• "อุปกรณ์ไฮเทค"เฝ้าติดตามดูลูก |
โพสต์โดย por , วันที่ 19 ก.ย. 48 เวลา 16:02:07 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
"อุปกรณ์ไฮเทค"เฝ้าติดตามดูลูก"อุปกรณ์ไฮเทค"เฝ้าติดตามดูลูก
ด้วยความรัก ความเป็นห่วง ทำให้พ่อแม่กลายเป็นคนที่อยากรู้ความเคลื่อนไหวของลูกๆ แทบจะทุกฝีก้าว อยากรู้ไปหมดว่า ตอนนี้ลูกๆ กำลังทำอะไร อยู่ที่ไหน? ไปโรงเรียนหรือเปล่า? ขับรถเร็วมั้ย? อยู่ที่โรงเรียนกินอะไรบ้างเป็นอาหารกลางวัน? ,ฯลฯ หากเป็นสมัยก่อน คำถามอันเต็มไปด้วยความรัก ความกังวลของพ่อแม่ ผู้ปกครองเหล่านี้ คงต้องพึ่ง "จินตนาการ" และการทำใจให้คลายกังวล เนื่องจากล้วนเป็นคำถามที่ยากจะรู้ นอกเสียจากคุณจะเป็นพ่อแม่ที่เกาะติดลูกๆ ไปทุกที่ ...ทุกฝีก้าว!!!
แต่ตอนนี้เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้คำตอบเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องยากจะรู้อีกต่อไป และเปิดโอกาสให้พ่อแม่ ได้กลายเป็น "บิ๊กฟาเธอร์ บิ๊กมาเธอร์" ที่สามารถเฝ้าจับตาดูพฤติกรรมยามไกลตาของลูกๆ ได้หลายอย่าง จนเกิดคำถามอันน่าขบคิดไม่น้อยว่า นี่เป็นการกระทำที่ "ล่วงล้ำ" ชีวิตของอีกฝ่ายมากเกินไปหรือเปล่า และจะมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูกๆ อย่างไรบ้าง ?
เทด ชมิดต์ คุณพ่อลูก 4 ในเมืองบูร์ ริดจ์ มลรัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา เป็นผู้ปกครองท่านหนึ่งที่พึ่งบริการของ Teen Arrive Alive ที่เปิดโอกาสให้เขาตรวจสอบได้ตลอดเวลาว่า ลูกๆ กำลังอยู่ที่ไหน ผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ ที่สามารถระบุสถานที่โดยเริ่มใช้บริการนี้มาเมื่อ 1 ปีที่แล้ว
ถึงแม้จะฟังดูเป็นการล่วงล้ำชีวิตส่วนตัวของลูกๆ แต่เทดก็มีเหตุผลให้กับตัวเองว่า เพราะเขาคำนึงถึง "ความปลอดภัย" ของลูกๆ น่ะสิถึงทำอย่างนี้ และอย่างน้อยเวลาลูกๆ จะไปทำอะไรที่ไหน จะได้ระวังตัวมากขึ้น เพราะรู้ว่าถูกพ่อจับตาดูอยู่นะ
"มันน่าหงุดหงิด รำคาญ และให้อำนาจพ่อแม่ควบคุมเรามากเกินขอบเขต" โนอาห์ ลูกชายวัย 15 ของเทดให้ความเห็น หลังจากเคยถูกพ่อจับได้เมื่อไปเที่ยวในสถานที่ไม่ควรไปมา 2-3 แห่ง
แต่เซียร์ร่า ลูกสาววัย 18 ของเทด ที่กำลังศึกษาอยู่ปี 1 มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ดูจะทำใจยอมรับได้มากกว่าน้องชาย อย่างน้อยเธอก็รู้สึกอุ่นใจ และชอบความรู้สึกที่ว่า หากเธอเกิดอันตราย หรือเป็นอะไรฉุกเฉินขึ้นมา พ่อแม่ก็สามารถรู้ได้ว่าเธออยู่ที่ไหน?
"คุณไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา ดังนั้นการมีสิ่งนี้จึงเหมือนมีผ้าห่มคอยป้องกันภัย" เซียร์ร่ากล่าว
ทั้งนี้จากบริการด้านนี้ที่มีบริษัทหลายแห่งเปิดให้บริการทั้งในอเมริกา อังกฤษ แคนาดา และมีพ่อแม่ ผู้ปกครองเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีทั้งบริการที่เปิดโอกาสให้พ่อแม่ตรวจสอบได้ว่า ลูกๆ ออกจากบ้านแล้วไปโรงเรียนหรือเปล่า หรือหนีไปเที่ยวที่อื่น บริษัทที่ให้บริการแบบนี้ก็เช่น Langtree Skills Center Ltd ที่เซ็นสัญญากับโรงเรียนในอังกฤษ 10 แห่ง และกำลังเพิ่มขยายกลุ่มโรงเรียนในอเมริกา ด้วยบริการแจ้งให้ผู้ปกครองทราบผ่านข้อความสั้นทางโทรศัพท์มือถือ หรืออี-เมล ว่าลูกไปโรงเรียนหรือเปล่า รวมทั้งแจ้งรายงานผลการเรียนของลูกให้พ่อแม่ทราบ
หรืออย่างบริการของบริษัท Mealpay.com ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในรัฐจอร์เจีย สหรัฐ และเริ่มให้บริการมาร่วม 2 ปีด้วยการเปิดช่องทางให้พ่อแม่ ผู้ปกครองสามารถตรวจสอบเรื่องอาหารกลางวันของลูกที่โรงเรียนได้ ผ่านระบบการจ่ายเงินค่าอาหารกลางวันของลูกๆ ได้ล่วงหน้าทางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ แล้วพ่อแม่ก็สามารถขอตรวจดูได้ว่า ลูกๆ รับประทานอะไรกันเข้าไปในกระเพาะบ้าง ?
แล้วอย่างบริษัท CarChip ที่ให้บริการติดตั้งอุปกรณ์เข้ากับรถยนต์ เพื่อให้พ่อแม่สามารถเช็คดูนิสัยการขับรถของลูกได้ว่า ขับรถเร็วขนาดไหน? แต่ละวันขับรถเป็นระยะทางกี่กิโลเมตร?
ต่อบริการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นนี้ คริสตี้ อาจารย์ภาควิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยเวค ฟอร์เรสต์ รัฐนอร์ธ คาโรไลน่า ให้ความเห็นว่า
เป็นเรื่องดีที่พ่อแม่สามารถรู้ได้ว่า ลูกๆ อยู่ที่ไหน แต่ก็ไม่ลืมจะฝากข้อคิดให้ผู้ใหญ่ได้คิดสักนิดว่า เด็กวัยรุ่นที่ไม่น่าไว้ใจก็มี แต่เด็กวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมน่าเชื่อใจ แม้จะอยู่ลับตาพ่อแม่ก็ยังมีอยู่เช่นกัน
"ดังนั้นพ่อแม่จำเป็นต้องสร้างสมดุลระหว่างความอยากรู้ของเรา โดยไม่ทำให้ลูกๆ รู้สึกว่าถูกควบคุมทุกฝีก้าว และพ่อแม่ไม่ควรจะหลอกตัวเองให้หลงคิดว่าสามารถจะป้องกันลูกๆ จากการทำความผิดพลาดได้ เพราะสิ่งต่างๆ เหล่านั้นล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตและเรียนรู้"
ขณะที่ เคต เคลลี่ เจ้าของหนังสือ The Complete Idiot"s Guide to Parenting a Teenager ได้ฝากข้อคิดไว้อย่างน่าฟังว่า "สามีภรรยาโดยปกติทั่วไป เขาไม่จ้างนักสืบให้คอยสอดแนม เฝ้าติดตามสามีหรือภรรยาของตัวหรอกว่าไปทำอะไรที่ไหนบ้าง ขณะที่พ่อแม่ ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกหลาน ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งอุปกรณ์พิเศษเหล่านั้นเพื่อเฝ้าติดตามลูกๆ ของตน"
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 4477 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย por
IP: Hide ip
, วันที่ 19 ก.ย. 48
เวลา 16:02:07
|