• ชาวบ้านแม่เหียะ-เลี้ยงปู่แสะย่าแสะ |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 07 มิ.ย. 52 เวลา 23:05:59 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ชาวบ้านแม่เหียะ-เลี้ยงปู่แสะย่าแสะ
.......ชาวบ้านเลี้ยง.................
ชาวบ้านชุมชนแม่เหียะ เชียงใหม่จัดพิธี"เลี้ยงดง"ผีปู่แสะ ย่าแสะ อย่างยิ่งใหญ่ ประชาชนนับหมื่นแห่ร่วมงาน แม่งานฆ่าควายรุ่น เพื่อบวงสรวง ร่างทรงโชว์กินเลือดเนื้อสด ๆ ท่ามกลางสายตาผู้ชมที่มารอชมด้วยความสยดสยองเชียงใหม่จัดประเพณีโบราณ"เลี้ยงดง" พิธีบวงสรวงผีปู่แสะ-ย่าแสะ"พิธีกรรมที่ปฎิบัติกันยาวนาน โดยเมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 6 มิ.ย.นี้ ทางเทศบาลตำบลแม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สภาวัฒนธรรมตำบลแม่เหียะ และเครือข่ายองค์การชุมชนตำบลแม่เหียะ ได้ร่วมกันจัดประเพณีสืบสานตำนานประเพณีเลี้ยงดง เพื่อบวงสรวงปู่แสะและย่าแสะ ผู้ปกป้องดอยคำและเมืองเชียงใหม่ โดยจัดขึ้นที่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพปุย เชิงดอยคำด้านทิศตะวันตกบ้านแม่เหียะใน หมู่ 3 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในปีนี้มีผู้เดินทางไปร่วมงานประเพณีมากทั้งนักท่องเทียวชาวต่างประเทศและชาวไทยรวมทั้งรายการทีวีหลายช่อง และสารคดีลึกลับต่างประเทศเดินทางไปถ่ายทำรายการเป็นจำนวนมาก โดยประเพณีเลี้ยงดง ถือเป็นประเพณีโบราณหลาย ที่เซ่นสรวงดวงวิญญาณผีในป่า ซึ่งดวงวิญญาณเป็นผู้ปกป้องรักษาป่า โดยมีนายอดิศร กำเนิดศิริ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่เป็นประธานในพิธีและนายธนวัฒน์ คำยอดใจ นายกเทศมนตรีตำบลแม่เหียะ เป็นประธานจัดงาน โดยในประเพณีเลี้ยงดง จะมีการนำควายรุ่นเขาพังหูสีดำ จำนวน 1 ตัวเป็นเครื่องเซ่นให้ดวงวิญญาญผีปู่แสะ-ย่าแสะ ดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ที่ดูแลปกป้องคุ้มครองป่าต้นน้ำให้มารับเครื่องเซ่นโดยผ่านร่างทรงจะมากินเนื้อควายดิบๆ โดยก่อนพิธีจะเริ่มขึ้น ทางนายธนวัฒน์ ได้ทำการชี้แจงความเป็นมาของประเพณีว่าประเพณีเลี้ยงดงเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตกาลหลายร้อยปี เพื่อให้ประชาชนมีความรักความผูกพันและหวงแหนในป่าไม้ต้นน้ำลำธารจึงได้ขอทำความเข้าใจกับทางสื่อมวลชนที่เข้าไแปนำเสนอข่าวที่เห็นบางภาพเป็นภาพที่น่าสยดสยอง ว่าเป็นประเพณีเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรานงานว่าประเพณีเลี้ยงดงได้เริ่มขึ้นโดยที่ลานพิธีจะมีการตั้งศาลเพียงตาระบุชื่อผีเจ้าป่าเจ้าเขาไว้ถึง 12 ชื่อตั้งไว้ 12 แห่ง ซึ่งผีปู่แสะ ย่าแสะถือว่าเป็นดวงวิญญาณที่ปกปักรักษาป่าบริเวณแห่งนี้โดยผีปู่แสะ ชื่อยักษ์จิคำ และย่าแสะ ชื่อยักษ์ตาเขียว โดยที่บริเวณหน้าศาลจะมีซากควายที่ถูกฆ่าสังเวยวางไว้กลางลานพิธีกรรม โดยมีเลือดควายใส่ไว่ในถัง จากนั้นผู้ประกอบผู้พิธีกคือนายพรหมมา จินาราช อายุ 75 ปี เป็นเจ้าพิธีกรรม และร่างทรงที่วิญญาณปู่แสะ-ย่าแสะจะมาเข้าร่างชื่อนายเทอดศักดิ์ มูลเขียว อายุประมาณ 30 ปี โดยพิธีอัญเชิญวิญญาณต่างๆให้มาร่วมกินเครื่องเซ่นได้ดำเนินไปด้วยความตื่นเต้น โดยในช่วงที่รอวิญญาณจะมาเข้าร่าง ได้มีพิธีแห่พระบท เป็นภาพของพระพุทธเจ้าขนาดใหญ่ออกมาจากวัดป่าจี้ ต.แม่เหียะ มายังสถานที่ประกอบพิธีนำมาห้อยกิ่งไม้ไว้โดยความเชื่อมาแต่โบราณว่าภาพของพระพุทธองค์จะสามารถสกดดวงวิญญาณปู่แสะย่าแสะและผีป่าให้อยู่ในกรอบไม่ให้ละเมิดกฎเกณฑ์ ได้
เมื่อขบวนแห่พระบถมาถึงและมีการนำภาพพระพุทธเจ้ามาห้อยไว้ได้เกิดแกว่งไปมาทั้งๆที่ไม่มีลมเลย ชาวบ้านถือว่าพระพุทธองค์เสด้จมาแล้ว พิธีอัญเชิญดวงวิญญาณของผีปู่แสะ ย่าแสะ จึงได้เริ่มขึ้นโดยทางนายพรหมมา จินาราช เจ้าพิธีกรรมได้ทำพิธีท่องคาถาอัญเชิญดวงวิญาณปู่แสะย่าแสะ เข้ามา แต่ในครั้งแรกปรากฎว่ามีชายคนหนึ่งทำหน้าทมึงถึงขึ้นมาและบอกว่าเป็นผีประจำป่าแห่งนี้ และทำท่าร่ายรำ แต่ผู้เฒ่าผู้แก่ที่มาร่วมพิธีกรรมต่างไม่เชื่อว่าจะวิญญาณผีปู่แสะย่าแสะมาเข้าชายคนนี้จริง เพราะยังไม่ได้มีการบอกกล่าว จึงเห็นว่าพิธีกรรมที่ศักดิ์ศิทธิ์ที่ประกอบกันมาหลายร้อยปีจะถูกลบหลู่ลงได้ จึงให้นำตัวชายที่อ้างว่าถูกวิญญาณเข้าร่างออกไปจากบริเวณพิธี ซึ่งชายคนนั้นทำท่าดุดันตาแข็งแต่ในที่สุดก็เดินออกไป ทางผู้ประกอบพิธีจึงได้ดำเนินการต่อ และวิญญาณที่เชื่อว่าเป็นปู่แสะย่าแสะ ก็เข้าร่างนายเทอดศักดิ์ มูลเขียว ทันทีร่างของนายเทอดศักดิ์ที่กำลังยืนอยู่หงายหลังพาดลงไปแต่มีคนรับไว้ได้ทัน และดวงตานายเทอดศักดิ์ทมึงทึงดูมีอำนาจมาก และได้วิ่งลงมาจากหอทำพิธีมาที่เนื้อควายสดและเหล้าขาวที่ห้อยไว้ที่เสาไม้ไผ่ จากนั้นก็กินเนื้อดิบๆเข้าไปพร้อมทั้งดื่มเหล้าขาวพรวดเข้าปาก
เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกตะลึงแก่ชาวบ้านนับพันและรายการทีวีช่องต่างๆ ร่างทรงปู่แสะย่าแสะพุ่งเข้าซากควายสดที่นอนกลางลานและได้ขึ้นไปนั่งค่อมบนซากควายพร้อมทั้งฉีกเนื้อกินสดๆจากนั้นก็ได้ดื่มเลือดควายสดๆพร้อมทั้งเดินไปไหว้ศาลเพียงตา 12 ศาลและปีนขึ้นไปบนต้นไม้ พร้อมทั้งนอนฉีกเนื้อและเหล้ากรอกเหล้าเข้าปากดื่ม หลังจากลงมาจากต้นไม้ก็เข้าไปยังซากควายนั่งขย่มหลังเล่นประมาณ 5 นาทีจึงได้วิ่งออกไปไหว้พระบถภาพพระพุทธเจ้าที่แกว่งไปมาอย่างน่าอัศจรรย์ จากนั้นร่างทรงของปู่แสะย่าแสะได้กลับขึ้นไปบนทำที่ทำพิธีและได้ให้พรคนที่นำเครื่องสังเวยมามอบให้และจัดทำพิธีสักการะบูชาในครั้งนี้จากนั้นร่างทรงก็ออกไป
นายธนวัฒน์ คำยอดใจ นายกเทศมนตรีตำบลแม่เหียะ ได้เปิดเผยว่าประเพณีเลี้ยงดงนี้ชาวบ้านตำบลแม่เหียะได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกๆปีผ่านมาหลายร้อยปีแล้ว เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชาวเมืองเชียงใหม่ พิธีดังกล่าวในอดีตเจ้าผู้ครองนครล้านนา ได้เข้ามาร่วมพิธี ซึ่งกระทำกันมาโดยมีความเชื่อว่าจะก่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ฝนต้องต้องตามฤดูกาล ประชาชนไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ทำการเกษตรได้ผลดีตลอดปี ในขณะเดียวกันป่าต้นน้ำก็ยังอยู่ และผู้ที่จะบุกรุกป่าในบริเวณนี้ก็มักจะมีอันเป็นไปด้วยอิทธิฤทธิ์ ของดวงวิญญาณปู่แสะย่าแสะ
"หากจะมองว่าพิธีเลี้ยงดง"เป็นพิธีที่พิศดารและงมงาย ก็ขอบอกว่าที่แท้จริงพิธีกรรมนี้แฝงไปด้วยความศรัทธาและความอนุรักษ์ ความหวงแหนผืนป่าของเมืองเชียงใหม่ และที่เห็นกินเครื่องเซ่นดิบๆมิไช่เรื่องแปลกหรือพิศดารวิตถาร ตามที่เคยมีสื่อมวลชนหลายแห่งเคยเสนอข่าวอย่างบิดเบือนประเพณีนี้มาแล้ว การรับประทานอาหารดิบๆในภาคเหนือชาวบ้านนิยมกินลาบ หลู่ ส่ว หมูดิบ ควายดิบอยู่แล้วทพิธีกรรมนี้จุดประสงค์ก็คือให้เกิดสามัญสำนึกในการรักษ์และสงวนป่าไม้ผืนสุดท้ายของตำบลแม่เหียะไว้จึงขอทำความเข้าใจไว้"นายธนวัฒน์ กล่าวทำความเข้าใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับประเพณีเลี้ยงดง ทางสื่อมวลชนหลายแขนงได้เสนอข่าวออกมาทั้งภาพและข่าวอย่างน่ากลัว ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นได้ออกมาตำหนิประเพณีเลี้ยงดง ขอให้เลิกหรือลดภาพน่ากลัวลง จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ดูถูกประเพณีบ้านเกิดของตัวเองมาแล้ว สำหรับความเชื่อของชาวบ้านที่บริเวณแห่งนี้เป็นผืนป่าต้นน้ำอุดมสมบูรณ์มีน้ำตกมีลำห้วยน้ำไหลตลอดปี ดังนั้นชาวบ้านที่จะเข้าไปหาของป่าต้องทำพิธีขอจากผีป่า ผีดง ก็คือผีปู้แสะย่าแสะ เพื่อบอกกล่าวในการเข้าไปเก็บของป่าหรือล่าสัตว์ป่า หากผู้ใดไม่บอกกล่าวและละเมิดมักจะมีอันเป็นไป ตายโดยไม่รู้สาเหตุ ซึ่งในความเชื่อมาแต่โบราณกาลว่าเป็นการกระทำของ ยักษ์ปู่แสะย่าแสะ ที่พิทักษ์ป่ากินเป็นอาหารจึงได้การสร้างศาลผีปู่แสะย่าแสะขึ้นและทุกปีก็จัดประเพณีเลี้ยงดง นำซากควายหนุ่มมาเป็นเครื่องเซ่นสืบกันมาจนถึงปัจจุบัน
ข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 4471 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 07 มิ.ย. 52
เวลา 23:05:59
|