็ต้องได้อย่างนั้น เพราะครอบครัวเขาเป็นครู แม่ก็นิสัยดี เลี้ยงลูกดีมาก เรื่องพวกนั้นมันไร้สาระ ไม่ต้องไปทำอะไรมัน จริงๆ มันไม่มีหรอก คนก็เที่ยวไปบอกว่าไปท้อง ไปคลอดลูก ไปอะไร ไม่มีหรอก ตอนโน้นก็อยู่กับผมทุกวัน"
"นพดล" ย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน โดยไม่ลืมถอดบทถนัดอย่าง "องค์รักษ์พิทักษ์นายใหญ่" ออกจากชีวิต ก่อนเข้ารับบทใหม่เป็น "องครักษ์พิทักษ์น้องอ้อ"
คำพูดที่หลุดออกจากปาก "นพดล" ถือเป็นการจงใจเฉลยว่าบุรุษนิรนามที่ "อ้อ" พูดถึงคือตัวเขานั่นเอง
ฝันร้ายที่เกิดขึ้นกับ "อ้อ" ในครั้งนั้น น่าจะเป็นตัวเร่งในการตัดสินใจให้เธอคบหากับ "นพดล" อย่างเป็นมั่นเหมาะ นัยว่าหากในอนาคตถูกหมิ่นประมาทซ้ำซาก จะได้ใช้บริการทนายคู่ใจ นั่นหมายความว่าภารกิจพิชิตใจ "อ้อ" สำเร็จแล้ว!!!
"ทุกวันนี้เราใช้เวลาว่างไปไหนมาไหนด้วยกัน บางครั้งก็ไปทานข้าวกับพ่อแม่เขา ซึ่งครอบครัวเขาน่ารักดี บางทีก็ไปออกกำลังกายด้วยกัน เพราะอ้อกับน้องชายชอบออกกำลังกายมาก ล่าสุดเมื่อ 2-3 วันก่อนก็เพิ่งไปมา ผมเลยต้องลากสังขารไปวิ่งด้วย เพราะเขาอายุน้อยกว่าเรา 9 ปี"
สรุปแล้วเป็นเรื่องบังเอิญหรือจงใจที่ "ทักษิณ" และ "นพดล" มี "หญิงอ้อ" อยู่ข้างกายเหมือนกัน?"บังเอิญชื่อตรงกันนะ ชื่ออ้อนี่เยอะนะ ผมยังเคยเรียนคุณหญิงอ้อเลยว่าชื่ออ้อนี่เป็นมงคลแก่ชีวิต ท่านได้แต่ยิ้มๆ และบอกว่าดีแล้วอาจารย์" ถือเป็นมงคลที่ 33 ที่ผู้มีอำนาจที่ต้องหาศรีภริยาชื่อ "อ้อ" ให้ได้?
"นพดล" กลั้วหัวเราะแทนคำตอบ ก่อนเปรยมาว่า
"ตอนนี้เราเพียงแต่คบๆ กันอยู่ ยังไม่ได้หมั้นหมายกัน อ้อเขาเป็นผู้หญิงดี มีเนื้อหาสาระเยอะ พื้นฐานความรู้ดี จึงคุยกันได้ทุกเรื่อง แต่ไม่ได้คุยกันเรื่องที่ผมได้เป็นรัฐมนตรีหรอก เพราะเขาไม่ได้ยุ่งการเมือง ไม่ได้ไปพรรค ช่วงนี้เขาต้องช่วยดูแลธุรกิจที่บ้านเพราะคุณพ่อเขาวางมือไปแล้ว ต้องไปดูแลโรงเรียน มีเด็ก 2-3 พันคน เป็นอาจารย์อ้อไปแล้ว"
ถ้าจะให้พูดชัดๆ ถึงการวางแผนสร้างครอบครัวร่วมกัน "นพดล" บอกเพียงว่า เขายังไม่มีแผนจะเป็นซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่แต่งงานในขณะอยู่ในตำแหน่ง แต่ ณ วันนี้ เขาได้ควง "น้องอ้อ" เปิดตัวออกงานสังคมต่างๆ ร่วมกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศอย่างเป็นทางการแล้ว
เหล่านี้คือเรื่องอ้อๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของ "ทักษิณ-นพดล" ซึ่งน่าจะมาจากการลิขิตของพรหมเดียวกัน!!!
|
|
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 2127 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 17 ก.พ. 51
เวลา 12:40:27
|