กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
บุกจับพนักงานแบงก์ออมสินหนองบัวลำภู ฉกเงินจากตู้เอทีเอ็มกว่า 1.7 ล้านบาท ตั้งแต่ 18 เม.ย. อ้างจะกลับบ้านตอนเย็นเห็นกุญแจตู้ วางอยู่บนโต๊ะผจก.เลยหยิบกลับบ้าน และย้อนกลับมาไข ฉกเงินไปซ่อนไว้ในลำโพงรถ 1 ล้านบาท ที่เหลือใช้หนี้บ่อนไก่ 2 แสน หนี้พี่ชาย 1 แสน ที่เหลือให้พี่ชายเก็บไว้ ส่วนอีกล้านซุกในตู้ลำโพงรถ แต่กลัวตร.ค้นเจอเลยไปขโมยรถที่ถูกยึดหน้าโรงพักกลับ ก่อนจะเอาไปให้เมียซ่อนไว้ และมาทำงานตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถูกจับกุมจนได้
จากกรณี นายสนอง ศรีสุนาครัว ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาหนองบัวลำภู เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สุมนชาย จำนงนิจ สารวัตรเวรสภ.เมืองหนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า เงินสดในตู้เอทีเอ็มชั้นล่างของธนาคารหายไปจำนวน 1,777,000 บาท เมื่อวันที่ 19 เม.ย. เวลา 07.30 น. โดยไม่มีร่องรอยการงัดแงะตู้เอทีเอ็มแต่อย่างใด สงสัยว่าคนในธนาคารจะขโมยไป ขอให้สืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ด้วย หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อมาพ.ต.อ.ธรรมจักร คงมงคล ผกก.สภ.เมืองหนองบัวลำภู มอบหมายให้ พ.ต.ท.ศักดา มุทธสินธุ์ รองผกก.สส. ควบคุมคดีทำการสืบสวนสอบสวน และเรียกตัวผู้ต้องสงสัย 5 คนมาสอบสวน
ต่อมาวันที่ 24 เม.ย. พ.ต.ท.ศักดาออกหมายเรียกนายวัชระ เตือนจันทึก อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/1 หมู่ 2 ต.เมืองใหม่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู พนักงานประจำเคาน์เตอร์มาสอบปากคำ พร้อมทั้งนำหมายค้นไปค้นบ้าน แต่ไม่พบสิ่งต้องสงสัย จึงตรวจยึดรถยนต์กระบะอีซูซุ สีดำ ทะเบียน บง-1487 หนองบัวลำภู ของนายวัชระมาตรวจสอบ โดยนำมาจอดไว้ที่หน้าสภ.เมืองหนองบัวลำภู
จากนั้นวันที่ 25 เม.ย.ปรากฏว่า รถปิกอัพคันดังกล่าวหายไปจากหน้าสภ.เมืองหนองบัวลำภู จึงออกติดตาม กระทั่งเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่พบรถคันดังกล่าวจอดอยู่ที่ริมถนนบ้านสุขเกษม ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ตรวจสอบในรถพบตู้ลำโพงด้านหลังเบาะนั่งซ้ายมือ มีรอยถูกรื้อค้น และพบก้อนคอนกรีตขนาดเท่าศีรษะคนอยู่ด้านใน 2 ก้อน จึงเชื่อว่าคนร้ายนำเงินมาซ่อนไว้ในตู้ลำโพงแน่นอน ตำรวจจึงไปตามตัวนายวัชระที่กำลังทำงานอยู่ในธนาคารมาสอบสวน ในที่สุดจึงเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นคนขโมยเงินในตู้เอทีเอ็มไปจริง
นายวัชระให้การว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 เม.ย.ตนทำงานอยู่บริเวณเคาน์เตอร์ และมีหน้าที่ดูแลตู้เอทีเอ็มของธนาคาร หลังเลิกงานกำลังจะกลับบ้านเห็นกุญแจเปิดประตูตู้เอทีเอ็มวางอยู่บนโต๊ะผู้จัดการ จึงหยิบมาและเดินทางกลับบ้าน ครุ่นคิดว่าน่าจะไม่มีใครเห็นและเห็นช่องทางที่จะขโมยเงิน กระทั่งรุ่งเช้าจึงมาที่ตู้เอทีเอ็มธนาคาร และใช้กุญแจเปิดประตูไขเข้าไป ลองหมุนรหัสล็อกตู้ปรากฏว่าสามารถเปิดล็อกได้ จึงขนเอาเงินออกมาโดยไม่ได้นับจำนวนก่อนจะปิดล็อกแล้วกลับบ้าน
จากนั้นอาศัยช่วงที่ไม่มีคนอยู่บ้านนับเงินที่ขโมยมาได้กว่า 1.7 ล้านบาทใส่ถุงพลาสติก แล้วนำไปซ่อนไว้ในตู้ลำโพงรถ และแบ่งเงินสด 500,000 บาทไปให้นายไพบูลย์ เตือนจันทึก พี่ชายที่คลินิกหมอแห่งหนึ่งในอ.ศรีบุญเรือง โดยบอกว่ากู้เงินธนาคารได้และในจำนวนนี้ใช้หนี้พี่ชาย 100,000 บาท อีก 400,000 บาท ให้พี่ชายเก็บไว้ เพราะไม่อยากให้เมียรู้ จากนั้นไปใช้จ่ายเงิน รวมทั้งใช้หนี้กับผู้จัดการบ่อนไก่กว่า 200,000 บาท ก่อนจะกลับมาทำงานตามปกติทำทีเป็นไม่รู้ไม่เห็น
นายวัชระกล่าวว่า กระทั่งตำรวจไปเชิญตัวมาสอบปากคำและตรวจยึดรถมาไว้ที่โรงพัก ด้วยความกลัวว่าตำรวจจะค้นพบเงินที่ซ่อนไว้ เวลาประมาณ 03.00 น. วันเดียวกัน จึงให้เพื่อนนำมาที่หน้าสภ.เมืองหนองบัวลำภู ก่อนที่จะใช้กุญแจสำรองมาขับรถไปในที่เปลี่ยว แล้วใช้ก้อนหินทุบลำโพงรถเอาเงินออกไปซ่อนไว้ที่ปั๊มน้ำในบ้าน ก่อนถูกตำรวจจับกุมตัว ได้โทรศัพท์ไปบอกเมียให้นำเงินไปไว้ที่อื่น
ต่อมาพ.ต.ท.สุมนชายออกไปควบคุมตัวนางวิไลวรรณ เตือนจันทึก อายุ 39 ปี เมียของนายวัชระ ขณะทำงานอยู่ที่คลินิกหมอในอ.ศรีบุญเรือง และนำไปเอาเงินที่ซ่อนไว้ข้างกำแพงของคลินิกจำนวน 1 ล้านบาท และไปควบคุมตัวนายสุรพร บุตรศรี อายุ 39 ปี เพื่อนที่นำนายวัชระมาขโมยรถของกลางที่โรงพัก กลับมาดำเนินคดีที่สภ.เมืองหนองบัวลำภู โดยแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ส่วนนายวัชระ และนายสุรพร ถูกพ่วงข้อหาขโมยและทำลายทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้ตรวจสอบในคดีด้วยอีกข้อหาหนึ่ง ส่วนเงินที่เหลือจะได้ติดตามคืนต่อไป
ที่มาจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|