• พันธมิตรฯ เคลื่อนนัดแรก ระดมแนวร่วม 28 มี.ค. |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 12 มี.ค. 51 เวลา 14:18:30 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
พันธมิตรฯ แถลงฉบับ 3 ย้ำรัฐบาลนอมินี ยังเหิมเกริม โยกย้าย ขรก. แทรกแซง คตส. อัยการ ฟื้นรัฐตำรวจ เอื้อประโยชน์ระบอบทักษิณ ประกาศ เคลื่อนไหวครั้งที่ 1 จัด “ยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ” วางยุทธศาสตร์ใหม่ หอประชุมเล็ก มธ. 28 มี.ค.นี้ พร้อมระดมองค์กรภาค ปชช.เข้าร่วม
เวลาประมาณ 12.30 น. วันนี้ (12มี.ค.) หลังจากแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประชุมหารือถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่บ้านพระอาทิตย์แล้ว ได้มีการออกแถลงการณ์ฯ ฉบับที่ 3 ดังนี้
แถลงการณ์ฉบับที่ 3/2551 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรื่อง “เคลื่อนไหวครั้งที่ 1: ต้านเผด็จการทุนนิยมสามานย์และรัฐตำรวจ”
ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2/2551 ลงวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2551 แล้ว ได้ปรากฏว่ารัฐบาลยังคงแสดงพฤติกรรมเหิมเกริม ลุแก่อำนาจ ข่มขู่การเคลื่อนไหวของพี่น้องข้าราชการและประชาชนอย่างต่อเนื่อง ดังปรากฏพฤติกรรมเป็นหลักฐานดังต่อไปนี้
ประการแรก รัฐบาลนอมินีได้กระทำการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมก่อนถึงศาล จนได้ปรากฏเป็นที่ชัดเจนว่ากระบวนการยุติธรรมได้ถูกแทรกแซง แทรกซึม และแทรกซื้อ จากอำนาจรัฐชนิดรวบรัดตัดตอนเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการฟอกความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายระบอบทักษิณ โดยเฉพาะการใช้อำนาจรัฐยึดกระบวนการยุติธรรมก่อนถึงศาล ไม่ว่าจะเป็นการโยกย้ายข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีความของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย และแกนนำพรรคพลังประชาชนให้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ ดังตัวอย่างที่ปรากฏต่อไปนี้
1. มีคำสั่งย้าย พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ที่มีความเกี่ยวพันกับการดำเนินคดี นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฏรในการกระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งจนอาจเป็นผลทำให้ต้องมีการยุบพรรคพลังประชาชน ให้พ้นจากตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 และกำลังจะโยกย้ายรองผู้บังคับการตำรวจท่านหนึ่งที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับนายยงยุทธ ติยะไพรัช เข้าไปทำหน้าที่แทน
2. มีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตรกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้รับผิดชอบในการดำเนินคดีบุกรุกและครอบครองที่ดินกรณีเขากระโดงของการรถไฟแห่งประเทศไทย และที่ดินสาธารณะประโยชน์ในอำเภอสตึก ที่เกี่ยวโยงกับ คนในครอบครัวชิดชอบบางคน นอกจากนี้ พ.ต.อ.สังวรณ์ยังทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบุรีรัมย์และกำลังตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)บุรีรัมย์ในขณะนี้ ให้ไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดศรีสะเกษ ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2551 ในทางตรงกันข้าม กลับมีการโยกย้ายให้ พ.ต.อ.สมบัติ คงพิบูลย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนครที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ “คนในครอบครัวชิดชอบบางคน” ไปช่วยราชการในตำแหน่งรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์แทน
3. มีการเปิดตำแหน่งใหม่ในโครงสร้างของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและเตรียมโยกย้ายคนใกล้ชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อให้มาควบคุมดูแลและสถาปนา“รัฐตำรวจ” กลับมาอีกครั้งหนึ่ง
4. มีการแทรกแซงและทำลายความชอบธรรมของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) และแทรกแซงสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อประโยชน์ต่อคดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกพ้องอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเข้าไปแทรกแซงในคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อช่วยเหลือการกระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งอย่างแจ้งชัด
เมื่อรวมกับพฤติกรรมของรัฐบาลนอมินี ในการโยกย้ายข้าราชการตามที่ได้มีการแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ ย่อมเป็นการตอกย้ำแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ได้ดำเนินการแทรกแซง ครอบงำ และตัดตอนกระบวนการยุติธรรมเป็นที่ประจักษ์แล้ว
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) สำนักงานอัยการสูงสุด และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถือเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการยุติธรรมก่อนถึงศาล ซึ่งสามารถทำให้พยานและหลักฐานมีน้ำหนักไม่เพียงพอในการลงโทษผู้กระทำความผิดได้
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและองค์กรเครือข่ายภาคประชาชนไม่เคยปฏิเสธในการโยกย้ายข้าราชการเมื่อการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล หากแต่การโยกย้ายข้าราชการของรัฐบาลชุดนี้กลับเต็มไปด้วยการกระทำที่ไร้ระบบคุณธรรม โดยมุ่งหวังการโยกย้ายข้าราชการเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวตลอดจนพวกพ้องให้พ้นจากขั้นตอนการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพียงอย่างเดียว
ประการที่สอง มีความพยายามฟื้นรัฐตำรวจอันน่าสะพรึงกลัว เหมือนกับเหตุการณ์ร่วมสมัยในยุค พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ และในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่ง ละเมิดสิทธิมนุษยชน ฆ่าตัดตอน และกลั่นแกล้งคุกคามการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนในทุกรูปแบบ
รัฐบาลนอมินีและพรรคพลังประชาชนมักกล่าวอ้างว่าองค์กรอิสระหรือข้าราชการที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการกระทำความผิดในช่วงเวลาที่ผ่านนั้นไม่มีความชอบธรรมเพราะมาจากการรัฐประหาร ในขณะที่รัฐบาลนอมินีชุดนี้ก็เข้ามาสู่อำนาจภายใต้รัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาของการรัฐประหารเช่นเดียวกัน
แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลนอมินีเลือกใช้อำนาจทางกฎหมายเฉพาะส่วนที่ตัวเองได้ประโยชน์ ส่วนใดที่เสียประโยชน์ก็จะปฏิเสธกติกานั้นเสียอันเป็นการกล่าวอ้างเพื่อประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องเท่านั้น
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและองค์กรเครือข่ายภาคประชาชนจึงได้มาประชุมกำหนดจุดยืนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้
1. พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและองค์กรเครือข่ายภาคประชาชนขอยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังคงเป็นปัญหาของแผ่นดินต่อไป ขอให้พี่น้องประชาชนเตรียมพร้อมเพื่อรับการคุกคามทุกรูปแบบจากรัฐตำรวจที่เกิดขึ้นแล้ว
เราขอเรียกร้องให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้เป็นน้องชายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารบกอย่าได้ตกเป็นเครื่องมือของรัฐบาลนอมินีในการสร้างรัฐตำรวจ และใช้รัฐตำรวจในการคุกคามประชาชน
.
จึงขอเตือนสติไปยัง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ให้ยอมรับธรรมของพระพุทธเจ้าที่ว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างมีความไม่เที่ยงแท้ เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพราะไม่มีอะไรที่อยู่คงทนตลอด” ดังนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ จึงควรทำสิ่งที่ถูกต้อง เป็นธรรม และกล้าหาญ เพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ตลอดจนเพื่อเป็นเกียรติแต่วงศ์ตระกูล “วงษ์สุวรรณ”
2. พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและองค์กรเครือข่ายภาคประชาชนเรียกร้องให้ คณะกรรมการการเลือกตั้งที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ระบอบทักษิณ แสดงความกล้าหาญ ดำเนินการเสนอศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคการเมืองที่กระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งและประพฤติตนเป็นนอมินีให้กับพรรคไทยรักไทยโดยเร็วที่สุด
3. พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและองค์กรเครือข่ายภาคประชาชนขอเรียกร้องต่อพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการติดตามและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐภายใต้รัฐธรรมนูญ เพื่อพัฒนาไปสู่สังคมประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
4. พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและองค์กรเครือข่าย มีมติ “ให้เคลื่อนไหวครั้งที่ 1” โดยมอบหมายให้ให้มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินดำเนินการจัดการสัมมนารายการ “ยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ” ในวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2551 ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ตั้งแต่เวลา 16.00 – 22.00 น
เชิญขอเรียนเชิญพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และองค์กรเครือข่ายทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์ภาคประชาชนต่อไป ทั้งนี้จะประกาศเปิดตัวคณะกรรมการตรวจสอบอำนาจรัฐทั้ง 5 คณะอย่างเป็นทางการในวันดังกล่าว
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า ยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวในขณะนี้คือการสร้างเอกภาพ ความรับรู้ อย่างกว้างขวางว่า ปัญหาของชาติขณะนี้เกิดจากความขัดแย้ง 2 กระแสคือ
1. กระแสฟื้นระบอบเผด็จการทุนนิยมสามานย์ โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นตัวแทน
2. กระแสต่อต้านระบอบเผด็จการทุนนิยมสามานย์ โดยมี พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และภาคประชาชนทั่วประเทศ เป็นตัวแทน
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและองค์กรเครือข่ายพร้อมยืนหยัดอยู่ข้างกระแสต่อต้านระบอบเผด็จการทุนนิยมสามานย์ และพร้อมเคลื่อนไหวในทุก “รูปแบบ” ด้วยสันติวิธีภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ 2550
ด้วยจิตคารวะ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
12 มีนาคม 2551
ข่าวจาก inn news
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1149 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 12 มี.ค. 51
เวลา 14:18:30
|