ทนายยัน"ทักษิณ"จะกลับไทยปลาย เมษายน ร่วมสู้คดีที่ดินรัชดาฯกับ"พจมาน" ปัดเอื้อชินคอร์ป-รวยผิดปกติ คตส.เผยคดีบ้านเอื้อฯไม่เกี่ยวนักการเมือง
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ในคดีการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวมติชนว่า จากการประสานงานล่าสุดกับ พ.ต.ท.ทักษิณทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีความประสงค์จะเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยเร็วขึ้นกว่าเดิมที่เคยระบุว่าจะเป็นช่วงเดือนพฤษภาคม ด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ 1.ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้ยื่นคำร้องต่อศาลว่าจะขอกลับมาต่อสู้คดี ภายหลังจากที่ประเทศไทยมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งขณะนี้มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว และ 2.พ.ต.ท.ทักษิณต้องการแสดงเจตนารมณ์ตนเองว่าไม่เคยต้องการที่จะหนีกระบวนการยุติธรรมแต่อย่างใด และตั้งใจจะเข้ามาพิสูจน์ตนเองว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะกระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด
"พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ของตนเองเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก โดยตั้งใจจะกลับมาเพื่อเตรียมความพร้อมในการต่อสู้คดี และต้องการจะให้กระบวนการพิจารณาคดีเรื่องการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกในส่วนของ พ.ต.ท.ทักษิณดำเนินการควบคู่ไปกลับกระบวนการพิจารณาคดีของคุณหญิงพจมาน ซึ่งศาลมีคำสั่งนัดให้ตรวจสอบพยานและเอกสารครั้งแรกในวันที่ 29-30 เมษายนนี้" นายพิชิฏกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ากำหนดเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณจะอยู่ในช่วงก่อนวันที่ 29-30 เมษายนนี้ใช่หรือไม่ นายพิชิฏกล่าวว่า "คงเป็นเช่นนั้น เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการให้กระบวนการพิจารณาคดีในส่วนของ พ.ต.ท.ทักษิณดำเนินควบคู่ไปกับของคุณหญิงพจมานด้วย และต้องกลับมาเตรียมความพร้อมในการต่อสู้คดีด้วย แต่จะเป็นช่วงไหนยังไม่ขอพูดถึง บอกได้แต่เพียงว่าจะเดินทางกลับมาประเทศไทยเร็วขึ้นมากกว่าเดิมมาก และได้สั่งให้ทีมทนายความเตรียมความพร้อมไว้ตลอด ซึ่งทีมทนายความก็เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับเข้ามาเมื่อไรก็พร้อมที่จะทำคดีได้ทันที" นายพิชิฏกล่าว
ด้านนายฉัตรทิพย์ ตัณฑประศาสน์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ในคดีกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจตนเองและพวกพ้อง กล่าวว่า ขณะนี้ทีมทนายความอยู่ระหว่างการจัดทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เพื่อส่งให้ พ.ต.ท.ทักษิณพิจารณาและลงนามรับรอง เพื่อส่งมอบให้ คตส.ภายในกำหนดวันที่ 6 มีนาคมนี้ ระหว่างนี้มีการประสานข้อมูลกับ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ตลอด ทั้งทางโทรศัพท์และอี-เมล ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณยังยืนยันว่าไม่ได้กระทำการตามที่ คตส.แจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด ทั้งประเด็นการซุกหุ้นภาค 2 การร่ำรวยผิดปกติ และการใช้อำนาจโดยมิชอบในการออกมาตรการเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ธุรกิจในเครือบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือชินคอร์ป
"คตส.ใช้วิธีนำข้อมูลมาปะติดปะต่อ เพื่อกล่าวหากัน ใช้หลักการทางกฎหมายมาจับโดยไม่ถูกต้อง ฝ่ายเรามั่นใจว่าชี้แจงข้อกล่าวหาได้แน่นอน แม้ระยะเวลาในการชี้แจงข้อกล่าวหาจะมีน้อยก็ตาม" นายฉัตรทิพย์กล่าว
นายฉัตรทิพย์กล่าวว่า สิ่งที่เป็นปัญหาของทีมทนายความในขณะนี้ คือการที่ คตส.ไม่อนุญาตให้ทีมทนายความเข้าไปดูเอกสารประกอบคดีที่ คตส.นำมาใช้ในการตั้งข้อกล่าวหา ทั้งที่ทีมทนายความใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้ผู้ถูกกล่าวหา มีสิทธิที่จะรับทราบข้อมูลที่ถูกกล่าวหาได้มากที่สุด
"ทีมทนายความไปยื่นหนังสือเพื่อขอดูเอกสารประกอบคดี แต่ฝ่าย คตส.ไม่ยอมให้ บอกว่าเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พ.ต.ท.ทักษิณรับทราบดีอยู่แล้ว ซึ่งการตอบคำถามแบบนี้ไม่น่าจะนำมาใช้เป็นข้ออ้างได้ เราจะนำไปเป็นข้อต่อสู้ในทุกชั้นศาลแน่นอน" นายฉัตรทิพย์กล่าว
วันเดียวกัน นายสัก กอแสงเรือง กรรมการ คตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการปล่อยเงินกู้ให้กับทางการพม่าของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปผลการไต่สวนคดีนี้ โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ถูกตั้งข้อกล่าวหาเพียงรายเดียว เท่าที่พิจารณาการชี้แจงข้อกล่าวหาของ พ.ต.ท.ทักษิณไม่พบว่ามีเรื่องอะไรใหม่ คาดว่าช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้น่าจะเสนอเรื่องให้ที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่พิจารณาได้
"การไต่สวนคดีต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบ ขณะนี้กรรมการ คตส.หลายคนมีการพูดคุยกันและมีความเห็นว่าจะพยายามเร่งรัดการทำงานให้เร็วขึ้นกว่าเดิม" นายสักกล่าว
นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการ คตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบและไต่สวนคดีโครงการบ้านเอื้ออาทร กล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนคดีนี้ว่า จะเสนอผลการตรวจสอบคดีบ้านเอื้ออาทรในส่วนของโครงการรังสิต คลอง 9 ให้ที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่พิจารณาในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งผลการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนักการเมือง ส่วนความคืบหน้าในการไต่สวนคดีบ้านเอื้ออาทรร่มเกล้า และบางพลีนั้น อยู่ระหว่างการปรับปรุงสำนวนการไต่สวนคดีนี้ ให้สมบูรณ์มากขึ้น ตามความเห็นของที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่
รายงานข่าวจาก คตส.แจ้งว่า สำหรับการตรวจสอบคดีบ้านเอื้ออาทร รังสิต คลอง 9 เป็นผลมาจากการร้องเรียนว่ามีการจัดซื้อที่ดินเพื่อจัดทำโครงการบ้านเอื้ออาทร รังสิต คลอง 9 ในราคาสูงเกินจริง ซึ่งคณะอนุกรรมการตรวจสอบฯพบข้อเท็จจริงว่า การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ได้ซื้อที่ดินจำนวน 99 ไร่ จากเอกชนในราคาสูงเกินจริง เป็นเงินประมาณ 39 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบพฤติการณ์ว่าเป็นการร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ของ กคช.และเอกชน โดยปลอมแปลงเอกสารการประเมินราคาที่ดิน ทำให้ กคช.รับซื้อที่ดินในราคาสูงผิดปกติ
นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีนี้ว่า ยังไม่สามารถสรุปผลการไต่สวนได้เนื่องจากกำลังพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับภาพรวมที่เกิดขึ้นในคดีนี้ใหม่ทั้งหมด ซึ่งมีรายละเอียดค่อนข้างมาก
"คดีนี้ทำไปทำมาจะเหมือนกับวนๆ อยู่ คล้ายเครื่องบินที่บินอยู่บนอากาศแล้วหาทางลงไม่ได้ เพราะรายละเอียดมันเยอะ มันยุ่ง แต่เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ก็จะดูรายละเอียดให้ดีที่สุด ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก" นายนามกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ต้องไปดูรายละเอียดใหม่ทั้งหมด เหมือนกำลังจะรื้อผลสอบใหม่ใช่หรือไม่ นายนามกล่าวว่า เป็นสิ่งที่ที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่ต้องการให้เข้าไปดูรายละเอียดทั้งหมด เพราะคณะอนุกรรมการชุดเก่าไม่ได้ดูข้อมูลส่วนนี้ไว้ด้วย เลยต้องเข้าไปดูรายละเอียดอีกครั้ง คดีนี้เท่าที่ดูแล้วมันยุ่งมาก
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต