ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
อ้อนยกคำพระด่าคนหักหลัง วอน"ทุกฝ่าย"หันหน้าเข้าหากันอ้าง"เสนาะ-ประชา"เป็นคนขอหวั่นพูดสดบ้านเมืองยิ่งวิกฤติ
อดีตนายกฯทักษิณ งดโฟนอินครั้งที่ 2 ต่อหน้านปช.เสื้อแดงในสนามศุภฯ เปิดแค่ซีดีที่บันทึกความรู้สึกส่วนตัวไว้ความยาว 23 นาที ระบุ เป็นห่วงเศรษฐกิจของประเทศกลัวนักศึกษาจบใหม่จะไม่มีงานทำ แจงชีวิตถูกจ้องทำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะโดนกล่าวหาไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน ย้ำมีความจงรักภักดีเต็มเปี่ยมตลอดชีวิต วอนทุกฝ่ายในสังคมหันหน้าเข้าหากันเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติประเทศ ยกคำพระต่อว่านักการเมืองหักหลังประชาชนจะไม่ได้รับความเมตตาจากประชาชน เผย เหตุงดโฟนอิน “ป๋าเหนาะ-ประชา” ร้องขอไว้ หวั่นพูดไปจะทำวิกฤติการเมืองแย่อีก ด้าน “จตุพร” แจงบันทึกซีดีในประเทศใกล้ไทยแต่ไม่ใช่ฮ่องกง “วีระ” ย้ำเสื้อแดงไม่บุกสภาขัดขวางเลือกนายกฯ เผย นปช. ล่ารายชื่อห้องยูเอ็นเล่นงานพธม. ขับไล่ “จรัญ” ขณะที่ตำรวจระดมกำลังกว่า 2 พันนายดูแลความเรียบร้อย ทหารสั่งกำลังพร้อมในที่ตั้ง 17 กองร้อย รอรับมือเหตุวุ่นวาย โฆษกฯย้ำ ทหารไม่ยุ่งการเมือง ปัดข่าวไปบล็อกคน-ระงับรายการดังออกอากาศ พ่อค้าแม่ค้าหัวใสแห่จับจองพื้นที่ขายของสีแดงกันสนุกสนาน เผยช่วงเช้า-เย็น มีเหตุบึ้ม 2 ครั้ง
ความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ากลุ่มพันธ มิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ยุติการชุมนุมไปแล้ว แต่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้นัดระดมพลเพื่อร่วมงานความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 3 ที่สนามศุภชลาศัย ภายใต้ชื่องานว่า ความจริงวันนี้ ความจริงประเทศไทย และจะมีการโทรศัพท์สายตรงจากต่างประเทศ หรือโฟนอินของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยในเวลา 20.00 น. ซึ่งทางตำรวจและทหารได้เตรียมรับมือดูแลความสงบ เรียบร้อยพร้อมป้องกันมือที่ 3 มาก่อความวุ่นวาย และติดตามการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างใกล้ชิด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ตรวจเข้มนปช.เสื้อแดงรวมพล
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันนัดหมายรวมพลของกลุ่ม นปช. ที่สนามศุภชลาศัย ในช่วงเช้าเวลาประมาณ 05.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเดินทางมาจับจองพื้นที่เพื่อขายอุปกรณ์การชุมนุม อาทิ ตีนตบ เสื้อแดง ผ้าพันคอ หมวกสีแดงและสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นสีแดง ขณะที่กลุ่มนปช.กว่า 100 คนเริ่มทยอยเดินทางมาถึง ขณะเดียวกันก็ได้มีตำรวจมาอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด โดยมีการเปิดเพียงประตูใหญ่ด้านหน้าฝั่งถนนพระรามที่ 1 เพียงด้านเดียวและมีการนำเครื่องสแกนวัตถุต้องสงสัยมาติดตั้งด้วย โดยมีกำลังตำรวจและการ์ด นปช.ตรวจค้นอาวุธและอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างเข้มงวด ส่วนประตูเข้าในสนามกีฬาฯ มีการเปิดที่ประตูไก่ ให้เข้า-ออกเพียงประตูเดียวพร้อมมีการตรวจค้นอย่างละเอียดด้วย
ทั้งนี้ในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเลี่ยงใช้เส้นทางถนนพระรามที่ 1 พญาไท และถนนพระรามที่ 4 รวมถึงถนนบริเวณใกล้เคียง เพื่อหลีกเลี่ยงการติดขัด โดยผู้ร่วมชุมนุมที่เดินทาง มานั้นบางส่วนมาโดยทางรถไฟฟ้า รถยนต์ส่วนตัว และรถบัส ซึ่งเมื่อมาถึงต่างก็ปรบมือให้กำลังใจกันและกัน รวมถึงตะโกนเชียร์ทักษิณ สู้ ๆ เป็นระยะ ๆ
ช่างกลปทุมวันตะลุมบอนม็อบ
ต่อมาเวลา 08.10 น. ผู้สื่อข่าวราย งานว่า เกิดเหตุกลุ่มนักเรียนสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องมารวมตัวกันภายในสถาบันเพื่อร่วมจัดงานช่างกลปทุมวัน คืนถิ่น ช่วงเวลา 18.00 น. วันเดียวกัน ได้มีศิษย์เก่าของสถาบันข้ามถนนไปฝั่งสนามศุภชลาศัย ที่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงรวมตัวกันแล้วชกต่อยกับกลุ่มเสื้อแดง จากนั้นวิ่งกลับเข้ามาในโรงเรียนและได้มีเสียงปืนยิงออกมาใส่กลุ่มเสื้อแดง แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และมีเสียงคล้ายระเบิดและเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะภายในสถาบันเทคโนโลยี ปทุมวัน
พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน. ปทุมวัน พร้อมกำลังตำรวจ 200 นาย มาตรึงกำลังคุมเชิงอยู่บริเวณหน้าโรงเรียน โดย พ.ต.อ. ไพศาล เผยว่า ได้รับรายงานว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีอาการมึนเมามีประมาณ 10 คน ส่วนเสียงระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นเพียงประทัดยักษ์เท่านั้น ขณะนี้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแผงเหล็กมากั้นตรงหน้าสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน และได้ตรึงกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ตร.รับมือ-มีบึ้มป่วนหน้าสนาม
พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6 กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากความมึนเมาของนักเรียนช่างกล ซึ่งเชื่อว่าขณะนี้ทางอาจารย์และนักเรียนรุ่นพี่ สามารถควบคุมไม่ให้เกิดเหตุการณ์ได้ ส่วนการดูแลความเรียบร้อยของการชุมนุมนั้นได้จัดกำลังตำรวจจากบก.น.6 และ 8 โดยในช่วงเช้าจะใช้กำลัง 2 กองร้อย และช่วงเย็น 4 กองร้อย
อย่างไรก็ตามในเวลา 15.00 น. มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีปาประทัดยักษ์ก่อกวนที่บริเวณเสาต้นสุดท้ายของรถไฟฟ้าบี ทีเอส แยกเจริญผล ใกล้สนามกีฬา สร้างความแตกตื่นแก่ผู้มาร่วมชุมนุมพากันวิ่งหลบอลหม่าน ต่อมาตำรวจบก.ตปพ. ได้เข้าตรวจสอบวัตถุระเบิดพบว่ามีถุงพลาสติกและขวดน้ำยัดด้วยประทัดยักษ์ฉีก ขาด เจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานไว้ เพื่อรอการพิสูจน์อีกครั้ง โดยคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มที่ต้องการเข้ามาก่อกวน
คนเสื้อแดงพรึ่บนั่งในสนาม
ต่อมาเวลา 12.00 น. ผู้จัดงานได้เปิดให้ผู้ร่วมชุมนุมเข้าสู่สนาม ประชาชนจำนวนมากทยอยเข้าร่วมชุมนุมพร้อมอุปกรณ์เท้าตบ หัวใจตบ และแตรเชียร์ โดยส่วนใหญ่จะไปนั่งที่อัฒจันทร์ฝั่งมีหลังคาทำให้เต็มอย่างรวดเร็ว ที่เหลือได้กระจายกันไปอยู่อัฒจันทร์ฝั่งไม่มีหลังคา และบริเวณสนามหญ้าที่ทางเจ้าหน้าที่ได้นำไม้พาเลท มาปูรองสนามหญ้าเพื่อป้องกันความเสียหาย รวมทั้งบนลู่วิ่ง ยังได้นำผ้ายางมาปูทับไว้ด้วย จนกระทั่งเวลา 15.00 น. รายการความจริงวันนี้ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้บริเวณทางเข้าสนามศุภชลาศัย ได้มีการแจกจ่ายเอกสารและรวบรวมรายชื่อเพื่อยื่นต่อองค์การสหประชาชาติเพื่อ ให้เอาผิดกับแกนนำพันธมิตรฯในฐานะผู้ก่อการร้ายสากล รวมทั้งรวบรวมรายชื่อเพื่อถอดถอนนายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการรัฐธรรมนูญ ออกจากตำแหน่ง รวมทั้งรวบรวมรายชื่อเพื่อขอแก้ไขกฎหมายไทยพีบีเอส เนื่องจากมีการใช้ภาษีอากรในทางที่มิชอบ
แกนนำทำพิธี-กังวลโดนตัดสาย
ที่ด้านหน้าประตูทางเข้าอัฒจันทร์ เวลา 12.30 น. ผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้สัญจร มีนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหม พันธุ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ทำพิธีพราหมณ์บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จตุคามรามเทพและเทวดา เพื่อเป็นสิริมงคลก่อนกิจกรรมจะเริ่มขึ้น โดยนายวีระ เผยว่า จะมีการโฟนอินเวลา 20.00 น. โดยจะพูดให้พรรคร่วมรัฐบาลหันกลับมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้นขึ้น อยู่กับผู้ฟังว่าคิดอย่างไร แต่เชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะเลือกพูดที่จะทำให้บ้านเมืองสงบไม่พูดให้เกิดความวุ่นวาย
นายวีระ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังกังวลว่าจะมีการตัดสายโฟนอินของฝ่ายตรงข้าม เพราะตั้งแต่เช้าที่ผ่านมาก็มีความพยายามสกัดกั้นกิจกรรมครั้งนี้ทุกวิถีทาง เมื่อถามว่า กลุ่มเสื้อแดงจะปิดล้อมรัฐสภาในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายวีระ กล่าวว่า ตนบอกไม่ได้ ถ้าจะมีใครไปเชียร์ใครเป็นนายกรัฐมนตรีก็เป็นเรื่องส่วนตัว แต่ยืนยันว่าเสื้อแดงจะไม่เคลื่อนไหวเป็นอุปสรรคต่อการทำงานรัฐสภาด้วยการ ปิดล้อมอย่างแน่นอน
นปช.ไม่ล้อมสภา-ให้ฟังแม้วพูด
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่มีการเลื่อน ที่สำคัญจะมีการพูดถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังการพยายามจัดตั้งรัฐบาลของบาง พรรค โดยการโฟนอินในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้สังคมเข้าใจถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้มีการให้ร้ายกับบุคคลใด หรือแม้แต่สถาบัน และในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะมีการประชุมสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีทางกลุ่มนปช.จะไม่มีการยกพลไปปิดล้อมรัฐสภาอย่างแน่ นอน เพราะจะไม่ทำเหมือนกับกลุ่มพันธมิตรฯ
มีโฟนอินสด-บันทึกซีดี23นาที
นายจตุพร เผยว่า การโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ มี 2 ช่วงด้วยกัน คือ การโฟนอินสดที่จะไม่กำหนดเวลาและประเด็น และเปิดซีดีที่บันทึกเอาไว้ล่วงหน้ามีความยาวประมาณ 23 นาที โดย พ.ต.ท.ทักษิณ จะพูดทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน รวมทั้งเบื้องหลังการจัดตั้งรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าเป็นคำพูดที่มีเหตุผลประกอบ
แม้วห่วงปชช.-ไม่เผยจุดพักพิง
นายจตุพร กล่าวต่อว่า ขณะที่ทำพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่นั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์สายตรงมายังตนเพื่อถามไถ่ถึงพี่น้อง ที่สนามศุภฯว่าเป็นอย่างไรคึกคักหรือไม่ ซึ่งสัญญาณก็ยังชัดเจนดีอยู่ แต่ไม่ทราบว่าในช่วงการโฟนอินจะถูกตัดสัญญาณหรือไม่ แต่หากมีการตัดสัญญาณทางทีมงานได้เตรียมมาตรการรองรับไว้ทุกทาง เพื่อให้ประชาชนได้ฟังการโฟนอินสดอย่างแน่นอน ทั้งนี้ไม่ขอเปิดเผยว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ไหน แต่การบันทึกซีดีทำในประเทศใกล้เคียงที่ไม่ใช่ฮ่องกง จากนั้นได้บินไปประเทศที่ไกลโพ้นเพื่อรอการโฟนอินในวันนี้
ทหารจัดกำลังเต็มพิกัดรับมือ
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เผยว่า กองทัพได้ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมกำลังที่จะสนับสนุนหากตำรวจร้อง ขอ ทั้งนี้กองทัพบกจัดเตรียมกำลังภายใต้ชื่อแผนอาร์มทอง โดยใช้กำลังของกองทัพบก 17 กองร้อย ซึ่งแบ่งระดับการปฏิบัติการเป็น 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1 เตรียมกำลังพร้อมปฏิบัติภารกิจภายใน 1 ชั่วโมง โดยใช้กำลังกองทัพภาคที่ 1 จำนวน 5 กองร้อย ระดับ 2 พร้อม ปฏิบัติภารกิจภายใน 3 ชั่วโมง ใช้กำลังกองทัพภาคที่ 1 จำนวน 5 กองร้อย และระดับที่ 3 หากเกิดความรุนแรงจะใช้ 7 กองร้อย เป็นกองทัพภาคที่ 1 จำนวน 3 กองร้อย กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (นปอ.) 2 กองร้อย และกำลังพลของกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) 2 กองร้อย พร้อมออกปฏิบัติการภายใน 6 ชั่วโมง
ยึดสันติ-ไม่ยุ่งการเมือง
“หากมีเหตุรุนแรงกองทัพพร้อมส่งกำลังสนับสนุนทันที ผมเชื่อว่าเหตุการณ์จะไม่รุนแรง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแกนนำทั้งหลายที่ขึ้นกล่าวบนเวที ซึ่งทหารมีการติดตามสถานการณ์ตลอดโดยมีจุดประสงค์คือหลีกเลี่ยงความรุนแรง ทุกชนิด โดยเราจะใช้ความอดทน อดกลั้น ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีกระแสพระราชดำรัส ซึ่งตำรวจและทหารยึดถือจะไม่ให้เกิดความรุนแรง แม้จะต้องถูกด่าถูกตำหนิ เพราะความรุนแรงไม่ใช่ทางออก” โฆษกกองทัพบก กล่าว
เมื่อถามว่าผู้ดำเนินรายการความจริง วันนี้พาดพิงว่าทหารมีส่วนทำให้รายการถูกงดออกอากาศทางเอ็นบีที พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับกองทัพ ข้อมูลที่เกิดขึ้นในสังคมเวลานี้ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลเท็จเพื่อโฆษณาชวนเชื่อ รวมทั้งการออกมาระบุว่ากองทัพอยู่เบื้องหลังการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ซึ่งพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และกองทัพชี้แจงมาตลอดว่า เรื่องการเมืองกองทัพไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง ส่วนกรณีที่ระบุว่า กอ.รมน.ส่งกำลังไปสกัดคนมาร่วมชุมนุมก็ไม่จริง ส่วนการโฟนอินไม่ขอวิจารณ์ เพราะเป็นเรื่องการเมือง
โฟนอินสร้างสรรค์ไม่แตกแยก
ที่พรรคเพื่อไทย เวลา 12.00 น. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงการโฟนอินว่า วันนี้กลุ่มเสื้อแดงจะออกมาชุมนุมกันด้วยความสงบก็เกิด กลัวว่าจะเกิดความวุ่นวาย คนกลัวการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณเกินไป ทั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ คงพูดสิ่งที่สร้างสรรค์ ไม่ต้องการสร้างความแตกแยก เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ รักชาติ รักประเทศ และมีน้ำใจ นักกีฬา แต่คนที่กลัวคือคนที่ทำผิดไว้ก่อน
เมื่อถามย้ำว่าการโฟนอินจะทำให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ด้วยตัวเลขพรรคเพื่อไทยชนะอยู่แล้ว อีกทั้งบางคนฟังโฟนอินแล้วอาจเห็นใจกลับมาอยู่ด้วย เชื่อว่าคำพูด พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีส่วนให้ ส.ส.กลับมาอยู่ฝ่ายเรา คำพูด พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนมีดผ่าตัด แยกแฝดอินจัน เนวิน-อภิสิทธิ์ ออกได้ ซึ่งถ้ากลุ่มเพื่อนเนวินกลับมา ก็พร้อมรับอยู่แล้ว
“มาร์ค”เชื่อปรองดองกันได้
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชุมนุมว่า รู้สึกไม่สบายใจกับข่าวที่มีการปะทะเกิดความรุนแรงขึ้น อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ให้ช่วยดูแลและขอให้ทุกฝ่ายอยู่ในกรอบของกฎหมาย ส่วนการจะปิดล้อมสภาทำได้แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและเจ้าหน้าที่ต้องดูแล โดยเอาบทเรียนวันที่ 7 ต.ค. 51 หรือบทเรียนจากการยึดสนามบินมาดูว่าทำอย่างไรให้เหมาะสม ถ้าเราใช้ความยุติธรรมนำไปสู่ความปรองดองก็จะค่อย ๆ แก้ปัญหาได้ เพราะต้องยอมรับว่าความแตกแยกหรือความขัดแย้งนี้สะสมมานาน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะวุ่นวายแต่ความพยายามในการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มอำนาจเก่า เช่น ยกกันมาที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ หรือไปอาละวาดตรงนั้นตรงนี้บ้างเป็นธรรมดา ส่วนการทำงานหากได้เป็นรัฐบาลเราได้เตรียมการไว้แล้ว เราจะทำอย่างไร และคิดว่าทำได้ สามารถจะไปได้ทุกที่และต้องไปทุกแห่ง ทุกจังหวัด
“สมเกียรติ”จี้ปชป.ตอบคำถาม
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำกลุ่มพันธ มิตรฯ กล่าวว่า เราเชื่อว่าการเมืองเก่าจะไปไม่รอด ทั้งนี้เราจะต่อต้านรัฐบาลที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ โดยไม่คำนึงว่าจะเป็นกลุ่มใดพรรคใด เมื่อถามว่าในฐานะที่นายสมเกียรติอยู่พรรค ประชาธิปัตย์ ตอนนี้พรรคกำลังจับมือกับกลุ่มคนที่พันธมิตรฯเคยกล่าวหาว่าเป็นนักการเมือง แบบเก่าและทุจริตคอร์รัปชั่น นายสมเกียรติจะแสดงจุดยืนด้วยการลาออกจากพรรคหรือไม่ นายสมเกียรติ กล่าวว่า นี่เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะตอบคำถาม วันนี้ตนมาในนามพันธ มิตรฯ อย่านำมาเจือปนกัน พันธมิตรฯไม่ได้อยู่ในกรงคอกของนักการเมือง เรามีอิสระพอ
“ผมจะไม่ตอบคำถามแบบนี้ ผมรู้ว่าผมอยู่ตรงไหนที่จะทำประโยชน์ให้กับประเทศได้มากกว่า ผมจะไม่หลงกลตอบคำถามแบบนี้ และเร็วเกินไปที่ผมจะพูดเรื่องแบบนี้ โดยที่ยังไม่เห็นใครเป็นรัฐบาล โปรดติดตามบทบาทของผมต่อไปในรัฐสภา ผมจะไม่ทรยศประชาชนและประเทศเด็ดขาด ผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเหนือกว่ากลุ่มพรรคและนักการเมือง” นายสมเกียรติ กล่าว
คนอุดรฯร่วมฟังโฟนอิน
ที่ จ.อุดรธานี บริเวณลานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครอุดรธานี นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร และ นายวิเชียร ขาวขำ นายทองดี มนิสสาร นายอนันต์ ศรีพันธุ์ 3 ส.ส.พรรคเพื่อไทย นำกลุ่มเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมต่อต้านการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมโจมตีส.ส.ที่ย้ายไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ด้วย และรอการโฟนอิน พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีกำลังตำรวจ 6 กองร้อย และชุดสายตรวจนอกเครื่องแบบ 5 ชุด ลาดตระเวนดูความเรียบร้อย ซึ่งเหตุการณ์ทั่วไปเป็นไปอย่างสงบ
“จักรภพ”ยุยุบสภาคืนปชต.
ต่อมาเวลา 17.00 น. บนเวทีปราศรัยในสนามศุภชลาศัย นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีว่า เราต้องต่อต้านเผด็จการรัฐประหารทุกรูปแบบ ดังนั้นจนกว่าจะถึงวันเลือกนายกฯขอให้ประชาชนได้แสดงพลังกดดัน ส.ส.ทุกคน ให้คืนประชาธิปไตยให้กับประชาชนอย่าร่วมมือกับเผด็จการ ในช่วง 2-3 วันนี้จะเป็นช่วงเวลาลุ้นระทึกว่าการเมืองไทยจะขึ้นรถประชาธิปไตยหรือจะขึ้น เกวียนของเผด็จการ ตนอยากให้มีการยุบสภา เพื่อที่จะได้พิสูจน์ว่ามีงู มีกระสือ กระหังออกมาจริงหรือไม่ เส้นทางเลือกที่ดีที่สุดคือการยุบสภา
“ผมขอพูดถึงนายอภิสิทธิ์ ว่าถ้าผมเป็นนายอภิสิทธิ์คงกลุ้มใจมาก เพราะส่องกระจกดูเงาก็เห็นหน้านายสุเทพ แค่นี้ก็ไม่มีภาวะผู้นำในระบอบประชาธิปไตยแล้ว แต่เมื่อกลับไปส่องอีกทีก็เจอหน้านายสนธิ ลิ้มทองกุล และหากส่อง กระจกตอนหัวค่ำก็มีหน้านายเนวิน สรุป นายอภิสิทธิ์ไม่มีตัวตนในระบอบประชาธิปไตย แล้วแบบนี้จะมาเป็นนายกฯในระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไร ดังนั้นขอให้พรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ เลิกนิสัยชุบมือเปิบ” นายจักรภพ กล่าว
นปช.จี้รัฐแก้รธน.-เล่นงานพธม.
นายจตุพร กล่าวตอนหนึ่งบนเวทีว่า นอกจากนายอภิสิทธิ์ ที่ถูกสอบเรื่องการเกณฑ์ทหาร ยังมีอีกคนหนึ่งที่จะต้องโดนก็คือนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ บุตรชายของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ นายอภิสิทธิ์กินแห้วแน่นอน อย่างไรก็ตามตนอยากจะบอกว่า แม้เราจะเป็นม็อบที่ไม่มีเส้น เราไม่ต้องยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลถึง 13 ข้อ แต่เราจะขอเพียง 2 ข้อต่อรัฐบาลใหม่ที่ไม่ใช่นายอภิสิทธิ์ คือ ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทันที และดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้นายจตุพร ยังได้กล่าวโจมตีผู้นำเหล่าทัพนายทหารชั้นผู้ใหญ่ทั้งในอดีตและปัจจุบันที่ ได้เข้ามาแทรกแซงการจัดตั้งรัฐบาล โดยอ้างคำสั่งเบื้องบน อย่างไรก็ตามนายจตุพรยังได้กล่าวชื่นชม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อลาสิกขาแล้ว ได้ออกมาประณามทหารเหล่านี้ ทั้งนี้มีการยืนยันว่าในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ จะไม่ไปล้อมสภา แต่เราพร้อมที่จะนัดรวมตัวหากมีอำนาจนอกระบบมาบีบกลุ่มการเมือง เพื่อให้ไปยกมือให้กับคนที่กองทัพต้องการ
อธิการบดีฯปทุมวันแจงเหตุวิวาท
ต่อมาเวลา 18.00 น. รศ.สมเกียรติ จงประสิทธิ์พร อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยี ปทุมวัน เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันว่า เบื้องต้นได้สอบถามข้อมูลกับอาจารย์ที่อยู่ในเหตุการณ์พบว่า ผู้ที่ไปก่อเหตุไม่มีใครรู้จักและไม่ใช่นักศึกษาของสถาบัน คาดว่าจะเป็นคู่อริหรือมือที่ 3 มาสร้างสถานการณ์ให้เกิดความไม่เข้าใจกันขึ้น เพื่อหวังผลบางอย่าง ส่วนฝ่ายของสถาบันมีอาจารย์บาดเจ็บ 3 ราย และรถยนต์ถูกทุบเสียหายไป 1 คัน ทั้งนี้ทางสถาบันได้คุมเข้มตรวจผู้ที่จะเข้า-ออกรวมทั้งสื่อมวลชนเพื่อ ป้องกันการเกิดเหตุร้ายขึ้น
เสธ.แดงแนะทหารขอโทษปชช.
ในเวลา 18.45 น. พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ได้เดินทางมาที่สนามศุภชลาศัย โดยแต่งกายด้วยชุดลายพราง และให้สัมภาษณ์ว่า ตนมาดูให้เห็นกับตาว่าพลังของประชาชนมีมากน้อยแค่ไหน เมื่อเห็นแล้วก็อยากบอก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ให้ออกมาขอโทษประชาชน และยุติการแทรกแซงทางการเมือง และยุติการจัดตั้งรัฐบาล แม้ตนจะถูกปลดก็ไม่เป็นไร นอกจากนี้อยากเรียกร้อง ผบ.ทอ. ออกมาขอโทษประชาชนที่ไม่สามารถให้ความคุ้มครองประชาชนที่สูญเสียชีวิตในสนาม บินดอนเมืองที่เป็นพื้นที่ของทหารอากาศ
นปช.ขอใช้พื้นที่ทบ.-ทอ.จัดงาน
นายจตุพร กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอเชิญชวนคนเสื้อแดงให้ไปร่วมชุมนุมในรายการความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 4 ที่สนามกีฬากองทัพบก เพื่อต่อต้านการรัฐประหารในกองทัพ โดยจะขอให้ทางพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. อนุญาตให้ใช้สถานที่ด้วย หลังจากนั้นจะไปขอใช้สนามกีฬากองทัพอากาศด้วย เราขอยืนยันว่าเราไม่ได้ก้าวร้าวแต่ต้องการต่อสู้กับเผด็จการทุกรูปแบบที่ สมคบกับกลุ่มพันธมิตรฯ และอีกหลายพวกที่ไล่เราจนสุดซอยแล้ว ตอนนี้เราจะสู้ต่อไป
เปิดซีดีแม้วแทนโฟนอินสด ๆ
ต่อมาเวลา 20.30 น. นายวีระ กล่าวบนเวทีว่า นายอภิสิทธิ์ ไม่มีสิทธิจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ ไม่มีรัฐบาลไหนในโลกที่จะจัดตั้งรัฐบาลแล้วมีคนออกมาคัดค้าน ถึงจะจัดตั้งรัฐบาลไปก็บริหารไม่ได้ เพราะไม่ได้ผ่านการเกณฑ์ทหาร ในวันจันทร์นี้นายอภิสิทธิ์ไม่มีสิทธิเป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ต้องตอบให้ได้ว่าจะดำเนินคดีกับกบฏ 13 คนอย่างไร เชื่อว่านายอภิสิทธิ์ไม่มีทางตอบได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเลื่อนเวลาออกไปจากเดิมที่กำหนดไว้ในเวลา 20.00 น. โดยในช่วงแรกจะเป็นการเปิดวีซีดีที่ใช้เวลา 23 นาที ให้กับผู้มาร่วมชุมนุมได้ฟังและชม จากนั้นจะเป็นการโฟนอินสดของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่จนกระทั่งเวลาได้ล่วงเลยมาเกือบจะถึงเวลา 21.00 น. ยังไม่มีการโฟนอิน มีเพียงการเปิดซีดีเท่านั้น
โดนกล่าวหาไม่จงรักภักดี
โดยซีดีดังกล่าวมีใจความสำคัญว่า รู้สึกเป็นห่วงสภาพเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นมาจากการยึดสนามบิน ซึ่งในอนาคตจะทำให้นักศึกษาที่จบใหม่จะหางานทำยาก สิ่งที่เกิดขึ้นกับตนนั้นรู้สึกมากมายเหลือเกิน โดยปัญหาที่มีเพราะตนถูกกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้ว ตนมีความจงรักภักดีมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งเรียนรุ่นเดียวกับผบ.ทบ.
รวมทั้งตอนแต่งงานก็ได้รับพระราชทานสมรส และครั้งดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย ตนทำงานด้วยความจงรักภักดีมาตลอด แต่สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดนรังแกมาต่อเนื่อง ทั้งการถอดถอนต่าง ๆ ซึ่งมาจากการกล่าวหาตนว่าไม่จงรักภักดี อย่างไรก็ตามตนอยากเห็นทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันช่วยกันคิดและแก้ปัญหาของ บ้านเมืองให้เดินหน้าต่อไป ทั้งนี้ขอยกคำพูดของท่านพุทธทาสว่านักการเมืองหักหลังประชาชนจะอยู่ไม่ได้ จะไม่ได้รับความเชื่อถือจากประชาชนอีกต่อไปไม่ว่าจะให้คนสนิทคนใดมาสืบทอด
งดโฟนอินสดๆ-เหนาะประชาขอ
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ทั้งนี้หลังจากพ.ต.ท.ทักษิณ พูดผ่านซีดีเสร็จสิ้น นายวีระ ได้ กล่าวเสริมต่อในรายละเอียดการชุมนุมเรื่อยมาจนเป็นที่แน่ชัดว่าไม่มีการโฟน อินสด ๆ ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับประชาชนเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุมเป็นอย่างมาก โดยสาเหตุของการไม่โฟนอินในครั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าน่าจะมาจากการขอร้องของ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช และพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ไม่ให้พ.ต.ท.ทักษิณ เคลื่อนไหวที่จะกดดันสถานการณ์การเมืองในขณะนี้
ที่มา เดลินิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|