ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
พันธมิตรฯ เตือนอย่าเวอร์รับทักษิณ กลับบ้าน หากเกิดหมั่นไส้ จะอยู่ได้ไม่นานยันยังไม่มีการต่อต้านแต่จะจับตาดูทุกกระบวนการยุติธรรมหากมีการตัดตอนจะกำหนดมาตรการกดดันทันที
เมื่อเวลา15.30 น. ที่บ้านพระอาทิตย์ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้อ่านแถลงการณ์เรื่อง "อย่าบิดเบือนอำนาจเพื่อคนคนคนเดียว จุดยืนต่อรัฐบาลสมัคร และการกลับเข้าประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยระบุว่า แกนนำพันธมิตรฯ ยืนยันว่าอดีตแกนนำพันธมิตรทั้ง 5 คนจะไม่ขัดขวางกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณกลับเข้ามาประเทศเพื่อพิสูจน์ความผิดของตัวเอง พันธมิตรฯ ไม่เคยคัดค้านการกลับเข้าประเทศของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้นำประเด็นการกลับหรือไม่กลับไปเป็นประเด็นทางการเมืองสร้างความสับสนเข้าใจผิดให้กับประชาชนตลอดเวลาโดยไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร โดยเฉพาะสัญญาณการบริหารแผ่นดินที่เริ่มบิดเบือน"
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า อดีตแกนนำพันธมิตรฯได้ประเมินสถานการณ์ในช่วงสั้นภายใต้รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช พบความปกติหลายอย่าง และดูเหมือนมีวาระซ่อนเร้นที่สร้างความเคลือบแคลงสงสัย เช่น การอ้างนโยบายเยียวยาข้าราชการประจำที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐบาลชุดที่แล้ว แต่นโยบายดังกล่าวขาดหลักธรรมาภิบาลเลือกปฏิบัติและกลายเป็นนโยบายทีใครทีมัน โดยเฉพาะการส่งสัญญาณต่อข้าราชการระดับสูงที่ไม่สวามิภักดิ์ต่อระบอบทักษิณ เช่น การขู่ปลดผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปธ.)อธิบดีกรมประชาสัมพัน ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปลัดกระทรวงยุติธรรม
และล่าสุดคำสั่งย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อย่างมีเงื่อนงำ ทั้งๆที่อธิบดีคนดังกล่าวมีผลงานโดดเด่น คำสั่งย้ายดังกล่าวแท้ที่จริงแล้ว คือ การตัดตอนคดีที่เกี่ยวโยงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่าย และต้องการนำบุคคลที่ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคพลังประชาชนมาทำหน้าที่แทนเพื่อรื้อสำนวนสอบสวนในคดีซุกหุ้นภาค 2 เพื่อให้สำนวนที่จะขึ้นพิสูจน์ความผิด พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นสำนวนอ่อน หละหลวมไม่รัดกุม และผู้ต้องหารอดพ้นจากความผิดในที่สุด
ผู้ประสานงานพันธมิตร อ่านแถลงการณ์ต่อว่า การย้ายเลขาธิการอย.ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันกรณีการบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยา หรือ CL ก็พบเงื่อนงำชัดเจนในการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนธุรกิจเอกชนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล การพยายามรวบรัดเร่งรีบคืนพาสปอร์ตเล่มแดงให้ พ.ต.ท.ทักษิณ การวางตัวของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะองครักษ์ประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แทนที่จะทำหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชนการวางตัวรมว.กระทรวงต่างประเทศ นายนพดล ปัทมะ ที่ยังทำหน้าที่ทนายประจำตัวมากกว่าตัวแทนคนไทยทั้งประเทศ รวมทั้งนายยงยุทธ ซึ่งทั้ง 2 คนได้ใช้เวลาราชการแอบไปพบปะกับพ.ต.ท.ทักษิณ ในต่างประเทศเป็นระยะๆ ทั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณตกเป็นผู้ต้องหาและมีหมายจับในคดีใช้อำนาจมิชอบ ซึ่งอาจทำให้อำนาจรัฐต้องถูกใช้ไปเพื่อฟอกความผิดพ.ต.ท.ทักษิณซึ่งเป็นสัญญาณฟื้นคืนชีพระบอบทักษิณ
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่าสำหรับมาตรการการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯจะไม่เคลื่อนไหวใดๆ เพื่อคัดค้านการกลับมาของพ.ต.ท.ทักษิณแต่ทันทีที่พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางถึงประเทศไทย แกนนำทั้งหมดจะเฝ้าดูและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นตำรวจในฐานะเจ้าพนักงานสอบสวน อัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการกับพ.ต.ท.ทักษิณในฐานะผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยยึดหลักปฏิบัติเดียวกับคุณหญิงพจมาน
"ผมขอเตือน ส.ส. อดีต ส.ส. อย่าทำตัวเกินงาม ให้นึกถึงคำเตือนของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ว่าอย่าทำให้เกิดความหมั่นไส้ขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นคำเตือนที่เป็นจริงของสังคมไทย หากใครทำเกินไปก็จะอยู่ได้ไม่นาน รัฐมนตรีที่ได้รับการปูนบำเหน็จทางการเมืองจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ควรวางตัวให้เหมาะสมไม่ทำให้ประชาชนเคลือบแคลงสงสัยว่ารัฐบาลชุดนี้ทำทุกวิถีทางเพื่อมอบคืนอำนาจให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และหากพบมีความพยายามแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมทั้งทางตรงและทางอ้อม แกนนำพันธมิตรฯ จะเรียกประชุมเพื่อกำหนดการเคลื่อนไหวเป็นกรณีฉุกเฉินทันทีในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้งหนึ่ง" นายสุริยะใส กล่าว
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|