• อภิสิทธิ์ วอน ทักษิณ งดโฟนอิน |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 18 ส.ค. 52 เวลา 09:38:25 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
“นายกฯ” หวั่นเคลื่อนไหวทางการเมืองกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศที่เริ่มดีขึ้น ถก สมช.กำชับหน่วยงานด้านความมั่นคงดูแลความสงบเรียบร้อย วอน”ทักษิณ”งดโฟนอินที่กระทบต่อสถาบันหลังเสื้อแดงถวายฎีกาแล้ว “ปณิธาน” เผยสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้เริ่มเปราะบาง อ้างเสื้อแดงอยากเห็นผล ขู่ถ้าใช้ความรุนแรงอาจต้องนำกฎหมายพิเศษมาบังคับใช้ในช่วงปลายปี ให้ สมช. เร่งตั้งหน่วยงานเฉพาะแก้ปัญหาทางทะเลและการหลบหนีเข้าเมือง
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 17 ส.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้มีรายงานถึงความเคลื่อนไหวและการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในการ ยื่นถวายฎีกา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับว่าจะต้องดูแลความสงบเรียบร้อย
อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวและการชุมนั้นถือว่าเป็นไปตามกฎหมายรัฐ ธรรมนูญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้แนวทางกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะต้องดูแลความสงบ เรียบร้อยให้ได้ และต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าจากเหตุการณ์หลายเดือนที่ผ่าน มาสถานการณ์ของประเทศไทยถูกมองด้วยสายตาที่ดีขึ้น แม้สถานการณ์ทางการเมืองจะมีความขัดแย้งแต่ก็ไม่เกิดความรุนแรง สัญญานจากต่างประเทศจึงเป็นในเชิงบวกมากขึ้น จึงได้กำชับให้หน่วยงานต่างๆ ทำงานด้วยความระมัดระวัง ขณะเดียวกันก็ต้องติดตามและกำชับไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการทำงาน
“ฝ่ายความมั่นคงได้รายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อยื่นถวายฎีกาขอ พระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ที่ประชุมรับทราบ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลให้เกิดความเรียบร้อย โดยคำนึงถึงภาพลักษณ์ประเทศไทย เนื่องจากขณะนี้นานาประเทศเริ่มมองประเทศไทยดีขึ้น จึงต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นมาอีก ทั้งนี้รัฐบาลขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ดูแลสถานการณ์ให้ผ่านพ้นไป ด้วยความเรียบร้อย แต่สิ่งที่กังวลคือกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินเข้ามาพูดคุยกับประชาชน เพราะอาจทำให้เกิดความรู้สึกต่อต้านจากบางฝ่ายได้ จึงอยากขอความร่วมมือพ.ต.ท.ทักษิณให้ยุติการกระทำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อ สถาบัน เพราะขณะนี้กระบวนถวายฎีกาได้เดินหน้าไปแล้ว ซึ่งภายหลังได้รับเรื่องจากสำนักราชเลขาธิการ รัฐบาลโดยกระทรวงยุติธรรมจะตรวจสอบความถูกต้องของกระบวนการถวายฎีกา และรายชื่อของประชาชนทั้งหมด ก่อนส่งเรื่องมาที่สำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อถวายความเห็นต่อไป ทั้งนี้คาดว่าในการประชุมครม. วันที่ 18 สิงหาคม จะมีการหยิบยกกรณีการถวายฎีกาขึ้นหารือในที่ประชุมในวาระประธานแจ้งให้ทราบ เพราะถือเป็นหน้าที่ของครม.อยู่แล้ว แต่แนวโน้มคงไม่มีมติทางการออกมา” นายปณิธาน กล่าว
นายปณิธาน กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนหลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงยื่นถวายฎีกาแล้วนั้น ถ้าเป็นการถวายฎีกาใน เรื่องทั่วไปตามโบราณราชประเพณี ขั้นตอนต่อไปก็คือทางสำนักราชเลขาธิการฯ ก็จะส่งมาที่รัฐบาลโดยผ่านทางกระทรวงยุติธรรม ขณะนี้เราคงต้องรอทางกระทรวงยุติธรรมตรวจสอบความถูกต้องตามขั้นตอน เมื่อกระทรวงยุติธรรมโดยรมว.ยุติธรรม ได้ตรวจสอบตามขั้นตอนเสร็จแล้ว รวมทั้งการตรวจสอบรายชื่อก็จะส่งกลับมาที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งเราก็จะทำความเห็นประกอบส่งกลับไปที่สำนักราชเลขาธิการ ส่วนจะต้องใช้ระยะเวลานานเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบซึ่งขึ้นอยู่กับ กระทรวงยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลนึกอย่างไรถึงต้องการขอความร่วมมือจากพ.ต.ท.ทักษิณ นายปณิธาน กล่าวว่า เป็นเพราะประชาชนอยากเห็นความร่วมมือของ 2 ฝ่ายในการสร้างความสมานฉันท์ แม้จะมีความขัดแย้งทางการเมือง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะร่วมมือกันทำงานไม่ได้
นายปณิธาน กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมสมช. ยังได้ประเมินสถานการณ์ทางการเมืองหลังจากนี้ โดยเห็นว่าทุกฝ่ายต้องช่วยกันประคับประคองสถานการณ์ต่อไป เนื่องจากฝ่ายที่ยื่นถวายฎีกาอาจ มีความคาดหวังว่าผลออกมาอย่างหนึ่งอย่างใด โดยอาจใจร้อน หรืออยากเห็นผลในเร็ววัน ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์เปราะบางไปถึงสิ้นปี ดังนั้นกระบวนการต่างๆ จึงต้องดำเนินไปอย่างโปร่งใส มีคำตอบ และสามารถอธิบายได้ อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าสถานการณ์ต่างๆ จะไม่นำไปสู่ความวุ่นวายในบ้านเมืองอีก เพราะผู้เกี่ยวข้องมีแนวทางในการปฏิบัติที่ชัดเจนแล้ว หากเกิดความรุนแรงก็จะใช้มาตรฐานเดียวกับที่เคยใช้ในเดือนเมษายน เช่น การนำกฎหมายพิเศษขึ้นมาใช้ โดยคำนึงถึงการปกป้องสิทธิมนุษยชนด้วย
เมื่อถามว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้พูดถึงสถานการณ์ทางการเมืองอย่างไร เพราะหลายฝ่ายพุ่งเป้าไปที่ทหาร นายปณิธานกล่าวว่า หลายคนพูดว่าขณะนี้ความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายทหาร ตำรวจ และพลเรือนสามารถทำงานร่วมกันด้วยความเรียบร้อย มีการสนับสนุนกันเป็นอย่างดี
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก คมชัดลึก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1300 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 18 ส.ค. 52
เวลา 09:38:25
|