• รับน้องติดหัด! |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 02 ก.ค. 51 เวลา 19:43:53 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
รับน้องติดหัด!
...........รับน้องติดหัด..............
นศ.แม่โจ้แพร่ ติดโรคหัดหลังระบาดช่วงรับน้อง เบื้องต้นพบติดเชื้อ 2 ราย หลังกลับจากงานรับน้องที่จ.เชียงใหม่ แพทย์เผยมีนักศึกษาป่วยคล้ายกันอีกกว่า 20 ราย เร่งระดมแพทย์ตรวจและฉีดวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดแล้วเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 1 ก.ค.51 นายแพทย์ปรีดา ดีสุวรรณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ ได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลร้องกวางว่าเกิดมีผู้ป่วยเป็นโรคหัด มารักษาจำนวน 21 ราย คาดว่าจะเกิดการแพร่ระบาดโดยผู้ป่วยเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้เฉลิมพระเกียรติวิทยาเขตแพร่ต่อมาจึงได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดแพร่ เข้าไปตรวจและเร่งทำการฉีดวัคซีนให้แก่นักศึกษาทั้งหมดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ ก็เผยว่า การแพร่ระบาดของโรคหัดในครั้งนี้ ได้รับการเปิดเผยจากรองศาตราจารย์ทรงวุฒิ เพชรประดับ รองอธิการบดี ม.แม่โจ้แพร่ ว่า เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมาได้พานักศึกษาทั้งเก่าและใหม่จำนวน 2,000 คน เดินทางไปทำพิธีรับน้องที่ ม.แม่โจ้ เชียงใหม่ เมื่อกลับมา ได้สองสามวันก็มีนักศึกษา มีอาการผิดปกติ โดยมีนักศึกษาชายหญิง 2 คน ป่วย จึงนำส่งโรงพยาบาล จากนั้นก็มีนักศึกษาป่วยคล้ายกันอีก รวม21 คน ก็นำส่งโรงพยาบาล จากการตรวจของแพทย์พบว่าเป็นโรคหัด ทางรองอธิการบดีก็ได้รายงานให้ทางสาธารณสุขทราบและมีการเข้าไปฉีดวัคซีนในวันนี้ ส่วนโรคดังกล่าว เป็นโรคหัด (Measles) มีเซอร์ เป็นเชื้อไวรัส ที่เกิดขึ้นในจมูกและลำคอของผู้ป่วย การติดต่อของโรคนี้เกิดขึ้นได้ด้วยการ ไอ จาม หรือพูดกันในระยะใกล้ชิด เชื้อไวรัสจะกระจายอยู่ในระอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย ของผู้ป่วย และเข้าสู่ร่างกายโดยทางหายใจ บางครั้งเชื้อจะอยู่บนสิ่งของ เช่นช้อน แก้วน้ำ และเข้าสู่ร่างกายได้โดยการสัมผัส ผู้ติดเชื้อจะเป็นโรคเกือบทุกราย
ส่วนข้อสังเกตว่าเป็นจะต้องสังเกตอย่างไร เริ่มด้วยผู้ป่วยมีไข้ น้ำมูกไหล ไอ ตาแดง ตาแฉะ และกลัวแสง อาการต่างๆจะมากขึ้นพร้อมกับไข้สูงขึ้นและจะสูงเต็มที่เมื่อมีผื่นขึ้นในวันที่4ของไข้ ลักษณะผื่นนูนแดงติดกันเป็นปื้นๆโดยจะขึ้นที่หน้า บริเวณชิดขอบผม แล้วแผ่กระจายไปตามลำตัว แขน ขา เมื่อผื่นแพร่กระจายไปทั่วตัว ซึ่งกินเวลาประมาณ 2-3 วัน กว่าจะจางหายหมดไป กินเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ บางครั้งจะพบผิวหนังลอกเป็นขุย การตรวจในระยะ 1-2 วัน ก่อนผื่นจะขึ้นจะพบจุดขาวๆเล็กๆมีขอบสีแดงๆอยู่ในกระพุ้งแก้มที่สำคัญหากเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย เช่น ทางระบบทางเดินหายใจ เช่นหูส่วนกลางอักเสบหลอดลมอักเสบหรือปอดอักเสบ ทางระบบทางเดินอาหาร อุจาระร่วง สมองอักเสบได้พบประมาณ 1 ใน 1000 รายทำให้มีโอกาสพิการหรือเสียชีวิตได้
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ได้แนะนำการรักษาว่า ให้การรักษาตามอาการ ถ้าไข้สูงมากให้ยาลดไข้เป็นครั้งคราวร่วมกับการเช็ดตัวให้ยาแก้ไอที่เป็นยาขับเสมหะได้เป็นครั้งคราว ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฎิชีวนะ นอกจากรายที่มีโรคแทรกซ้อนเช่นปอดอักเสบ หูอักเสบ ให้อาหารอ่อนที่มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน ให้ไวตามินเสริมโดยเฉพาะวิตามินเอส่วนการหลักเลี่ยงไม้ให้เกิด ต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย ไม่ควรอยู่ใกล้กับผู้ที่ ไอ จามหรืออาการคล้ายหวัด และแยกผู้ป่วยที่สงสัยว่าเป็นหัดจนถึง4วันหลังผื่นขึ้น การป้องกันวิธีที่ดีที่สุดคือการให้วัคซีนป้องกัน
นายแพทย์สาธารณสุข เผยถึงการแพร่ระบาดว่า โรคหัดแพร่ระบาดได้ง่ายหากไม่ระวังในการสัมผัส ในจังหวัดแพร่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มีก็ไม่ได้มากมายแบบนี้ จะมีก็เป็นรายๆไป แต่ครั้งนี้นับว่าเป็นการแพร่ระบาดคนต่อคนซึ่งนักศึกษาส่วนใหญ่ก็ยังไม่ทราบจึงทำให้ระบาดขึ้นได้ แต่ต้องเร่งสกัดไม่ให้ระบาดออกไปสูชุมนมหากไม่เช่นนั้นจะระบาดไม่หยุด ซึ่งคาดว่าหลังจากที่ประชาสัมพันธ์ออกไปแล้วประชาชนจะเข้าใจและระมัดระวังมากขึ้น และเมื่อประชาชนพบมีอาการตามที่ข้างต้นก็ต้องรับพบแพทย์ใกล้บ้าน โดยส่วนใหญ่โรคหัดจะเกิดขึ้นในเด็กเท่านั้น แต่ครั้งนี้นับว่าแปลกที่เกิดขึ้นกับผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาปี 1 อายุตั้งแต่ 17-19 ปี
ข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1502 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 02 ก.ค. 51
เวลา 19:43:53
|