• พิษ"นาร์กีส"โพธิ์300ปีโค่น |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 06 พ.ค. 51 เวลา 10:20:15 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
น่าน โดนหางพายุไซโคลน นาร์กีสร์กีส กระหน่ำ ทำให้ต้นศรีมหาโพธิ์ยักษ์ อายุกว่า 300 ปี หักทับกุฏิที่วัดทุ่งเม็งหรือวัดเมืองจังเหนือ ต.เมืองจัง พระภิกษุและเณรรวม 3 รูปรอดตายหวุดหวิด โดยเจ้าอาวาสถูกเศษกระเบื้องกระเด็นใส่ตาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะที่ ปภ.และ แขวงการทาง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังคงเตรียมพร้อม ที่จะเข้าไปให้การช่วยเหลือ หากมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัย และถนนชำรุดจากน้ำป่ากัดเซาะ
เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 51 เวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก จนท.ตร.สภ. ภูเพียง จ.น่าน ว่า มีเหตุต้นไม้ใหญ่ล้มทับกุฏิที่วัดทุ่งเม็งหรือวัดเมืองจังเหนือ ต.เมืองจัง อ.ภูเพียง ได้รับความเสียหาย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ล้มทับกุฏิในลักษณะพาดจนกุฏิพังเสียหาย
นายสงวน สัตยวงศ์ นายกอบต.เมืองจัง เล่าว่า ฝนได้เริ่มตกลงมาตั้งแต่บ่ายวานนี้ แต่ไม่มีลมกรรโชกแรง หลังจากนั้นช่วงหัวค่ำก็หยุดไป และในตอนตีสองก็เกิดลมพายุกรรโชกแรงอีกรอบ ทำให้ต้นศรีมหาโพธิ์ซึ่งมีอายุกว่า 300 ปี มีขนาดใหญ่ และมีใบจำนวนมากรับน้ำหนักไม่ไหว กิ่งใหญ่ที่สุดในต้นจึงหักลงมาทับกุฏิซึ่งมีพระภิกษุสามเณร 3 รูปจำวัดอยู่ คือพระประสงค์ ประพัฒน์ธโรเจ้าอาวาส และพระชานนท์ ขันติธโร รองเจ้าอาวาส สามเณรณัฐพล เปลี่ยนสมัย โดยหลังจากได้ยินเสียงหักล้มอย่างดังของต้นโพธิ์และเสียงกระเบื้องแตกหัก ไฟฟ้าก็ดับ พระทั้งหมดตกใจหนีออกมาได้อย่างหวุดหวิด โดยพระประสงค์ ประพัฒน์ธโร เจ้าอาวาสได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเศษกระเบื้องกระเด็นใส่ตาและบาดบริเวณขา โชคดีไม่มีรูปใดเสียชีวิต
เจ้าคณะอำเภอเมืองและเจ้าคณะอำเภอภูเพียง นำพระภิกษุทำพิธีสึกต้นศรีมหาโพธิ์ในวัดทุ่งเม็งหรือวัดเมืองจังเหนือ ที่ถูกพายุพัดจนหักโค่น เพื่อขออนุญาตตัดแต่งเก็บกวาด ขณะตัดท่อนโพธิ์เกือบโดนคนตัดโชคดีชาวบ้านช่วยดึงลงถูกทางจึงไม่มีใครบาดเจ็บ ชาวบ้านต่างวิจารณ์หากไม่ทำพิธีถูกต้องต้องมีคนได้รับบาดเจ็บจากการตัดแต่งเก็บกวาด
ต่อมาพระครูสิริธรรมภานี เจ้าคณะอำเภอเมืองน่าน และพระครูวิสิฐ นันทวุฒิ เจ้าคณะอำเภอภูเพียง จ.น่าน ได้นำพระภิกษุ จำนวน 4 รูป ทำพิธีสึกต้นศรีมหาโพธิ์ ในวัดทุ่งเม็งหรือวัดเมืองจังเหนือ ที่ถูกพายุพัดจนหักโค่น เพื่อขออนุญาตตัดแต่งเก็บกวาดทำความสะอาด ตามความเชื่อที่ว่าต้นโพธิ์เป็นต้นไม้มงคล พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์ จึงทำให้ต้นโพธิ์เปรียบเสมือนพระรูปหนึ่งที่ได้ผ่านการบวชมาแล้ว ดังนั้นใครจะตัดแต่งรื้อถอนต้องทำพิธีลาสิกขาต้นโพธิ์หรือสึกต้นโพธิ์ก่อน โดยก่อนจะทำพิธีสึก ก็จะนำข้าวเหนียวปั้น กล้วย 1 ลูก หมาก 1 คำ ใบพลู 1 ใบ เทียน1 คู่ บอกกล่าวแม่พระธรณีก่อน
จากนั้นจะเตรียมผ้าสบงจำนวน 1 ผืน เพื่อใช้ในพิธีสึกเมื่อพระสงฆ์กล่าวคำลาสิกขาเสร็จแล้วก็จะชักผ้าสบงออกจากต้น จากนั้นจะนำสะตวงหรือกระทงที่ทำจากกาบกล้วย ข้างในใส่แกงส้มแกงหวาน เนื้อดิบปลาดิบ หมากพลู กล้วยอ้อย มะพร้าวลูกเล็กๆฝานเป็นชิ้น พริกเกลือ เมี้ยง บุหรี่ ข้าวต้มมัด ขนมหวาน ดอกไม้ เทียนจำนวน 1 คู่ ทำพิธีส่ง สะป๊ะขึด ถอดถอนสิ่งไม่ดีสิ่งอัปมงคลให้ออกไป พร้อมกับบอกกล่าวเทวดาอารักษ์ที่สถิตในต้นโพธิ์เพื่อขออนุญาตทำการตัดแต่งเก็บกวาดต้นโพธิ์ดังกล่าว
หลังจากนั้นก็จะให้พระผู้ใหญ่ทำพิธีตัดพอเป็นพิธีแล้วแจ้งให้ นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน ก็ให้พนักงานจากเทศบาลเมืองน่าน อบจ.น่าน นำเลื่อยโซยนต์ มาตัดต้นไม้โดยใช้เครนของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นำรถกระเช้าขึ้นเพื่อตัดต้นโพธิ์ที่ทับกุฏิออก ในขณะตัดก็มีชาวบ้านจำนวนมากมาช่วยกันดึงเชือกที่มัดท่อนไม้เพื่อดึงลงด้านล่าง จนท่อนโพธิ์เกือบจะกระแทกหัวคนตัดแบบหวุดหวิด โชคดีที่ชาวบ้านดึงถูกทางจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ ชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าหากไม่ทำพิธีต้องมีคนได้รับบาดเจ็บจากการตัดแต่งเก็บกวาดครั้งนี้แน่
ด้านปภ.และ แขวงการทาง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังคงเตรียมพร้อม ที่จะเข้าไปให้การช่วยเหลือ หากมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัย และถนนชำรุดจากน้ำป่ากัดเซาะ นายคมสันต์ สุวรรณอำพา หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ( ปภ.แม่ฮ่องสอน ) เปิดเผยว่า ทาง ปภ.ยังคงมีการเตรียมพร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิต , เรือยาง และ เตรียมยานพาหนะ ไว้ในที่ตั้งหากมีเหตุ อุทกภัยก็พร้อมที่จะจัดกำลังเข้าไปให้การช่วยเหลือทันที่ ถึงแม้ว่าในขณะนี้ จะยังไม่มีการแจ้งเหตุอุทกภัยจากทุกอำเภอเข้ามายังศูนย์ ปภ.ก็ตาม
นายดิเรก กอบเขตกรรม รอง ผอ.แขวงการทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ทางแขวงการทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่แต่ละหมวดการทาง ที่ประจำอยู่ตามอำเภอต่าง ๆ ให้เตรียมพร้อมอุปกรณ์ และ เครื่องจักรกลหนัก ไว้คอยให้การช่วยเหลือ ผู้ที่ใช้ยานพาหนะสัญจรไปมาระหว่างจังหวัดแม่ฮ่องสอน และ จังหวัดเชียงใหม่ทั้งสอง เส้นทางคือ ทางหลวงหมายเลข 108 สายแม่ฮ่องสอน – แม่สะเรียง และ ทางหลวงหมายเลข 1095 สายแม่ฮ่องสอน – ปาย ซึ่งจากฝนที่ตกหนัก อาจจะทำให้ดินภูเขาอุ้มน้ำและสไลด์ลงมาปิดทับเส้นทางได้
นายวันชัย สุทธิวรชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าพายุไต้ฝุ่นนาร์กีส จะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดได้สั่งการให้แขวงการทาง ทำการตัดต้นไม้ข้างทางหลวง ที่มีแนวโน้มเสี่ยงต่อโค่นล้มลงมาปิดทับเส้นทางการจราจรหรือ ล้มทับยานพาหนะที่สัญจรไปมา โดยได้มีการเร่งตัดต้นไม้ที่เสี่ยงมีแนวโน้มเสี่ยงเหล่านั้น จำนวนกว่า 200 ต้นแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นต้นพลวง ที่ยืนต้นตายข้างถนน หลวง สาย 108 และ 1095
สำหรับบริเวณแม่น้ำปาย ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ทอดยาวจากอำเภอปายมายังอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน พบว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำได้เพิ่มระดับสูงขึ้นกว่าเดิม และมีสีขุ่นคลั่ก สาเหตุมาจากฝนได้ชะดินภูเขาลงมาสู่ลำน้ำ
ข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1640 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 06 พ.ค. 51
เวลา 10:20:15
|