เมื่อ เวลา 03.30 น. วันที่ 21 ธ.ค. ร.ต.ท.ฉัตรเพชร ศิลา ร้อยเวร สภ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งว่ามีหญิงสาวกระโดดจากสะพานพระนั่งเกล้าใหม่ ลงแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วสูญหายไปกับกระแสน้ำ จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ภักดีณรงค์ ผกก. พ.ต.ท.ธนาพัฒน์ นินบดี รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ศิริวัฒน์ ดีพอ สว.สป.พ.ต.ท.ยิ่งยศ สุวรรณโณ สวป.พ.ต.ต.ธีรศักดิ์ ศรีประเสริฐ สว.สส.
ที่เกิดเหตุอยู่กลางสะพานพระนั่งเกล้าใหม่ ฝั่งมุ่งหน้าแยกแคราย พบรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน ชศ 4653 กรุงเทพมหานคร จอดชิดขอบราวสะพานเปิดไฟกะพริบอยู่ ตรวจสอบในรถไม่พบคนขับ ในที่เกิดเหตุมีชาวบ้านมุงดูหลายคน ในจำนวนนี้มีหญิงสาวทราบชื่อ น.ส.สุกัญญา แซ่เจ็ง อายุ 22 ปี ยืนตกใจกลัวตัวสั่น พร้อมให้รายละเอียดว่า เจ้าของรถคันดังกล่าวเป็นเพื่อนสนิทตน ชื่อ น.ส.ปราณิศา วานิชาชีวะ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 259/84 ถนนเพชรเกษม แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กทม. และเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงชั้นปี 1
ก่อนเกิดเหตุ น.ส.ปราณิศามีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนในกลุ่มอย่างรุนแรง ด้วยความน้อยใจได้ขับรถเก๋งออกจากบ้านย่านจรัญสนิทวงศ์ 13 พร้อมโทรศัพท์บอกเพื่อนอีกคนว่า ฝากให้ช่วยดูแลสุนัขด้วย เพราะจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ด้วยความเป็นห่วงตนกับเพื่อนจึงได้ว่าจ้างรถแท็กซี่ออกตามหา กระทั่งพบ น.ส.ปราณิศาจอดรถอยู่กลางสะพานพระนั่งเกล้า เพื่อนๆจึงได้เข้าไปพูดคุยปรับความเข้าใจ ทันใดนั้นเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็บังเกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ น.ส.ปราณิศารีบเปิดประตูรถวิ่งกระโดดสะพานดิ่งแม่น้ำเจ้าพระยาร่างจมหายไป ต่อหน้าต่อตา จึงแจ้งตำรวจทราบเหตุดังกล่าว
ขณะที่แนวทางการสืบสวนทราบว่า น.ส.ปราณิศา คบหาเป็นแฟนกับสาวทอมคนหนึ่งมานานร่วม 3 เดือน ช่วงกลางวันสาวทอมหายตัวไปลึกลับ น.ส.ปราณิศาพยายามโทรศัพท์ตามหา แต่ก็ติดต่อไม่ได้ กระทั่งมืดค่ำ น.ส.ปราณิศารู้ว่าสาวทอมคนรักได้พาเพื่อนสาวแฟนใหม่อีกคนไปดูหนังด้วยกัน ทำให้ น.ส.ปราณิศาหึงหวงและผิดหวังรักอย่างแรง ได้ขับรถเก๋งออกจากบ้านพร้อมโทรศัพท์บอกเพื่อนฝากให้ช่วยดูแลสุนัขด้วย เพื่อนเป็นห่วงพากันออกตามหาตัว จนพบจอดรถอยู่กลางสะพานพระนั่งเกล้า แต่ช่วยเหลือไว้ไม่ทัน ซึ่งหน่วยกู้ภัยยังงมหาศพไม่พบแต่อย่างใด
พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ภักดีณรงค์ ผกก. กล่าวว่า ตราบใดที่ยังค้นหาศพไม่พบยังลงรับคดีไม่ได้ ต้องรอตรวจสอบ ให้แน่ชัดอีกครั้ง โดยต้องสอบปากคำญาติและกลุ่มเพื่อนๆของ น.ส.ปราณิศาที่รับรู้เรื่องราวอย่างละเอียดก่อนว่าสาเหตุมาจากเรื่องใดกัน แน่ แต่ถ้าพิจารณาดูจากพยานหลักฐานเบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาจากปัญหาชู้สาวมากกว่า สาเหตุอื่น ไม่เช่นนั้นคงไม่คิดสั้นกระโดดแม่น้ำฆ่าตัวตายแน่นอน
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ไทยรัฐ