• กระแสสังคมกดดัน"แป้ง"พ้นนายกฯ ชม. |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 06 พ.ค. 52 เวลา 00:03:09 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
กระแสสังคมเชียงใหม่ กดดันจังหวัดเร่งหาทางออกการแก้ปัญหา นายกฯ และคณะผู้บริหาร เทศบาลนครเชียงใหม่ละเมิดคำสั่งสาร ล่าสุดออกคำสั่งแจ้งแนวทางการทำงานของนายกฯ พร้อมคณะผู้บริหารฯ อีกรอบ ย้ำชัดเจนต้องวางมือให้ข้าราชการที่มีอำนาจตามกฎหมายเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่บริหารเทศบาลแทน
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2552 จังหวัดเชียงใหม่ได้มีเอกสารที่ชม.0037.4/14276 ลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2552 เรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ของนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ โดยมีข้อความระบุชัดเจนว่าตามที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้แจ้งว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อประโยชน์ของทางราชการ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ควรชะลอการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และการลงนามเอกสารทางราชการไว้ก่อน โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายกำหนด
อาศัยอำนาจตามมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล 2496 จึงแนะนำตักเตือนการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ในกรณีที่นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ต้องพ้นจากตำแหน่งเมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา การชะลอการปฏิบัติหน้าที่ราชการและการลงนามในเอกสารตามนัยหนังสือจังหวัดเชียงใหม่นั้นมีความหมายรวมถึงการปฏิบัติงานของร้อยเอกหญิงเดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ ในตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่และรองนายกเทศมนตรีร่วมคณะด้วย
ในเอกสารดังกล่าวที่ลงนามโดยนายชุมพร แสงมณี รองผู้ว่าฯเชียงใหม่ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ย้ำในหลักการที่ควรปฏิบัติตามกฎหมายอีกว่า ควรให้ข้าราชการที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ราชการในหน้าที่นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่
ทั้งนี้ในเอกสารที่ชม.0037.4/12527 ลงวันที่ 10 เมษายน 2552 ซึ่งลงนามโดยนายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ซึ่งได้แจ้งมายังร้อยเอกหญิงเดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ยังระบุชัดเจนในหลักการปฏิบติ ในการทำหน้าที่ว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อประโยชน์ทางราชการ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ควรชะลอการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และการลงนามในเอกสารราชการไว้ก่อน ซึ่งในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงสุดในจังหวัดและกำกับดูแลส่วนปกครองท้องถิ่น การชี้แจงและมอบแนวทางการปฏิบัติงานให้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่รับทราบแล้วนั้น ปรากฎว่าไม่ได้รับการตอบสนองหรือชะลอการปฏิบัติงานจากฝ่ายข้าราชการการเมืองในส่วนคณะผู้บริหารทั้งนายกฯและรองนายกฯ
ดังนั้นกระแสสังคมโดยรวมของเชียงใหม่จากประชาชนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ผู้มีส่วนได้เสียและได้รับผลกระทบโดยตรงจึงได้ประสานงานไปยังตัวแทน โดยเฉพาะสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ ดำเนินการเพื่อหาข้อยุติและความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวจากจังหวัดจนกระทั่งมีคำสั่งล่าสุดลงมา ซึ่งเป็นที่เข้าใจดีและไม่ต้องมีการตีความกฎหมายหรือส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความต่อไป เมื่อผู้บริหารไม่สามารถลงนามหรือปฏิบัติราชการและทำการมอบหมายให้ข้าราชการประจำที่มีอำนาจดำเนินการ ก็เป็นอันสิ้นสุดบทบาท การทำหน้าที่ของคณะผู้บริหารซึ่งก็เท่ากับว่า ต้องให้ดร.เคน สันติธรรม ปลัดเทศบาลนครเชียงใหม่ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่นั่นเอง
จากการสอบถามความคิดเห็นข้าราชการประจำที่มีอำนาจในบางส่วนงานของเทศบาลนครเชียงใหม่ ต่างยอมรับว่าอยู่ในภาวะกดดันจากรองนายกเทศมนตรีฯ และส่งผลต่อการปฏิบัติงาน การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาท้องถิ่นเป็นอย่างมาก ซึ่งโดยมารยาทและควรมียางอายก็ต้องมีจิตสำนึกในการถอยออกไป ให้ทุกอย่างเดินตามกระบวนการ ซึ่งก็คือการเลือกตั้ง ยิ่งทราบว่ามีเอกสารล่าสุดลงนามจากจังหวัดมาแล้ว ก็ทำให้การทำงานของข้าราชการประจำสบายอกสบายใจขึ้นเพราะคณะผู้บริหารชุดนี้คงไม่กล้าเสนอหน้าเข้ามาในสำนักงานอีก เพราะไม่มีเหตุผลอ้างว่ามาเลงนามเอกสารมาตรวจเอกสารอะไร
สำหรับความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าวนั้น ทีมข่าวเชียงใหม่นิวส์ ได้รับการเปิดเผยจากกลุ่มปลัดเทศบาลฯในเขตจังหวัดเชียงใหม่ โดยส่วนใหญ่เห็นว่า กฎระเบียบชัดเจนและผู้ว่าฯลงนามในคำสั่งฉบับแรกและย้ำในเอกสารฉบับที่สองล่าสุดก็เป็นที่แน่นอนว่าการเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ประการสำคัญ ผู้บริหาร ทั้งนายกฯและรองนายกฯไม่ถือปฏิบัติ ก็อาจมีผลเสีย ซึ่งในขณะนี้ก็ได้สร้างความเคลือบแคลงใจความสงสัยต่อสาธารณชน ต่อสังคมว่า ที่ไม่ยอมออกไปเพระมีผลประโยชน์ใดพัวพันอยู่ ทำให้จังหวัดต้องเร่งดำเนินการ เนื่องจากกระแสสังคมไม่ยอมรับพฤติกรรมเยี่ยงนี้
ด้านแกนนำส.ท.กลุ่มช้างงานซึ่งมีหัวหน้ากลุ่มคือ นายพูลสวัสดิ์ วรวัลย์ หรือเสี่ยตุ้ม ได้ให้ทีมงานกลุ่มเป็นตัวแทนยื่นหนังสือติดตามสอบถามเรื่องไปยังจังหวัด โดยมีนายสุทัศน์ ศรีล้อม ประธานสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ เป็นหัวหอกในการดำเนินการ ได้ให้ความเห็นกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อทั้งศาลปกครองสูงสุดพิพากษาเป็นที่สุดแล้ว เรื่องของนายกเทศมนตรีขาดคุณสมบัติ และอีกทั้ง ทั้งจังหวัดออกหนังสือเป็นคำสั่งการออกมาถึงสอบครั้ง สรุปได้ว่า นายกเทศมนตรีจะต้องลาออกไปซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดตามกฏหมายที่จะต้องควบคุมดูแลกำกับงานของท้องถิ่นภายในจังหวัด เพราะฉะนั้นว่าราชการจังหวัดออกคำสั่งใดๆออกไป ข้าราชการท้องถิ่นนักการเมืองท้องถิ่นจะต้องยึดถือปฏิบัติเป็นแนวทาง
ส่วนนายเกษม ปารมีศิลป์ขจร สมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่แขวงกาวิละ ได้ให้ความเห็นว่า กรณีดังกล่าวเหมือนกับว่า ถ้าเป็นพระภิกษุก็ถือว่าต้องปาราชิกขาดจากการเป็นพระ คือต้องลาสิกขาบทออกไปเองโดยไม่ต้องให้ใครมาสั่งให้ออกหรือให้ชาวบ้านรวมตัวกันมาจับสึก กรณีของนายกเทศมนตรีหากถือว่าเป็นมารยาททางการเมืองและเป็นจรรยาบรรณสปิริตของนักการเมืองแล้ว ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ทันทีทั้งคณะคือนายกเทศมนตรี รองนายกฯทุกตำแหน่ง แล้วให้ข้าราชการประจำดำเนินงานปฏิบัติหน้าที่แทนนายกเทศมนตรี ซึ่งจะไม่เกิดความเสียหายต่องบประมาณของบ้านเมืองและจะไม่เกิดความวุ่นวายตามมา ไม่รู้จบสิ้น ผู้สื่อข่าวได้ติดตามสอบถามไปยัง ดร.เคน สันติธรรม ปลัดเทศบาลนครเชียงใหม่ ในช่วงเช้าของวันที่ 5 พ.ค.2552 แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ ซึ่งรายละเอียดความคืบหน้าต่างๆ จะได้นำมาเสนอต่อไป.
ข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 2354 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 06 พ.ค. 52
เวลา 00:03:09
|