เรคกูเลเตอร์เคาะค่าเอฟทีงวดใหม่ 14.85 สตางค์ต่อหน่วย ดันค่าไฟฟ้าในบิลอยู่ที่ 3.02 บาท เพิ่มขึ้น 5.17%
ดร.ดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรคกูเลเตอร์) เปิดเผยว่า ที่ประชุมเรคกูเลเตอร์ มีมติเห็นชอบให้คำนวณค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (เอฟที) รอบเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2551 ที่ระดับ 14.85 สตางค์ต่อหน่วย โดยรอบนี้เป็นการคำนวณเพียง 3 เดือน จากเดิม 4 เดือน เพื่อให้สอดคล้องกับรอบปีปฏิทินบันทึกบัญชีของ 3 การไฟฟ้า และค่าเอฟทีในรอบถัดไปจะเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน ซึ่งค่าเอฟทีที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บในใบเสร็จปรับขึ้นมาอยู่ที่ 3.02 บาทต่อหน่วย หรือสูงขึ้นจากงวดก่อนเฉลี่ย 5.17%
อย่างไรก็ตาม ปกติค่าเอฟทีงวดนี้ต้องปรับขึ้น 57.22 สตางค์ต่อหน่วย เพราะราคาก๊าซธรรมชาติปรับขึ้น 23.34 บาทต่อล้านบีทียู แต่เพื่อบรรเทาผลกระทบแก่ประชาชนไม่ให้ค่าไฟฟ้าสูงเกินไป คณะกรรมการฯ จึงนำส่วนต่างการจัดซื้อก๊าซฯ ล่วงหน้า หรือเทคคอร์เพย์ แหล่งก๊าซฯ ยาดานา ในพม่า วงเงิน 3,600 ล้านบาท รวมค่าปรับกรณีแหล่งอาทิตย์ขาดส่งก๊าซฯ มาลดกระทบได้ 12.68 สตางค์ต่อหน่วย และส่วนต่างค่าเอฟทีที่เหลืออีก 29.69 สตางค์ต่อหน่วย หรือราว 10,058 ล้านบาท ให้ กฟผ.นำไปเรียกเก็บในการคำนวณค่าเอฟทีในรอบถัดไป
นายนภดล มัณฑะจิตร กรรมการกำกับกิจการพลังงาน กล่าวว่า การใช้วิธีเกลี่ยต้นทุนค่าเอฟทีนั้น จะทำให้ค่าเอฟทีอีก 3 งวดต่อไปตั้งแต่มกราคม-ธันวาคม 2552 เฉลี่ยอยู่ที่ 14.85 สตางค์ต่อหน่วย อย่างไรก็ตาม ค่าเอฟทีที่จะเก็บจริงในงวดถัดไปจะเป็นเท่าไรนั้น ต้องพิจารณาต้นทุนจริงแต่ละงวด
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก คมชัดลึก