ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ภายหลังพันธมิตรรุ่นสอง นำมหาชนเคลื่อนปิดหน้ารัฐสภา ออกแถลงการณ์ขอความเห็นจากผู้ชุมนุมไปยังรัฐสภา กล่าวหารัฐบาลขายชาติใช้สภาเป็นเครื่องมือรักษาอำนาจ ในการแถลงนโยบาย และแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เคลื่อนขบวนมาปิดล้อมรัฐสภา โดยการใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมนั้น วันนี้เราจะพาไปเกาะติดข่าวพันธมิตรฯ กันค่ะ
รายงานเหตุการณ์กลุ่มพันธมิตรฯ ยึดหน้ารัฐสภา วันที่ 8 ตุลาคม
18.20 น. ศาลอาญานัดฟังคำสั่งเพิกถอนหมายจับ 9 แกนนำพันธมิตร พรุ่งนี้ (9 ตุลาคม)
17.45 น. ส.ต.ต.พีราเชษ ธราปัญจทรัพย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กลุ่มพันธมิตรฯ ขับรถชนระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ระบุเสียใจแต่ไม่เสียกำลังใจ ยันทำหน้าที่โดยไร้อาวุธ
17:23 น. รองนายกรัฐมนตรี "โอฬาร ไชยประวัติ" เผยผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐเอกชน เสนอให้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 14 ตุลาคม เพื่อขับเคลื่อนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ เร่งการส่งออก
17.00 น. สหภาพการท่าเรือ นัดหยุดงานประชุมใหญ่พรุ่งนี้ (9 ตุลาคม) ร่วมการคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ และคัดค้านการแปรรูปกับพันธมิตรฯ
16:53 น. โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุรัฐบาลเสียใจต่อเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (7 ตุลาคม) ยืนยันไม่คิดใช้กำลังสลายการชุมนุม
16.46 น. แพทย์นิติเวช โรงยาบาลรามาธิบดี แถลงเหตุนางสาวอังขณา ระดับปัญญาวุฒิ เสียชีวิตเพราะถูกของแข็งที่มีความร้อนด้วยความเร็วพุ่งใส่ มีความเป็นได้ที่จะเป็นระเบิด แต่ไม่พบเศษโลหะติดที่แผล ระบุเป็นไปได้เป็นระเบิดปิงปอง
16.30 น. พันธมิตรฯ เชิญชวนประชาชนแต่งชุดดำ รวมตัวประท้วงการใช้ความรุนแรง ในวันที่ 9 ตุลาคม เวลา 9.00 น. ณ อนุสาวรีย์ 2 รัชกาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
16.12 น. สนธิ ลิ้มทองกุล เล็งพึ่งศาลอาชญากรระหว่างประเทศ ยื่นฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี หลังใช้กำลังตำรวจสลายการชุมนุม
16.10 น. พรรคประชาธิปัตย์ตั้งโต๊ะอัดซ้ำ ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา ไร้มาตรฐาน
15.00 น. กระทรวงสาธารณสุขสรุปยอดผู้เสียชีวิต 2 บาดเจ็บ443 สูญเสียอวัยวะ 8 ราย
14.25 น. แพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ งัดมาตรการงดตรวจรักษาตำรวจ เหตุทำร้ายประชาชน
13.33 น. โฆษกกลุ่มพันธมิตรฯ นำผู้ชุมนุมยืนสงบนิ่งไว้อาลัย 2 แนวร่วม ที่เสียชีวิตจากเหตุตำรวจสลายการชุมนุม
13.24 น. โรงพยาบาลรามาธิบดี สรุปเจ็บ 76 ราย สูญเสียเท้า-มือ-ตา รวม 5 ราย
13.07 น. หนังสือพิมพ์มาเลเซีย นำข่าวตำรวจสลายกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ กรุงเทพ พาดหัวใหญ่วันนี้ ขณะที่ประชาชนแห่ซื้อหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ เกาะติดสถานการณ์
12.59 น. ประธานสหภาพการไฟฟ้านครหลวง ยันไม่ใช่มาตรการตัดไฟกดดันรัฐบาล ชี้ตำรวจสลายม็อบพันธมิตรฯ รุนแรงเกินกว่าเหตุ และไม่เห็นด้วยผู้ชุมนุมขวางเปิดสภาแถลงนโยบาย
12.42 น. นายกรัฐมนตรีเข้าเยี่ยมอาการกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับตำรวจ ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ พร้อมแจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะไม่เข้าใจกัน
12.27 น. รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่เชี่ยวชาญการใช้อาวุธ สาธิตการใช้งาน พร้อมยืนยันอาวุธควบคุมฝูงชนเป็นเพียงแก๊สน้ำตา และแก๊สนำตาชนิดขว้าง ส่วนผู้ชุมนุมที่ขาขาดจะต้องมีการตรวจสอบ
12.06 น. ทายความกลุ่มพันธมิตรฯ นำคนเจ็บพร้อมหลักฐานตำรวจสลายการชุมนุม เดินหน้าร้องศาลปกครองรัฐบาลทำเกินกว่าเหตุ
11.58 น. ผกก.สน.ดุสิต เผย ศพนรินาม ข้างรถจิ๊ปเชโรกี เป็นอดีตตำรวจยศ พ.ต.ท. ผันตัวเองเป็นแกนนำพันธมิตรฯ ศรีสะเกษ
11.55 น. นายกฯ ยืนยันเหตุความรุนแรงวานนี้ (7 ตุลาคม) เป็นการทำงานบนพื้นฐานความจำเป็นของเจ้าหน้าที่ เพราะผู้ชุมนุมมีอาวุธ
11.23 น. พันธมิตรฯ แถลงประณามกล่าวหารัฐบาลสมชายกระหายเลือด หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ เตรียมตั้งคณะกรรมการญาติวีรชนยื่นฟ้องหาตัวคนผิด
11.16 น. รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ ผู้บาดเจ็บเหตุสลายการชุมนุม สรุปยอดผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 443 ราย นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 82 ราย
10.58 น. ประธานวุฒิสภา แสงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้ที่เสียชิวิต และบาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม พร้อมหนุน หมอประเวศ เจรจากับพันธมิตร
10.56 น. เครือข่ายพันธมิตรฯ นครสวรรค์และจังหวัดใกล้เคียง เตรียมเดินทางเข้าสมทบผู้ชุมนุมกรุงเทพเที่ยงนี้อีก ก่อนขนอาหารและน้ำดื่มร่วมจำนวนหนึ่ง
10.52 น. นายกรัฐมนตรีเข้าเยี่ยมอาการเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ ร.พ.ตำรวจหลังรีบเดินทางออกจากกระทรวงต่างประเทศ หวั่นม็อบบุก
10.35 น. ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาญจนบุรี ตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ พร้อมสั่งเตรียมกำลังพลเดินทางเข้ากรุงเทพ 24 ชั่วโมง
10.35 น. ญาติผู้บาดเจ็บจากเหตุสลายการชุมนุม ทยอยเข้าเยี่ยมผู้ป่วย ส่วน นักข่าว จส.100 ที่ได้รับบาดเจ็บ ระบุ รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
10.23 น. พล.ต.ต.อำนวย ยัน การสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ ตำรวจใช้เพียงแก๊สน้ำตา ส่วนภาพข่าวตำรวจยืนถือระเบิด นั้นแจงเป็นแก๊สน้ำตาชนิดขว้าง
09.53 น. กลุ่มพันธมิตรจ.สงขลา ยังคงปักหลักชุมนุมหน้าสถานีรถไฟอย่างสงบ โดยส่งตัวแทนร่วมสมทบพันธมิตรที่กรุงเทพอย่างต่อเนื่อง
09.46 น. กระสุนปริศนา ยิงใส่ รถยนต์ตำรวจ กระจกทะลุ หลังขับรถวนไปส่งเสบียงให้เจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติหน้าที่
08.31 น. ผอ.วชิรพยาบาล เตือน ผู้ปกครองอย่านำเด็กเข้าร่วมชุมนุม หวั่น ได้รับอันตราย หากมีการสลายการชุมนุมและใช้แก๊สน้ำตาหลังพบ มีเด็กเข้ารับการรักษาด้วย
08.30 น. บิดา เหยื่อตุลาเลือด ตัดสินใจ ไม่นำศพบุตรสาว ไปทำพิธีรดน้ำศพในทำเนียบรัฐบาล ตามประสงค์ของพันธมิตรฯ เย็นวันนี้
07.50 น. ตำรวจนครบาลนับ 100 นาย พร้อมโล่ห์ กระบอง ยังตรึงกำลังเข้ม หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล ถนนศรีอยุธยา ประจัญหน้ากลุ่มพันธมิตรฯ
07.47 น. รองผบช.น."อำนวย" แฉ ผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ พกอาวุธเข้าชุมนุม พร้อมฝากให้ยอมรับความจริง ขณะที่ ยอดผู้บาดเจ็บพุ่งเกือบ 400 ราย
07.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมาก รายล้อมรักษาความปลอดภัย บริเวณบ้านพักนายกรัฐมนตรี ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ายังพักอาศัยอยู่ภายในหรือไม่
07.44 น. พบระเบิด ข้างประตูประสาทเทวฤทธิ์ ถ.ราชวิถี ยังไม่ทราบชนิดตกอยู่ รอเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
07.26 น. ผอ.ศูนย์นเรนทร เผย มีผู้บาดเจ็บจากเหตุสลายการชุมนุม นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 73 ราย
06.55 น. ตำรวจนครบาล วอน ประชาชนใช้วิจารณญาณ ภาพการสลายการชุมนุมด้วย ยัน เจรจาแกนนำก่อนสลายแล้วแต่ไม่เป็นผล
05.47 น. แกนนำกลุ่ม พธม. ที่ทำเนียบรัฐบาลยังขึ้นเวทีกล่าวโจมตีการใช้กำลัง และอาวุธเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุมตลอดคืน ขณะที่ ทหาร มทบ.11 จำนวน 2 กองร้อย กลับสู่ที่ตั้งแล้ว หลังความรุนแรงคลี่คลายลง
05.42 น. ตร.ปราบจลาจล 2 กองร้อย ยังคงวางแนวป้องกันอยู่หน้า บชน. เพื่อรักษาพื้นที่ แม้กลุ่มพันธมิตรจะเคลื่อนขบวนกลับทำเนียบรัฐบาลแล้วก็ตาม
04.54 น. แนวร่วมพันธมิตรฯ ประชาชน เพื่อประชาธิปไตยจากต่างจังหวัด ทยอยเดินทางเข้าสมทบหน้าทำเนียบรัฐบาลอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการตรวจเข้มของการ์ด
03.51 น. บรรดาโฆษกบนเวทีพันธมิตร เดินหน้าปราศรัยโจมตีรัฐบาล พร้อมเร่งปลุกให้ประชาชนตื่นตัวก่อนเช้า หวั่น โดยสลายการชุมนุม
รูปภาพเหตุปะทะกันหน้า บช.น. ทำให้รองสวป.สน.เตาปูน ถูกขับรถชน และถอยกลับมาทับอีก จนขาหัก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 ตุลาคม และมีตำรวจที่รักษาการหน้ารัฐสภา ถูกยิงเจ็บ 4 นาย
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม น.พ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ ศูนย์นเรนทร บอกว่า ขณะนี้จำนวนผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะกัน เพื่อเข้าสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ด้านอาคารรัฐสภา โดยใช้แก๊สน้ำตา มีทั้งสิ้น 162 คน และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล 63 คน ได้แก่ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลพระมงกุฏ
นอกจากนี้ ศูนย์นเรนทร ได้สั่งเตรียมความพร้อมทีมแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาล 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลสมุทรปราการ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โรงพยาบาลฉะเชิงเทรา และโรงพยาบาลปทุมธานี เพื่อเสริมกำลังหน่วยกู้ชีพเอราวัณ และให้โรงพยาบาลราชวิถีสำรองเตียงและห้องฉุกเฉิน ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บขาขาด เบื้องต้นมีรายงานว่า คือ นายปัญญา พูลแก้ว ขณะเดียวกันสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บบริเวณแผ่นหลัง คือ นายกิตตินนท์ แก่นสาร ผู้สื่อข่าว จส.100
ด้านนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ประกาศชัดเจนว่า วันนี้ถือเป็นวันได้เสียของการประกาศสงครามครั้งสุดท้าย เนื่องจากรัฐบาลขาดความชอบธรรมอย่างสิ้นเชิง โดยกลุ่มพันธมิตรฯ พร้อมแสดงพลังด้วยการหยุดงานและตัดน้ำตัดไฟส่วนราชการ
น.พ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ ศูนย์นเรนทร บอกว่า ขณะนี้จำนวนผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะกัน เพื่อเข้าสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ด้านอาคารรัฐสภา โดยใช้แก๊สน้ำตา มีทั้งสิ้น 162 คน และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล 63 คน ได้แก่ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลพระมงกุฏ นอกจากนี้ ศูนย์นเรนทร ได้สั่งเตรียมความพร้อมทีมแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาล 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลสมุทรปราการ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โรงพยาบาลฉะเชิงเทรา และโรงพยาบาลปทุมธานี เพื่อเสริมกำลังหน่วยกู้ชีพเอราวัณ และให้โรงพยาบาลราชวิถีสำรองเตียงและห้องฉุกเฉิน ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่
ด้านนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ประกาศชัดเจนว่า จะไม่มีการเจรจากับรัฐบาลอย่างแน่นอน
น.พ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ ศูนย์นเรนทร บอกว่า ขณะนี้จำนวนผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะกัน เพื่อเข้าสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ด้านอาคารรัฐสภา โดยใช้แก๊สน้ำตา มีทั้งสิ้น 162 คน และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล 63 คน ได้แก่ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลพระมงกุฏ นอกจากนี้ ศูนย์นเรนทร ได้สั่งเตรียมความพร้อมทีมแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาล 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลสมุทรปราการ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โรงพยาบาลฉะเชิงเทรา และโรงพยาบาลปทุมธานี เพื่อเสริมกำลังหน่วยกู้ชีพเอราวัณ และให้โรงพยาบาลราชวิถีสำรองเตียงและห้องฉุกเฉิน ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ ด้านนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ประกาศชัดเจนว่า จะไม่มีการเจรจากับรัฐบาลอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 15.45 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณหน้าพรรคชาติไทย โดยจุดที่ระเบิดเป็นรถจี๊ปเชโรกี ทะเบียน พต 4755 กทม. ซึ่งรถดังกล่าวเป็นของผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ โดยตัวรถฉีกขาดทั้งหมด และมีผู้หญิงเสียชีวิตคาที่อยู่ข้างรถ ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตุว่า น่าจะมีการนำระเบิดไว้ในรถ และกดจุดชนวนด้วยรีโมทคอนโทรล โดยหน่วยผู้สื่อข่าวรายงานว่าแพทย์จากวชิรพยาบาลมาถึงที่เกิดเหตุแล้ว แต่ยังไม่สามารถเข้าไปยังบริเวณรถได้ เนื่องจากมีเพลิงลุกไหม้รุนแรงตลอดเวลา และเกรงว่าจะมีระเบิดซ้ำสอง ขณะที่รถกระบะและรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหายหลายคัน
จากนั้นได้มีเปลวไฟระเบิดทั่วคันรถ โดย มีการระเบิดเป็นระยะ มีรถดับเพลิงของ กทม.2 ค้นเข้าฉีดน้ำดับเพลิงไเรีบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่กำลังเข้าไปเก็บกู้ และดูซากรถ เนื่องจากจุดที่ไหม้ ไฟได้ลุกลามขึ้นบริเวณบริเวณสายไฟฟ้าที่อยุ่ด้านบน ทำให้สายไฟไหม้บางส่วน
รายงานเหตุการณ์กลุ่มพันธมิตรฯ ยึดหน้ารัฐสภา ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 7 ตุลาคม
วันที่ 7 ตุลาคม
22:34 น. บช.น.ตึงเครียดยิงแก๊สน้ำตาอีกนับ 10 ลูกใส่ผู้ชุมนุม
22.21 น. กลุ่มพันธมิตร ฮือปิดล้อมรถถ่ายทอดสดช่อง 3 หลังเข้าใจผิดว่ารายงานข่าวไม่เป็นความจริง จนหวิดวางมวย "กมลพร วรกุล " พิธีกรสาวต้องเข้าเคลียร์ เรื่องจึงยุติ
22:20 น. ผอ.รพ.รามาธิบดี ห่วงห้องผ่าตัดมีไม่พอรองรับคนเจ็บ
21.33 น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยิงได้รับบาดเจ็บภายในอาคารรัฐสภาว่า จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนอัตโนมัติ และตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นปืนที่ถูกขโมยไปที่ทำเนียบรัฐบาล นอกจากนี้ ยังได้วิงวอนให้ผู้ชุมนุมพันธมิตรยุติการเคลื่อนไหว เพราะขณะนี้เป็นเวลากลางคืน เพราะมือที่ 3 อาจเข้ามาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายได้ พร้อมกันนี้จะไม่ยอมให้กลุ่มผู้ชุมนุมบุกยึดกองบัญชาการตำรวจนครบาลเด็ดขาด เนื่องจากเป็นสถานที่ราชการ และเป็นกองบัญชาการตำรวจทั่วกรุงเทพมหานคร จึงต้องรักษาไว้อย่างเต็มที่
21.20 น. นายก อบจ.พิจิตร ชี้ผู้แทนราษฎรเปิดประชุมสภาไม่สง่างามเดินเหยียบคราบเลือดและน้ำตาของประชาชนเข้าประชุม
21.18 น. สรุปหลังปะทะเดือดระหว่างตำรวจกับกลุ่มพันธมิตรพบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย เจ็บอีก 225 ราย กระจายเข้ารักษาโรงพยาบาลหลายแห่ง
20.56 น. ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บที่ โรงพยาบาลวชิรพยาบล พุ่งถึง 143 ราย มีตำรวจสาหัส 3 ราย (ไม่รวมที่โรงพยาบาลอื่นๆ)
20.50 น. ตำรวจคิดเอง เหตุเจ้าหน้าที่ถูกยิง อาจเป็นฝีมือพันธมิตร หลังวิเคราะห์กระสุนที่ใช้ยิง เป็นอาวุธปืนที่หายไปจากทำเนียบ
20.50 น. พันธมิตร หน้ารัฐสภา ล่าถอยไปสมทบที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว ทิ้งไว้เพียงขยะเกลื่อนกลาด พร้อมเศษซากรถที่ถูกทำลาย
20.30 น. กลุ่ม 40 ส.ว.ร่วมกันแถลงที่โรงแรมปริ๊นเซส โดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. กล่าวว่า ขอตั้งคำถามกับรัฐบาลว่า ทำไมยิงแก๊สน้ำตาและยิงระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งที่ ส.ส. ส.ว.ออกมาจากรัฐสภาแล้ว ถือว่าจงใจฆ่าประชาชน ทำให้วิกฤตลุกลาม นายกฯต้องรับผิดชอบ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกเพื่อยุติความวุ่นวายที่เกิดขึ้น รัฐบาลเข้าและออกสภาด้วยรอยเลือด ขัดกับนโยบายที่รัฐบาลแถลง และรัฐบาลต้องสอบสวนเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่ใช้ความรุนแรงด้วย ทั้งนี้กลุ่ม ส.ว.จะตั้งวอร์รูมที่โรงแรมปริ๊นเซสหลานหลวงอีกครั้งในวันที่ 8 ตุลาคม
20.25 น. นายกฯ แต่งตั้ง ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ปูดทันที คืนนี้อาจมีการวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่า หากสามารถผ่านพ้นคืนนี้ไปได้ สถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
20.18 น. ทหารตรึงกำลังเข้มหน้ากองทัพบก และแยก จปร. รอเสริมทัพตำรวจ หากคืนนี้สถานการณ์ชุมนุมบานปลาย
20.02 น. บรรยากาศเหตุการณ์ปะทะกันระหว่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตร บริเวณแยกถนนศรีอยุธยา ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วม 100 นาย คอยสกัดกั้นหลังรั้วลวดหนาม บริเวณถนนที่มุ่งหน้ามาสู่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งด้านตรงข้ามมีกลุ่มพันธมิตรจำนวนประมาณ 200 คน คอยตะโกนขับไล่เป็นระยะๆ นอกจากนี้ มีกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พันธมิตร ที่นำผ้าปิดพรางใบหน้า และนำเครื่องขยายเสียงมาปราศรัยโจมตี
เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นระยะๆ ด้วย
19.53 น. ราษฎรอาวุโส "น.พ.เสม พริ้งพวงแก้ว" เผย ตกใจภาพสลายชุมนุม พร้อมส่งกำลังใจแพทย์ พยาบาลไม่ทิ้งคนเจ็บ
19.42 น. ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุ การยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมของตำรวจ เป็นการป้องกันตัวเองตามสถานการณ์พร้อมยืนยัน แก๊สน้ำตาไม่ทำอันตรายถึงกับทำให้ใครขาขาด
19.39 น. สวนสัตว์ดุสิตเกรงผลกระทบการสลายการชุมนุมย้ายสัตว์หนี เนื่องจากสัตว์บางชนิดอาจตกใจเสียงการยิงระเบิดแก๊สน้ำตา จนวิ่งชนกรงบาดเจ็บหรือล้มตาย
19.28 น. ตำรวจและผู้ชุมนุมกว่าร้อยนายตรึงกำลังที่ ถ.ศรีอยุธยา หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล
19.25 น. สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรง และใช้สติแก้ปัญหาทางออกอย่างสันติ เตือนนักข่าวปฏิบัติหน้าที่อย่างระมัดระวัง
19.06 น. ลำเลียงเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย ที่ถูกกลุ่มพันธมิตรฯ มาที่โรงพยาบาล ขณะผู้ชุมนุมขับรถกระบะเข้าชนรองสารวัตร ที่แยกอู่ทองใน
18.57 น. พันธมิตรยกทัพจากรัฐสภา กลับเข้าทำเนียบแล้ว หวั่นมือที่สามสร้างสถานการณ์ พร้อมประณามรัฐบาล เป็นสภาเลือดแถลงนโยบายท่ามกลางการสลายม็อบ
18.55 น. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา-สวนดุสิต ประกาศหยุดการเรียนการสอนวันพรุ่งนี้ ซึ่งรวมทั้งโรงเรียนสาธิตด้วย ระบุ รอดูสถาการณ์การเมืองก่อน
18.52 น. โฆษกกระทรวงต่างประเทศ ยืนยัน สถานการณ์ความรุนแรงในประเทศขณะนี้ ยังไม่จำเป็นต้องเชิญเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย มาทำความเข้าใจ
18.50 น. ภายหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯ ได้ไปรวมตัวกันบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ทำให้ตำรวจที่เข้าประจำการณ์อยู่บริเวณหน้า บช.น. ได้ตัดสินใจ ใช้แก๊สน้ำตายิงเข้าใส่ฝูงชนเป็นระยะๆ จนกลุ่มผู้ชุมนุม ต้องถอยร่นไปจนถึงบริเวณหน้าวัดเบญจมบพิตร ขณะเดียวกันรถพยาบาลจำนวนมาก วิ่งเข้าไปในที่เกิดเหตุ และนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว โดยการยิงแก๊สน้ำตาครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ของการสลายการชุมนุมวันนี้ และมีรายงานว่ามีผู้ชุมนุมขาขาด 4 คน
18.38 น. กองทัพภาคที่ 1 ส่งทหารเสนารักษ์ เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุสลายม็อบพันธมิตร ขณะโฆษกกองทัพบกยืนยัน ทหารไม่ได้เลือกข้าง
18.30 น. สหภาพแรงงาน การท่าเรือ นัดหยุดงานอีกรอบ 9 ต.ค.นี้ หลังไม่พอใจภาครัฐใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมพันธมิตร
18.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประสานรถพยาบาล เพื่อเข้ามารับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ที่ถูกยิงบาดเจ็บ จากการสาดกระสุนใส่ของกลุ่มพันธมิตรฯ แต่จนถึงขณะนี้ รถพยาบาล ก็ยังไม่สามารถเข้าไปในอาคารรัฐสภาได้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจรายแรก ที่ได้รับบาดเจ็บ จากการถูกยิงเข้าบริเวณไหปลาร้าด้านขวา มีการใช้มีดผ่าลูกกระสุนออก ซึ่งล่าสุด อาการปลอดภัยแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกนายหนึ่ง ที่ถูกยิงบริเวณราวนมด้านขวา ยังอยู่ในอาการอันตราย ซึ่งหน่วยพยาบาล กำลังเร่งปฐมพยาบาล และประสานรถพยาบาล ให้เข้ารับตัว
18.00 น. พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน และเพื่อนร่วมรุ่น จปร.7 กับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร เผยว่าเหตุการณ์กลุ่มพันธมิตรฯ ปะทะตำรวจเป็นแผนของ พล.ต.จำลอง เตรียมไว้แล้ว เมื่อ พล.ต.จำลอง ถูกจับ ก็ให้คนเข้ามาในกรุงเทพฯ และเข้ามายึดรัฐสภา โดยพยายามสร้างสถานการณ์ให้เหมือนเหตุพฤษภาทมิฬ คือ เมื่อ พล.ต.จำลอง ถูกจับ สถานการณ์ก็รุนแรงขึ้น แต่ขณะนี้ไม่มีคนนำ ทำให้เหตุการณ์ไม่จบแบบนั้น สมัยนั้นมีตนและ พล.ท.พิรัช สวามิวัศดิ์ เพื่อนร่วมรุ่นเล่นด้วยเป็นผู้นำ แต่วันนี้ไม่มีคนทำต่อเนื่องทำแล้วหยุด
17.50 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เผยจะปฏิบัติภารกิจในการเยือนประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนต่อไป ส่วนสำหรับข้อเรียกร้องให้ลาออก หรือ ยุบสภานั้น นายสมชาย กล่าวว่า จะพิจารณาตามความเหมาะสม แต่ตราบใดที่อยู่ในหน้าที่ จะไม่ชะลอการทำงาน
17.43 น. ตำรวจยิงแก๊สน้ำตา กลุ่มพันธมิตรกระเจิงวิ่งเข้าสวนสัตว์ดุสิต ซึ่งมีทหารราบ ร.1 พัน 2 รอ. พร้อมทีมแพทย์ฉุกเฉินเข้ารักษา โดยมีเด็ก 5 ขวบได้รับบาดเจ็บหัวแตก ซึ่งได้ส่งไปรักษาตัวโรงพยาบาลแล้ว
17.39 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีแถลงที่กองบัญชาการกองทัพไทยว่ายังไม่เห็นใบลาออกของ พล.อ.เชาวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี แต่ขณะนี้เป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้นที่สภาฯ โดยประสานกับฝ่ายที่มีหน้าที่ดูแล แต่ไม่ใช่รัฐบาลจะแก้ไขฝ่ายเดียวได้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีความคิดจะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นครั้งที่ 2
17.25 น. ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประจำวันอังคารที่ 7 ตุลาคม 2551 ปิดที่ 528.71 จุด ลดลง 23.09 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น 16,313.39 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีราคาปิดเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 28 หลักทรัพย์ ลดลง 369 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 49 หลักทรัพย์
17.05 น. ที่ด้านหน้ารัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมอยู่บริเวณประตูรัฐสภา ให้ถอยร่นไปจนถึงลานพระบรมรูปทรงม้า ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเปิดประตูรัฐสภาได้แล้ว เพื่อเปิดทางให้ข้าราชการ ผู้สื่อข่าว รวมถึง ส.ส. และส.ว. ที่ติดค้างอยู่ภายใน ทยอยกันออกไปด้านนอก
17.00 น. ศาลอาญา รัชดาภิเษก สั่งยกคำร้องกรณีที่ทนายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นคำร้องขอให้ศาลปล่อยตัวชั่วคราว พล.ต.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ผู้ต้องหาในความผิดฐานเป็นกบฏ โดยทนายอ้างการจับกุมของพนักงานสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย
16.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่ หน้ามหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระดมยิงอย่างต่อเนื่องทำให้กลุ่มพันธมิตรถอยร่นมาจนถึงหน้าประตูสภาฝั่งถนนราชวิถีแล้ว
16.42 น. นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ได้ปีนรั้วสภาออกไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากมีอายุมากแล้ว โดยเจ้าหน้าที่พยายามประคองอุ้มนายชัยออกไปอย่างทุลักทุเล
16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่ หน้ามหาวิทยาลัยสวนดุสิต จำนวนหลายสิบลูก พร้อมทั้งตั้งแถวเรียงหน้ากระดาน ใช้กระบองเคาะโล่เสียงดังเป็นการทำลายขวัญขณะเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุมถอยร่นไปตั้งหลักที่สี่แยกการเรือน สมาคมนักหนังสือพิมพ์แล้ว
15.47 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณหน้าพรรคชาติไทย โดยจุดที่ระเบิดเป็นรถจี๊ปเชโรกี ทะเบียน พต 4755 กทม. ซึ่งรถดังกล่าวเป็นของผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ โดยตัวรถฉีกขาดทั้งหมด และมีผู้หญิงเสียชีวิตคาที่อยู่ข้างรถ
15.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เรียกผู้บัญชาการเหล่าทัพ ประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยนั่งเฮลิคอปเตอร์ตำรวจมาที่กองทัพไทย
15.00 น. ดต.ทวีป กลั่นเนียม สังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 จ.นครสวรรค์ ซึ่งถูกผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไล่ใช้ด้ามธงปลายแหลมแทงเข้าที่ซี่โครงทะลุปอด พ้นขีดอันตรายแล้ว ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
15.00 น. กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยึดรถกระบะเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคันนำมาปิด ถ.นครราชสีมา หน้า ม.สวนดุสิต พร้อมทั้งขนยางรถยนต์สกัดแนวกั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรงทางแยกขึ้นสะพานซังฮี้ จำนวนหลายกองร้อย
14.07 น. ด่วน! พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ลาออก จากรองนายกฯ แล้ว
14.05 น. หมดสภาพ! สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ออกจากสภาแล้ว โดยปีนรั้วออกมาพร้อมผู้ติดตาม พร้อมกับเรียกถก ผบ.ทัพบก
13.42 น. เสธหมึก คนสนิท พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เดินทางเข้ายื่นประกันตัว พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ต่อศาล มั่นใจจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
13.28 น. โรงพยาบาลวชิระเผยผู้ป่วยเพิ่มเป็น 56 ราย ตัดขาทิ้ง 1 คน อาการน่าห่วง ด้าน "พรทิพย์" ชี้เป็นเพราะ" ระเบิด" แน่นอน
13.04 น. หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เสียใจกับเหตุการสลายกลุ่มผู้ชุมนุม เชื่อรัฐบาลทำงานลำบากแต่ไม่ถึงขั้นยุบสภา
13.00 น. การะประชุมแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อสภาได้สิ้นสุดแล้ว นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ได้ปิดการประชุมแล้ว ขณะที่ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ยังไม่สามารถออกจากอาคารรัฐสภาได้
12.59 น. ตำรวจเจ็บ 2 ปะทะกลุ่มพันธมิตรฯ หน้ารัฐสภา ซึ่งตำรวจ 1 ใน 2 นี้ โดนด้ามธงเสียบท้องทะลุหลังด้วย ขณะนี้ถูกส่งที่โรงพยาบาลพระมงกุฏฯ แล้ว
12.25 น. ส.ส. พปช. ออกแถลงการณ์ประนามพันธมิตรฯ ได้กระทำความผิด ม.28 เป็นปรปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชนบุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญรองรับไว้ นอกจากนี้กลุ่มพันธมิตรฯ กระทำความผิด ม.112 และ 116 เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาลโดยใช้กำลังข่มขืนประทุษร้าย เพื่อให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อให้เกิดความปั่นป่วนในราชอาณาจักรหรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี
12.20 น. "อภิสิทธิ์" อัด "นายกรัฐมนตรี" ไร้เกียรติ ไม่จริงใจ ไม่ทำตามที่ตกลงไว้ สภาทนายความออกแถลงการณ์ให้ตำรวจยุติการใช้ความรุนแรง
12.05 น. กลุ่มพันธมิตรฯ ได้เข้าปิดล้อมอาคารรัฐสภาอีกครั้ง หลังจากที่ถูกสลายการชุมนุมเมื่อเช้านี้ โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูฝั่ง ถ.ราชวิถี จากนั้นพันธมิตรได้ใช้แผงเหล็กกั้นแล้วนำโซ่มาล่ามประตูและล็อคกุญแจหลายชั้นเพื่อไม่ให้ ส.ส.และส.ว.ที่อยู่ภายในอาคารออกมาได้
12.00 น. กลุ่มพันธมิตรฯ ได้ระดมปาขวดน้ำบรรจุน้ำปัสสาวะเต็มขวดข้ามเข้ามาในรั้วสภา และอีกส่วนหนึ่งกำลังช่วยกันพลิกคว่ำรถกรงขังของตำรวจ
11.59 น. พันธมิตรฯ กลับมายึดพื้นที่ถนนอู่ทองในตัดกับถนนราชวิถีได้แล้ว หลังถูกสลายกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อเช้าวันที่ 7 ตุลาคมโดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ผลักดันกำลังตำรวจได้สำเร็จ เนื่องจากกำลังตำรวจเพียง 2 พันนายไม่สามารถต้านการบุกของกำลังพันธมิตรได้
11.25 น. ผบ.ทบ. เรียกประชุม 5 เสือ ทบ. ติดตามและประเมิณสถานการณ์ความวุ่นวาย ขณะ พล.อ.ปฐมพงษ์ ดอดเข้าพบพล.อ.เปรม ที่บ้าน สี่เสาเทเวศร์
11.00 น. ตำรวจได้เสริมกำลังควบคุมสถานการณ์บริเวณรอบนอกรัฐสภา โดยเฉพาะถนนพิชัย ที่เป็นทางเดียวที่เปิดให้ ส.ส. และคณะรัฐมนตรีเข้าไปแถลงนโยบายในรัฐสภา ด้านพันธมิตรฯ ฮึดสู้โดนแก๊สน้ำตาเพิ่มอีก 2 เม็ด ด้านแกนนำพันธมิตรฯ เรียกร้องคุณหญิงหมอตรวจสอบอาวุธที่ใช้ในการสลายการชุมนุม
10.58 น. นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ได้ประกาศนับองค์ประชุมอีกครั้ง พบว่ามีสมาชิกรัฐสภาร่วมประชุมจำนวน 320 คน ซึ่งถือว่าครบองค์ประชุมแล้ว จากนั้นได้มีการลงคะแนนให้เริ่มการแถลงนโยบายของรัฐ ปรากฎว่า มีสมาชิกรัฐสภาเห็นด้วยจำนวน 320 คน จึงสามารถเปิดประชุมแถลงนโยบายของรัฐบาลได้ ขณะนี้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เริ่มแถลงนโนบายรัฐบาลแล้ว
10.54 น. บชน. ยิงแก๊สน้ำตา ม็อบลานพระรูปอีก ขณะที่ม็อบหนีกระเจิง อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯ ได้ล้อมสภาทุกจุดแล้ว
10.40 น. การประชุมรัฐสภานายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ได้ให้สมาชิกรัฐบาลกดบัตรแสดงตน เพื่อนับองค์ประชุมก่อนที่จะแถลงนโยบายรัฐบาล ปรากฎว่ามีสมาชิกรัฐสภาเข้าประชุมจำนวน 320 คน ซึ่งถือว่าครบองค์ประชุมแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อให้มีการลงคะแนนเพื่อดำเนินการแถลงนโยบายของรัฐสภา สมาชิกรัฐสภาจำนวน 307 คนเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย 2 คน และไม่ลงคะแนน 5 คน
10.10 น. มติพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ร่วมประชุมสภา เผยรับได้รัฐใช้ตำรวจสลายม็อบ - ระงับถก 4 ฝ่าย
09.47 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มาถึงสภาแล้ว ไม่พูดอะไร เอาแต่ยิ้ม
09.43 น. วชิระ แถลงแก๊สน้ำตา ทำขาขาดไม่ได้ ยะนเหยื่อโดนระเบิด - สภาเลื่อนประชุมไปอีก 1 ชั่วโมง
09.27 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ออกจากบ้านพัก คาดว่าจะเดินทางมาที่รัฐสภา
09.00 น. ที่โรงแรมใกล้ๆ รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ได้พยายามติดต่อประธานวุฒิสภาว่ามีวิกฤตขอให้ทบทวนการประชุมและเลื่อนไปอีก 1-2 วัน ดีกว่าพยายามอ้างทำหน้าที่แล้วขู่สลายการชุมนุม
08.30 น. เกิดเหตุไฟดับภายในอาคารรัฐสภา โดยมีกระแสข่าวว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ตัดสายไฟบริเวณด้านนอกรัฐสภา ทำให้บริเวณภายในรัฐภาไฟดับบางส่วน อย่างไรก็ตาม ภายในอาคารรัฐสภาได้ใช้ไฟสำรองจากเครื่องปั่นไฟแทน ซึ่งไฟฟ้าสำรองดังกล่าวจะสามารถใช้ได้เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
08.25 น. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวปราศรัยบนเวทีทำเนียบรัฐบาล กล่าวเรียกร้องให้แรงงานรัฐวิสาหกิจหยุดงานในวันนี้ เพื่อออกมาร่วมชุมนุมกันที่หน้ารัฐบาลให้มากที่สุด เพราะวันนี้เป็นสงครามครั้งสุดท้ายจริงๆ แล้ว ทั้งนี้ ขอให้ผู้ชุมนุมรวมตัวกันเดินทางไปยังแยกพิชัยให้มากที่สุด เพื่อปิดกั้นเส้นทางของ ส.ส.ที่จะเข้าบริเวณประตูปราสาทเทวฤทธิ์ ด้านข้างรัฐสภา ถ.ราชวิถี
06.15 น. กำลัง ปจ. 12 กองร้อย เข้าปฏิบัติการตามแผน โดยนำกำลังเข้าทางด้านถนนราชวิถีแยกการเรือน, ถนนพิชัย แยกขัตติยานี เพื่อนำกำลังเข้ารักษาความปลอดภัยภายในรัฐสภา
05.50 น. ผบ.ตร. พร้อมผบช.น. ยังคงถกเครียดประเมินสถานการณ์พันธมิตรปิดรัฐสภา หลังรองนายก"ชวลิต ยงใจยุทธ" เดินทางถกด่วนเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะตำรวจตระเวนชายแดนเริ่มตั้งแถวเตรียมพร้อมรับคำสั่งทันที
04.30 น. พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล รอง ผบช.น. / รอง ผบ.เหตุการณ์ พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบช.น. ประชุมซักซ้อมการปฏิบัติร่วมกับ รอง ผบก./ผบ.ร้อย ผู้ควบคุมกำลัง
02.53 น. พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล พบ ผบ.ชน.ยืนยัน "นักรบพระเจ้าตาก" พร้อมเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน จัดกำลัง100 นาย ตั้งแถวท้องสนามหลวง ระบุไม่เกี่ยวข้องกลุ่ม นปก. หรือ นปช. ทั้งสิ้น
02.20 น. ผู้ชุมนุมบริเวณทำเนียบ 4,500 คน , รัฐสภา 2,500 คน
01.40 น. พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รอง นรม. พล.ต.อ.บุญฤทธิ์ รัตนพร พร้อมด้วย ผบ.ตร. รอง ผบ.ตร.(มก) รอง ผบ.ตร.(มก.2) ประชุมติดตามสถานการณ์ ณ ศปก.น.
01.30 น. นายสุริยใส ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศจะไม่ให้มีการประชุมรัฐสภา ผู้ชุมนุมบริเวณทำเนียบ 4,500 คน, รัฐสภา 1,700 คน
00.30 น. ผบ.ตร., รอง ผบ.ตร.(มก.) สั่ง ภ. 1 , 2 , 7 และ ตชด. จัดกำลัง ปจ.เพิ่มอีกหน่วยละ 3 กองร้อย รวม 12 กองร้อย ปฏิบัติภารกิจวันที่ 7 ตุลาคม เวลา 03.00 น. เป็นต้นไป
วันที่ 6 ตุลาคม
22.30 น. ผู้ชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาล ประมาณ 6,000 คน ส่วนหน้ารัฐสภา 3,500 คน กำลัง ปจ.ที่ปฏิบัติอยู่ ณ ขณะนี้มีรวม 12 กองร้อย จำนวน 1,800 นาย ฝ่ายสืบสวนปะปนกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งที่ทำเนียบและรัฐสภา เกาะติดด้านการข่าว บันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว
19.55 น. กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 4,000 คน เดินทางถึงหน้ารัฐสภา 4,000 คน ปิดล้อมทั้งด้านถนนอู่ทองใน และถนนราชวิถี
19.45 น. ผู้ชุมนุมตั้งขบวนบริเวณลานพระราชวังดุสิต ประมาณ 4,000 คน โดยมีนายศิริชัย ไม้งาม นายสำราญ รอดเพ็ชร นายสาวิทย์ แก้วหวาน เป็ฯแกนนำ รถเครื่องเสียง 8 คัน
19.30 น. ผบ.ตร. รอง ผบ.ตร.(มก.) รอง ผบ.ตร.(มก.1) ผบช.น. พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล รอง ผบช.น./รอง ผบ.เหตุการณ์ ประชุมติดตามสถานการณ์กรณีดังกล่าว ณ ศปก.น.
19.00 น. บช.น. จัดกำลังปจ.จำนวน 2 กองร้อย เตรียมพร้อมรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้ารัฐสภา รวมกับกำลัง ปจ.ที่มีอยู่โดยรอบทำเนียบ รวมทั้งสิ้น 7 กองร้อย จำนวน 1,050 นาย
18.20 น. แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มประกาศเชิญชวนประชาชนในทำเนียบขยายพื้นที่ชุมนุมไปหน้ารัฐสภา ขณะนั้นผู้ชุมนุมบริเวณทำเนียบประมาณ 4,000 คน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|