• ครูอ่างทองรวมตัวกันฟ้อง กบข. ครูเชียงใหม่ไม่ฟ้องบ้างเหรอ |
โพสต์โดย wan , วันที่ 02 ก.ค. 52 เวลา 14:06:31 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ครูอ่างทองแห่ฟ้อง กบข.
"ครู"แห่ฟ้อง"กบข.-กระทรวงการคลัง"
คมชัดลึก :กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.)-ก.คลัง รับเละ ลังครูอ่าง ทองแห่ฟ้องข้อหาละเมิดกฎหมายยัดเยียดผลขาดทุนสมาชิก หลังบริหารกองทุนเจ๊ง 7 หมื่นล้าน
(26พ.ค.)นายฉลอง ปิ่นทอง อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนวัดไผ่วงฯ ในฐานะสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาหลังกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.)ประกาศผลการดำเนินงานปี 2552 ข้าราชการซึ่งเป็นสมาชิก 1.7 ล้านคนทั่วประเทศต่างตื่นตระหนกไปตามกันเพราะกบข.มีผลขาดทุนจากการลงทุนในสินทรัพย์ปี 2551 กว่า 7 หมื่นล้านบาทจากสินทรัพย์รวม 3.7 แสนล้านบาท ที่สำคัญ กบข.ให้สมาชิกแบกรับผลการขาดทุนถ้วนหน้าเฉลี่ยคนละหมื่นถึงแสนบาทขึ้นอยู่กับเงินต้นของสมาชิก ส่งผลให้สมาชิกบางส่วนไปรวมตัวกันประท้วงหน้าทำเนียบรัฐบาลตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ขณะนี้ตนในฐานะสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) ยื่นศาลปกครองกลางฟ้อง กบข.(ผู้ถูกฟ้องที่ 1) นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการกบข.(ผู้ถูกฟ้องที่ 2) คณะกรรมการ กบข.(ผู้ถูกฟ้องที่ 3) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง(ผู้ถูกฟ้องที่ 4) ให้รับผิดชอบกับความผิดพลาดจากการละเมิดโจทย์ และมีประเด็นในการละเมิดกฎหมายอย่างชัดเจน
ขณะเดียวกันได้เน้นย้ำความผิดพลาดและไม่โปร่งใสในการลงทุนหุ้นที่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์(กลต.)ระบุว่าเป็นหุ้นปั่นอย่าง บริษัทยานภัณฑ์( YNP) ที่กบข.เข้าไปซื้อหุ้นหลายครั้ง นอกจากจะทำให้ขาดทุนแล้ว พอทราบเป็นหุ้นปั่นก็ยังไม่ขายทิ้ง ซึ่งการฟ้องดังกล่าว ศาลปกครองได้รับฟ้องแล้วตามคดีหมายเลขดำที่ 442 / 2552 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2552
โดยศาลปกครองมีคำสั่งไม่รับฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 เนื่องจากผู้ถูกฟ้องเป็นเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 4 วรรคหนึ่ง แห่พระราชบัญญัติความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ประกอบกับมาตรา 3(23) แห่งพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ( ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2544 ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และ 3 เป็นเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 4 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 การกระทำละเมิดของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ถึง 3 จึงอยู่ภายใต้บังคับของมาตรา 5 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว
ซึ่งบัญญัติว่าหน่วยงานของรัฐต้องรับผิดชอบต่อผู้เสียหายในผลแห่งละเมิดที่เจ้าหน้าที่ของตนได้กระทำในการปฏิบัติหน้าที่ ในกรณีนี้ผู้เสียหายอาจฟ้องหน่วยงานของรัฐดังกล่าวได้โดยตรง แต่จะฟ้องเจ้าหน้าที่ไม่ได้ และวรรคสอง ซึ่งบัญญัติว่า ถ้าการละเมิดจากเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ได้สังกัดหน่วยงานของรัฐแห่งใดให้ถือว่ากระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบตามวรรคหนึ่ง คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และ ที่ 3 กระทำการในการปฏิบัติหน้าที่ทำให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหายผู้ฟ้องคดีจึงต้องฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ให้รับผิดต่อผู้ฟ้องคดีในผลแห่งละเมิดที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ได้กระทำในการปฏิบัติหน้าที่และฟ้องกระทรวงการคลังให้รับผิดในผลแห่งละเมิด และฟ้องกระทรวงการคลังให้รับผิดในผลแห่งการละเมิดที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ได้กระทำในการปฏิบัติหน้าที่ แต่จะฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และที่ 3 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ไม่ได้
ส่วนผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ซึ่งผู้ฟ้องคดีฟ้องว่าไม่ดำเนินการตรวจสอบหรือแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง ผู้ฟ้องคดีมิได้มีคำสั่งขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาและกำหนดคำบังคับอย่างหนึ่งอย่างใดแก้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ศาลจึงไม่อาจกำหนดคำบังคับแก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 จึงมีคำสั่งไม่รับฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ไว้พิจารณา และ กำหนดให้กระทรวงการคลังซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่ต้องรับผิดชอบในผลแห่งละเมิดที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ได้กระทำในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5
นายฉลอง ปิ่นทอง กล่าวต่อไปว่า ผลสรุปคือ ศาลปกครองรับฟ้องกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 และ กระทรวงการคลังเป็นผู้ถูกฟ้องที่ 5 ซึ่งในการฟ้องดังกล่าวเป็นเรื่องเฉพาะตัวจะทำการฟ้องแทนกัน หรือฟ้องเป็นกลุ่มไม่ได้ ขณะนี้มีเพียงข้าราชการครูบางส่วนประมาณ 100 คนโดยเฉพาะในเขตอำเภอสามโก้ ที่มีนายอรรถเดช เดชฟุ้ง เป็นแกนนำ ที่ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อเป็นการรักษาสิทธิของตนเองไม่ให้ถูกละเมิดจากหน่วยงานของรัฐ
ด้านนายเสนาะ หิรัญอ่อน เลขาฯสหภาพครูแห่งชาติ(สาขาอ่างทอง) ซึ่งเป็นแกนนำหลักในระดับประเทศ ในการเสนอข้อเรียกร้องไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่กำกับดูแล กบข.ซึ่งข้อเรียกร้องหลัก คือ 1. ให้จ่ายเงินผลประโยชน์ให้กับสมาชิกที่เกษียณอายุราชการหรือลาออก จำนวนร้อยละ 95 ของเงิน 24 เดือนสุดท้าย (จากเดิมจ่ายโดยการหาค่าเฉลี่ยของ 60 เดือนท้ายแต่ไม่เกินร้อยละ 70) 2. ให้ทำการคุ้มครองสมาชิกที่เกษียณอายุราชการและลาออก จนกว่าจะเสียชีวิต 3. ให้สมาชิกลาออกได้ การนำเสนอข้อเรียกร้องดังกล่าวหากไม่ได้รับการสนองตอบก็จำเป็นต้องขอความร่วมมือกับสมาชิก เพื่อดำเนินการในระดับที่เข้มข้นต่อ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 3849 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย wan
IP: Hide ip
, วันที่ 02 ก.ค. 52
เวลา 14:06:31
|