• หนุ่มป.โทเลือดร้อนยิงแท็กซี่ดับคาที่เหตุแค่เฉี่ยวชน |
โพสต์โดย reportter , วันที่ 28 ส.ค. 51 เวลา 18:32:40 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
หนุ่มปริญญาโท ม.ราม เลือดร้อนถอยบีเอ็มฯเฉี่ยวแท็กซี่ จนมีปากเสียงทนไม่ไหวหยิบปืนในรถยิงโชเฟอร์ดับอนาถ เจ้าตัวอ้างเพียงแค่เอาปืนมาขู่แต่กระสุนเกิดลั่นมาเอง
(28ส.ค.) เช้าวันนี้ ร.ต.ท.มนตรี โฆษนาม ร้อยเวรสน.ลาดพร้าว รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิตบริเวณหน้าร้านสวีทโบว์ ซ.นวมินทร์ 4 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและเดินทางไปตรวจสอบด้วยแพทย์เวร เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง ที่เกิดเหตุพบศพนายขจรศักดิ์ ดวงจินา อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 4 ต.มะกอก อ.ป่าสาง จ.ลำพูน สภาพนอนหงายสวมเสื้อยืดโปโลสีขาว กางเกงยีน รองเท้าคัตชูสีน้ำตาล ถุงเท้าสีดำ อยู่ท้ายรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า ลิโม่ สีเขียวเหลือง ทะเบียน มง-3285 กทม. มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด.38 เข้าที่โหนกแก้มข้างซ้าย 1 นัดกระสุนฝังใน
ใกล้กันพบรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่น 318 ไอ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน วณ 3889 กทม.จอดในสภาพมีคราบเลือดเปื้อนที่เปิดประตูด้านคนขับและกระโปรงท้ายรถ
โดยมี นายสิริณทร์ วินิจฉายะจินดา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 รามคำแหง 24 แยก 16 (ศิริมิตร) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.นักศึกษาปริญญาโท คณะบริหาร มหาวิทยาลัยรามคำแหง ยืนรอมอบตัวอยู่ในรถสภาพเสื้อผ้าและเนื้อตัวเปื้อนคราบเลือด เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวออกมาสอบสวน นายสิริณทร์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิ้ลยู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน วณ-3889 กทม. ถอยหลังออกจากลานจอดรถของร้านอาหาร ทำให้รถพุ่งไปเฉี่ยวชนกับรถแท็กซี่ หลังจากนั้นก็ได้ลงจากรถมาดูปรากฏว่ามีรอยเฉี่ยวชนเล็กน้อย แต่ทางผู้ตายต้องการให้เรียกประกันมาชดใช้ค่าเสียหาย จนเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงเป็นเหตุให้ตนไม่พอใจ จึงได้เดินไปหยิบปืนที่อยู่ในรถออกมาเพื่อต้องการจะขู่ให้กลัว แต่ปืนเกิดลั่นไปถูกผู้ตายจนเสียชีวิตดังกล่าว
ด้านนายพณิชพล ไมตรีสันติวงศ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/26 ม.2 ถนนสามวาซอย 5 แขวงบางซ่อน เขตคลองสามวา กทม.พยานผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า มีอาชีพขับรถแท็กซี่ โดยรู้จักกับผู้ตาย
เพราะจะมาจอดรอรับลูกค้าด้วยกันที่ซอยดังกล่าวเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุได้มาจอดรถลูกค้าที่หน้าร้านดังกล่าวและมายืนคุยกันที่บริเวณห่างจากรถของผู้ตายประมาณ 3 เมตร ระหว่างนั้นได้สังเกตเห็นผู้ต้องหาเดินออกมาจากร้านเพื่อขึ้นรถยี่ห้อบีเอ็มฯ จากนั้นได้ถอยรถมาเฉี่ยวชนรถของผู้ตาย “ผู้ตายจึงวิ่งไปทุบกระโปรงท้ายรถของผู้ต้องหาเพื่อบอกสัญญาณให้ทราบว่ารถถอยท้ายมาชนรถของผู้ตายแล้ว ผู้ต้องหาจึงเดินลงมาเคลียร์ โดยบอกว่ามีรอยเฉี่ยวชนเล็กน้อยคงไม่เป็นไร แต่ผู้ตายไม่ยอมต้องการให้เรียกประกันมาชดใช้ค่าเสียหายจึงเกิดการโต้ถียงกัน แต่ไม่ได้รุนแรงเหมือนคนคุยกันธรรมดา แต่จู่ๆ ผู้ต้องหาก็หันเปิดท้ายรถและหยิบอาวุธปืนมาจ่อยิงผู้ตายจนล้มคว่ำ ซึ่งตอนแรกผมไม่คิดว่าจะหยิบปืนออกมาจึงไม่ได้เข้าไปห้ามปราม รู้สึกเสียใจมากเพราะผู้ตายเป็นคนขยันมาก”เพื่อนของผู้ตายกล่าว
ต่อมานางเพชรบูรณ์ นันท์ติ อายุ 50 ปี น้องสาวของผู้ตายพร้อมญาติๆ อีก ประมาณ 3 คนเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุถึงกับร้องห่มร้องหะเข้าไปกอดศพแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ห้ามไว้เนื่องจากเจ้าหน้าที่องพิสูจน์หลักฐานยังไม่ได้เก็บหลักฐาน
นางเพชรบูรณ์ กล่าวทั้งน้ำตา ว่ามีอาชีพค้า ส่วนนายขจรศักดิ์ เป็นพี่ชายและพักอยู่บ้านด้วยกันกับตนและสามีที่ซอยปรีชา 10 ย่านมีนบุรี พี่ชายเป็นคนดียังไม่มีภรรยาและลูก โดยจะขับรถแท็กซี่ตั้งแต่เวลา 20.00-14.00 น.ทุกวันจนสามารถผ่อนรถแท็กซี่คันดังกล่าวหมดได้ประมาณ 2-3 ปี พี่ชายจะเป็นคนรักและถนอมรถมากเพราะสะสมเงินหามาด้วยน้ำพักน้ำแรง ไม่คิดว่าจะมาถูกยิงเสียชีวิตเช่นนี้ ก่อนเดินทางมายังเตรียมอาหารไว้ให้พี่ชายอยู่เลย รู้สึกเสียใจมาก
ร.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า จากการสอบสวนนายสิริณทร์ ทราบว่าไม่ได้ต้องการจะยิงนายขจรศักดิ์ เพียงแค่ต้องการจะนำปืนออกมาขู่แต่ปืนเกิดลั่นกระสุนถูกนายขจรศักดิ์เสียชีวิต
อย่างไรก็ตามจะต้องนำตัวไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งเนื่องจากผู้ต้องหาต้องการติดต่อทนายมาร่วมสอบสวนด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงหลังจากที่นำตัวนายสิริณทร์ ออกมาสอบนายสิริณทร์ มีท่าทางเคร่งเครียดเมื่อสอบถามถึงที่มาของอาวุธปืนก็บอกว่าที่บ้านมีอีก 10 กว่ากระบอก เพราะชอบสะสม และทางบ้านค่อนข้างมีฐานะและมีธุรกิจส่วนตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวนายไปชี้จุดที่ถอยรถมาเฉี่ยวชนรถแท็กซี่ ซึ่งทางนายสิริณทร์ ก็ยอมไปชี้ ซึ่งระหว่างนั้นได้มีทนายของนายสิริณทร์ ติดต่อมาพร้อมบอกว่าอย่าเพิ่งให้การใดๆ ให้รอทนาย นายสิริณทร์ จึงไม่ยอมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ขอเข้าไปกราบไหว้ศพของนายขจรศักดิ์ เจ้าหน้าที่จึงพาไปกราบไหว้ศพก่อนจะนำตัวไปสอบสวนที่สน.ลาดพร้าวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
|
|
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1309 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย reportter
IP: Hide ip
, วันที่ 28 ส.ค. 51
เวลา 18:32:40
|