ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
วันนี้ (17 มี.ค.) นายอดิศร เกียรติโชควิวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เปิดเผยถึงปัญหาโจรขโมยสายไฟว่า ตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน กฟภ.ถูกกลุ่มมิจฉาชีพแอบลักขโมยอุปกรณ์ ระบบจำหน่ายไฟฟ้า และหม้อแปลงไฟฟ้าไปถึง 153 ครั้ง จากพื้นที่ กฟภ. 12 เขต ใน 73 จังหวัด ก่อให้เกิดความเสียหายแล้วถึง 4,421,405 บาท โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 1 จ.เชียงใหม่ มีสถิติการขโมยสูงสุดถึง 35 ครั้ง มีมูลค่าความเสียหาย 510,166 บาท รองลงมาคือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 3 จ.นครปฐม มีสถิติการขโมย 30 ครั้ง มูลค่าความเสียหาย 1,228,138 บาท และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 2 จ.ชลบุรี ถูกขโมย 20 ครั้ง มีมูลค่าความเสียหาย 1,040,161 บาท
นายอดิศร กล่าวต่อว่า มาตรการแก้ปัญหาเบื้องต้น คือ การพยายามตรวจสอบการขโมยให้เข้มงวดขึ้น รวมทั้งขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยสอดส่องดูแล เนื่องจากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ถูกขโมยเป็นทรัพย์สินของภาคหลวง ที่นำเงินรายได้จากภาษีของประชาชนมาซื้อ ดังนั้นประชาชนในพื้นที่ควรช่วยกันตรวจสอบด้วย นอกจากนี้ จะขอความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยตรวจสอบแหล่งรับซื้อของเก่าให้มีหลักฐานการแสดงรายการรับซื้อสินค้า เพื่อป้องกันการลักลอบนำอุปกรณ์ไฟฟ้าของรัฐมาจำหน่าย
ด้านนายวิเชียร เนียมสอน หัวหน้ากองบำรุงรักษาสายส่ง ฝ่ายปฏิบัติการเขตนครหลวง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ.ได้รับความเสียหายจากการขโมยอุปกรณ์สายส่งไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบันแล้วนับ 10 ล้านบาท และยังพบว่ามีการโจรกรรมชิ้นส่วนอุปกรณ์เสาส่งไฟฟ้า แรงสูงของ กฟผ.เพิ่มมากขึ้น โดยจากสถิติความเสียหายสายส่งไฟฟ้าแรงสูงที่พาดผ่านอยู่ทั่วประเทศ พบว่า พื้นที่ ภาคกลาง เกิดการโจรกรรมบ่อยมากที่สุด พื้นที่ ภาคอีสาน มีแนวโน้มตัวเลขการลักขโมยสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่อุดรธานี หนองคาย เลย และหนองบัวลำภู พื้นที่ ภาคเหนือ บริเวณ จ. เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ พื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล เกิดขึ้นบ่อยครั้ง พื้นที่ภาคใต้ มีอัตราการเกิดด้วยเช่นกัน แต่ไม่บ่อยเหมือนภาคอื่น
ที่มา ไทยรัฐ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|