ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ดีเอสไอ เตือนภัยไร้สาย ระวังมิจฉาชีพล้วงภาพหวิว คลิปฉาว รหัสลับ ไม่รู้ตัว
สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เตือนประชาชน ใช้ไวร์เลส - บลูทูธ ระวังโจรฉกข้อมูลส่วนตัว เผยย่านธุรกิจห้างสรรพสินค้า มีความเสี่ยงสูง ตำรวจตามสืบยาก เพราะระบบสัญญาณไม่สามารถเจาะพิกัด แนะไม่ควรทำธุรกรรมทางการเงิน ในที่สาธารณะจะปลอดภัยที่สุด
พ.ต.ท.พัฒนะ ศุกรสุต พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8 สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 51 ว่า จากการเฝ้าระวังและติดตามพัฒนาการหลอกลวง ของผู้กระทำความผิดทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีไร้สายอย่างโทรศัพท์มือถือ ซึ่งประชาชนใช้กันอย่างแพร่หลาย ทำให้เป็นช่องทางที่ผู้กระทำความผิดใช้หลอกลวงผู้เสียหายได้ โดยที่ผ่านมาปรากฏเป็นข่าวให้เห็นอยู่เสมอ แม้กรมสอบสวนคดีพิเศษ พยายามประกาศเตือนและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ และระมัดระวังตลอดมา แต่สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วงกับการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า"ไร้สาย"
พ.ต.ท.พัฒนะ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเริ่มมีประชาชนใช้โทรศัพท์มือถือ เชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ต หรือใช้สัญญาณไวร์เลสในการเชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ตมากขึ้น ทั้งที่บ้านและในที่สาธารณะ ซึ่งอาจเป็นการเปิดช่องทางให้ผู้กระทำความผิดก่อเหตุได้ง่ายขึ้น เพราะที่ผ่านมามีการโจรกรรมข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตที่เรียกว่า "แฮกเกอร์" แม้จะกระทำผ่านคอมพิวเตอร์บ้านไม่ใช่แบบไร้สาย การติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีก็ยังเป็นเรื่องยาก แต่การใช้ระบบอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย นอกจากจะเปิดโอกาสให้ผู้กระทำความผิดก่อเหตุโดยง่ายแล้ว ยังทำให้การติดตามตัวผู้กระทำความผิด ยิ่งยากลำบากขึ้นด้วย
''การกระทำความผิดที่เคลื่อนที่ได้ การเคลื่อนที่เป็นไร้ทิศทาง อย่างสัญญาณไวร์เลส ซึ่งเป็นสัญญาณวิทยุปัจจุบันสามารถส่งสัญญาณออกไปเป็นรัศมีวงกรม ได้ระยะทางประมาณ 100 เมตร หากมีผู้กระทำความผิดเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถหาจุดศูนย์กลางได้ว่าอยู่ ณ จุดใด เพราะไวร์เลสเป็นเหมือนสัญญาณวิทยุ มีรัศมีเป็นวงกลม ยิ่งล่าสุดผู้ผลิตได้พัฒนาเทคโนโลยีขึ้นไปเรื่อยๆ มีไวร์แม็กที่สามารถส่งสัญญาณได้ไกลกว่าคือ 30-50 กิโลเมตร แถมยังมีตัวเพิ่มสัญญาณได้อีก ดังนั้นการใช้เทคโนโลยี มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ความสามารถในการส่งสัญญาณได้ไกลนี้ เป็นโอกาสของผู้กระทำความผิด ที่จะดักขโมยข้อมูลของเราได้จุดไหนก็ได้ โดยที่เราล่วงรู้ได้ยากมาก และกว่าจะรู้ตัวข้อมูลของเราก็ไปปรากฏอยู่กับผู้อื่น หรือไม่ก็ตกเป็นผู้เสียหายจากการโจรกรรมไปแล้ว'' พ.ต.ท.พัฒนะ กล่าวและว่า
ไม่เพียงแต่ระบบไวร์เลสเท่านั้น โทรศัพท์มือถือ ซึ่งปัจจุบันผู้ขับขี่รถบนท้องถนนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้สมอลทอล์ก หรือ บลูทูธ ในการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างขับขี่ ผู้ที่ใช้สมอลทอล์กคงไม่มีปัญหา แต่หากท่านเป็นผู้ใช้บลูทูธ ขอเตือนว่าท่านอาจเสี่ยงกับการถูกขโมยข้อมูลลับที่อยู่ในโทรศัพท์โดยไม่รู้ตัว และที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่านั้น หากมีการทำธุรกรรมการเงินกับธนาคารผ่านโทรศัพท์ ซึ่งทำได้ทั้งโทรศัพท์บ้านและโทรศัพท์มือถือ ก็อาจถูกมิจฉาชีพใช้เครื่องมือดักจับสัญญาณการสนทนา ระหว่างลูกค้ากับเจ้าหน้าที่ธนาคาร บางครั้งอาจปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารหลอกถามข้อมูลสำคัญ และรหัสผ่านต่างๆ โดยที่ลูกค้าไม่ระแวงสงสัย
ทั้งนี้ แฮกเกอร์จะใช้ย่านธุรกิจ หรือห้างสรรพสินค้าที่มีคนพลุกพล่านเป็นที่ลงมือ โดยใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก และโทรศัพท์มือถือที่เป็นสมาร์ทโฟน มุ่งเป้าประชาชนที่เปิดบลูทูธไว้ โดยจะมีโปรแกรมและเครื่องมือพิเศษ ที่สามารถสแกนหาสัญญาณบลูทูธในรัศมีที่ปัจจุบันไปได้ไกลมากยิ่งขึ้น หากพบสัญญาณ โปรแกรมดังกล่าวจะโชว์หมายเลขโทรศัพท์ และชื่อของเจ้าของเครื่องนั้นๆ แฮกเกอร์จะทดลองเจาะเข้าไปทีละเครื่องโดยการส่ง SMS ด้วยข้อความล่อลวงต่างๆ เพียงเพื่อให้ประชาชนกดปุ่มใดปุ่มหนึ่งบนโทรศัพท์ และไม่ว่าจะเลือกกดปุ่มใดแฮกเกอร์ก็สามารถทำให้เป็นการตอบตกลงตามข้อเสนอ ผลที่ออกมาก็เหมือนเป็นการยืนยันการต่อสัญญาณให้แฮกเกอร์ หลังจากนั้นมันก็จะขโมยข้อมูลทั้งหมด และอาจมุ่งเป้าไปที่การทำธุรกรรมการเงินผ่านโทรศัพท์ เพราะหากทำสำเร็จนั่นหมายความว่าทรัพย์ที่มันจะได้จากการโจรกรรมจะมีมูลค่ามหาศาลทีเดียว
ดังนั้นจึงขอเตือนประชาชน ให้ระมัดระวังในการใช้ระบบสื่อสารไร้สาย ในเรื่องการใช้ไวร์เลสและบลูทูธว่า ท่านไม่ควรเชื่อมต่อกับระบบไวร์เลสกับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโน๊ตบุ๊กที่มีข้อมูลสำคัญๆ หากจะเก็บข้อมูลสำคัญควรเก็บไว้ในที่ๆ แฮกเกอร์เข้าถึงยาก เช่น แฟลชไดร์ เอ็กเทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ ซีดี และควรเข้ารหัสข้อมูลที่สำคัญๆ เป็นต้น ยิ่งนำไปใช้ในที่สาธารณะควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ส่วนกรณีของผู้ที่จำเป็นต้องใช้บลูทูธ แนะนำว่าไม่ควรเก็บข้อมูลที่สำคัญ หรือเป็นความลับไว้ในโทรศัพท์ เมื่อไม่มีความจำเป็นต้องใช้บูลทูธก็ให้ปิดสัญญาณ และหากมีความจำเป็นต้องทำธุรกรรมการเงินกับธนาคาร ก็ไม่ควรจะใช้ในที่สาธารณะก็จะปลอดภัยที่สุด
ติดตามเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี คลิกเลย
ศึกษาและเรียนรู้การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างถูกวิธีได้ที่
ข้อมูลจาก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|